นอกจากความสวยเก๋ตามแบบฉบับคนรุ่นใหม่จะเป็นที่สะดุดตาผู้พบเห็นแล้ว พริม–อภิภา วิศรุทเวช ยังเป็นลูกสาวสุดรักสุดหวงของอธิบดีกรมการแพทย์ นพ.เรวัต วิศรุทเวช ที่หลายคนอยากทำความรู้จัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนุ่มๆในแวดวงกระทรวงการคลัง เพราะเธอเป็นข้าราชการน้อง ใหม่ที่ขยันขันแข็ง ที่สำคัญคือโสดสนิท!!!
ก่อนจะเดินตามรอยผู้เป็น พ่อเข้าสู่งานราชการ พริม ยอมรับว่าจริงๆแล้วไม่เคยคิดรับราชการเลย เพราะรู้สึกว่าระบบราชการเป็นอะไรที่ช้าและคร่ำครึ แต่ก็ยังไม่รู้ตัวเองอย่างแน่ชัดว่า อยากทำงานด้านไหนกันแน่ หลังเรียนจบปริญญาตรีด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทด้านบริหารจาก Kingston University ประเทศอังกฤษ พริม ได้ไปฝึกงานกับบริษัท Thysen Krypp ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นบริษัทท็อปไฟว์ของเยอรมนี ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับลิฟต์ บันไดเลื่อน ต่อเรือ และธุรกิจที่เกี่ยวกับเหล็ก อะไหล่ต่างๆ จนรู้ตัวเองว่าชอบด้านธุรกิจ เมื่อกลับมาเมืองไทยจึงมาทำงานด้านสินเชื่อที่ธนาคารกรุงเทพ ดูแลสินเชื่อรายใหญ่บริษัทข้ามชาติ
พริม บอกว่า ทำงานแบงก์อยู่ประมาณปีเศษ ก็ต้องเปลี่ยนใจมารับราชการตามรอยคุณพ่อ เพราะคุณแม่ (ศรีศัย วิศรุทเวช) อยากให้ลูกสาวทำงานกระทรวงการคลัง เธอจึงสมัครสอบเข้ากระทรวงการคลังตามระบบราชการทุกอย่าง เพื่อให้คุณแม่ได้ สมหวัง เมื่อสอบได้ และเข้ามาอยู่ในส่วนความร่วมมือระหว่างประเทศ ของสำนักนโยบายและแผน กระทรวงการคลัง ดูแลการบริหารหนี้สาธารณะ “พอเข้ามาทำงานกระทรวงจริงๆ ก็ทำให้ภาพบางภาพที่เรามองว่า ระบบราชการเก่าคร่ำครึนั้นไม่ใช่เลย เพราะงานส่วนใหญ่แทบจะเป็นระบบงานกึ่งเอกชน มีความรวดเร็ว คล่องตัว และคนทำงานก็แอคทีฟ จึงลบภาพเก่าๆที่เราเคยวาดไว้ และยิ่งทำงานก็ยิ่งบอกได้เลยว่า งานราชการเป็นงานที่น่าสนใจ ติดแค่เพียงเรื่องเงินเดือนน้อย คนเลยไม่อยากเข้ามาสู่งานราชการ”
สาว มั่นและเก่งอย่างพริมยังบอกด้วยว่า เธอโชคดีที่มีคุณพ่อเป็นต้นแบบของคนทำงานราชการ จึงได้รับคำแนะนำที่ดีๆจากคุณพ่อ “พ่อจะบอกเสมอว่า ทางเดียวที่จะอยู่รอดในระบบราชการคือ เราต้องคิดดี ไม่ว่าจะเจอวิกฤติหรือสถานการณ์อะไรที่ทำให้เราท้อ เราต้องคิดอย่างไรก็ได้ว่า มันต้องดีกว่าที่ผ่านมา ต้องมีอะไรดีขึ้น ต้องมีอะไรดีๆเข้ามาหาเรา และต้องคิดขอบคุณในสิ่งที่เรามี แล้วจะเกิดสิ่งดีๆกับเราเอง” และเธอก็น้อมรับคำแนะนำนี้มาใช้ จึงทำให้มีความสุขกับงานที่ทำ และมีเป้าหมายที่จะวิ่งชน คือการก้าวไปให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ในสายงานที่รับผิดชอบ.
...