เครื่องฝึกขมิบ ถูกคิดค้นขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาปัสสาวะเล็ดราดในสตรี เป็นปัญหาที่พบได้ในสตรีทุกวัย แต่พบบ่อยในสตรีสูงวัย ซึ่งนำความลำบากและความรำคาญใจมาสู่ผู้ที่เป็นโรคนี้อย่างมาก
พญ.จิราภรณ์ ครุพานิช สูติ-นรีแพทย์ และเวชศาสตร์ครอบครัว (วัยทอง) โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายถึงลักษณะอาการของโรคปัสสาวะเล็ดที่ทำให้ผู้ป่วยต้องมาพบแพทย์ ว่ามีอยู่ 2 กรณี คือ 1.ตั้งใจจะกลั้นปัสสาวะแต่กลั้นไม่อยู่ 2.ปัสสาวะเล็ดออกมาเองโดยไม่รู้ตัว อาการเหล่านี้เป็นปัญหาที่น่ารำคาญมาก เพราะผู้ป่วยไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ใช้ชีวิตไม่เป็นปกติสุข
สาเหตุของปัสสาวะเล็ด ถ้าเป็นสตรีสูงวัยมักเกิดจากความเสื่อมของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่พยุงมดลูก ช่องคลอด และกระเพาะปัสสาวะ นอกจากนี้มักพบในสตรีที่ผ่านการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร โดยเฉพาะผู้ที่มีบุตรจำนวนหลายคน หรือบุตรมีน้ำหนักตัวมากเกิน 4 กิโลกรัม ก็ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้ได้ รวมถึงผู้ที่เป็นโรคอ้วนหรือมีน้ำหนักตัวมาก ผู้ที่ชอบกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานๆ และผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่างที่จะไปเพิ่มแรงดันในช่องท้อง เช่น ภูมิแพ้ ไอเรื้อรัง เป็นต้น ล้วนเป็นปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะปัสสาวะเล็ดได้เช่นกัน
“ขมิบ” แก้ไขปัสสาวะเล็ดโดยไม่ต้องผ่าตัด
การแก้ไขอาการปัสสาวะเล็ด ทำได้โดยการบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานด้วยการขมิบ ไม่ใช่ทำเฉพาะหลังคลอดบุตร แต่ควรทำตลอดเวลา และควรบริหารอย่างถูกวิธีซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ เพราะมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ขมิบไม่ถูกวิธีแต่ไม่รู้ตัวว่าทำผิด จึงไม่มีผลต่อการรักษา ทางที่ดีควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์จะดีที่สุด
...
รู้ได้อย่างไรว่า “ขมิบ” ถูกวิธี
ปัจจุบันได้มีการคิดค้นเครื่องมือที่เรียกว่า “ยูโรสตีม” เป็นเครื่องมือสำหรับประเมินว่า ผู้ป่วยขมิบถูกต้องหรือไม่ ซึ่งผู้รับการตรวจสามารถเห็นผลของการขมิบได้ด้วยตนเองว่าทำถูกต้องหรือไม่ เครื่องยูโรสตีมเป็นอุปกรณ์คล้ายๆ แท่งทรงกระบอก สำหรับใส่เข้าไปในช่องคลอด และมีสายต่อไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ เมื่อขมิบแต่ละครั้งผลจะแสดงเป็นกราฟขึ้นที่หน้าจอแสดงผล ซึ่งมีหลายรูปแบบ ยกตัวอย่างเช่น แสดงผลเป็นสัญลักษณ์รูปปลาโลมากระโดด หากขมิบถูกต้อง ปลาโลมาจะกระโดดขึ้นเหนือน้ำในระดับความสูงที่แตกต่างกันตามแรงขมิบ และถ้าขมิบไม่ถูกต้องปลาก็จะดำดิ่งลงไปใต้น้ำ เป็นต้น หากกราฟแสดงว่าขมิบไม่ถูกต้อง แพทย์ก็จะเข้าไปแนะนำว่าควรทำอย่างไรจึงจะถูกต้อง การประเมินด้วยเครื่องยูโรสตีมนี้ ไม่เจ็บ วัสดุที่ใช้เป็นของเฉพาะตัว และมีอุปกรณ์สำหรับนำกลับไปทำที่บ้านได้ด้วย อย่างไรก็ตาม หลังจากกลับไปบริหารเองที่บ้าน ก็ควรมาตรวจเช็คผลการรักษากับแพทย์เป็นระยะ
พญ.จิราภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อทราบวิธีการขมิบอย่างถูกต้องแล้ว การรักษาที่ได้ผลควรมีการบริหารอุ้งเชิงกรานด้วยการขมิบทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาทีขึ้นไปต่อวัน หรือ 50 ครั้งต่อ 1 รอบที่ทำ วิธีการขมิบคือ ขมิบกลั้นค้างไว้ 20 วินาทีแล้วค่อยปล่อย นับเป็น 1 ครั้ง ซึ่งจากรายงานพบว่าการขมิบได้ผลประมาณร้อยละ 50-60 แต่ต้องอาศัยระยะเวลา คือทำสม่ำเสมอทุกวันต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 3 เดือน
ดังนั้น การบริหารอุ้งเชิงกรานด้วยการขมิบ จึงเป็นทางออกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาปัสสาวะเล็ด โดยไม่ต้องผ่าตัด นอกจากจะใช้ในการรักษาแล้ว ยังสามารถปฏิบัติได้ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่นเพื่อป้องกันการเกิดโรคปัสสาวะเล็ด
ส่วนการแก้ไขด้วยวิธีการผ่าตัดโดยใช้ Mid Urethral Sling ซึ่งส่วนมากจะไม่กลับมาเป็นซ้ำ ทั้งนี้เมื่อรับการผ่าตัดแก้ไขแล้ว ก็ควรฝึกขมิบกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกรานต่อไป และหลีกเลี่ยงภาวะการไอเรื้อรัง ตลอดจนการยกของหนักต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเพิ่มแรงดันในช่องท้อง เป็นการป้องกันไม่ให้กระเพาะปัสสาวะหย่อน อันเป็นสาเหตุของปัสสาวะเล็ด
กรณีช่องคลอดหย่อน
กรณีที่มีปัญหารุนแรง ช่องคลอดหย่อนลงไปเบียดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้เกิดปัสสาวะเล็ด และมีข้อจำกัดที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่สามารถดมยาสลบได้ เป็นต้น แพทย์อาจพิจารณารักษาโดยใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงช่องคลอดที่เรียกว่า Pessary ลักษณะคล้ายโดนัทหรือวงรี ใส่ได้ตลอดเวลาโดยไม่รู้สึกอึดอัด อุปกรณ์นี้ใส่ไว้เพื่อดันกระเพาะปัสสาวะที่หย่อนลงมาในช่องคลอดขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม จะได้ไม่มีการอุดตันของท่อปัสสาวะ การใช้ Pessary ต้องได้รับการติดตามดูแลจากแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
พญ.จิราภรณ์ กล่าวโดยสรุปว่า เครื่องยูโรสตีม นับเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยประเมินการบริหารกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน ซึ่งเป็นวิธีการรักษาผู้มีปัญหาปัสสาวะเล็ดที่ได้ผลดี แต่หากป้องกันตั้งแต่ก่อนเกิดโรคย่อมดีกว่าการรักษา เพราะฉะนั้นสุภาพสตรีไม่ควรกลั้นปัสสาวะ เพราะผลเสียของการกลั้นปัสสาวะนั้นมีมากกว่าที่คิด ในช่วงแรกๆ ยังกลั้นได้ แต่พอนานๆ ไป กล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะมีอาการล้า พอกล้ามเนื้อล้าแล้วปัสสาวะก็จะไหลโดยไม่รู้ตัว ประการที่สองคือ พอกลั้นปัสสาวะมากๆ หรือมีการอุดกั้นทางออกของปัสสาวะ อาจเกิดจากกระเพาะปัสสาวะหย่อน ก็จะเกิดการล้นไปยังท่อไตทั้งสองข้าง นำมาซึ่งสาเหตุของการติดเชื้อ และลามไปถึงไตได้ อาจจะทำให้เกิดโรคไตวายในที่สุด
...
สอบถามเพิ่มเติมที่ ศูนย์สุขภาพสตรี
โทร. 0-2734-0000 ต่อ 3200, 3204