ราชวงศ์โมนาโก อายุเก่าแก่กว่า 700 ปี จะกลับฟื้นมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากถูกตีตราว่าเป็นราชวงศ์ต้องคำสาป  ไม่เคยสมหวังในความรัก เมื่อ ชาร์ลีน วิตต์สต็อก อดีตนักว่ายน้ำโอลิมปิกสัญชาติแอฟริกาใต้ วัย 33 ปี เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับ “เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2” ประมุขผู้ครองโมนาโก ในวันที่ 2 ก.ค.นี้ กลายเป็นเจ้าหญิงเกรซยุคใหม่ ที่พร้อมแต่งแต้มพระราชวังแห่งกริมัลดี ให้เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุขสดชื่น

ถึงแม้โมนาโกจะเป็นเพียงแคว้นเล็กๆ ที่มีประชากรอยู่เพียง 36,000 คน แต่ก็ร่ำรวยมหาศาลจากบ่อนกาสิโน และเป็นต้นตำรับของตำนานความรักสุดคลาสสิกระหว่างเจ้าชายผู้สูงศักดิ์กับซินเดอเรลล่า จึงไม่น่าแปลกใจที่งานอภิเษกสมรสของ “เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2” ประมุขผู้ครองตัวเป็นโสดมาจนถึงพระชนม์ย่าง 53 ชันษา จะได้รับความสนอกสนใจจากชาวโลกในระดับน้องๆงานเสกสมรสประวัติศาสตร์ของพระราชวงศ์อังกฤษ “เจ้าชายวิลเลียม” กับ “ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์” ซึ่งจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่กลายเป็นทอล์กออฟเดอะเวิลด์ เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา


การประกาศหมั้นหมายอย่างเป็นทางการของ “เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2” พระโอรสองค์เดียวของ “เจ้าชายเรเนียร์ที่ 3” ประมุของค์ก่อนผู้ล่วงลับ ถือเป็นข่าวมงคลที่จุดประกายความหวังให้ชาวโมนาโกอีกครั้งในรอบ 3 ทศวรรษ นับตั้งแต่ “เจ้าหญิงเกรซ” พระมารดาของเจ้าชายประสบอุบัติเหตุรถคว่ำบนเนินเขาใกล้โมนาโก และสิ้นพระชนม์อย่างน่าพิศวง โดยผลพิจารณาพระศพอย่างไม่เป็นทางการระบุว่า “เจ้าหญิงสเตฟานี” พระธิดาองค์เล็ก ทรงเป็นผู้กุมพวงมาลัยในวันเกิดเหตุ ขณะนั้น โมนาโกจมอยู่ในความเศร้าโศกนานเป็นปี “เจ้าชายเรเนียร์ที่  3” ทรงสั่งไว้ทุกข์ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือนเต็มๆ และตลอดพระชนม์ชีพที่เหลืออยู่ก็ไม่เคยข้องแวะกับสตรีนางใด

สาเหตุที่ “เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2” ทรงครองตัวเป็นโสดมานาน ว่ากันว่า เป็นเพราะถูกพระบิดาเข้มงวดกวดขันมาก นอกจากจะทรงผลักดันให้รัชทายาทอันดับ  1  เรียนรู้ศาสตร์มากมายหลากหลายแขนง เพื่อเตรียมพระองค์ให้พร้อมสำหรับเป็นประมุขโมนาโก ทั้งด้านรัฐศาสตร์, เศรษฐศาสตร์, วรรณคดีอังกฤษ, ดนตรี, การทหาร, การทูต, วิชาการปกครอง, ปรัชญา, จิตวิทยา และการกีฬา เรื่องการเลือกพระชายาก็เป็นอีกประเด็นสำคัญ ที่ทรงต้องขอความเห็นชอบจากพระบิดา สมัยหนุ่มๆทรงเป็นหนุ่มเนื้อหอมมาก มีดารานางแบบชื่อดังเข้ามาพัวพันไม่ขาดสาย แต่ก็ไม่มีใครมีคุณสมบัติดีพอจะฝ่าด่าน 18 อรหันต์ไปได้ จนกระทั่ง “เจ้าชายเรเนียร์ที่ 3” สิ้นพระชนม์ เมื่อเดือน เม.ย.2005 และ “เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2” เสด็จขึ้นครองราชย์ เป็นประมุของค์ใหม่ของแคว้นโมนาโก พระองค์จึงมีอิสระอย่างเต็มที่


นับเป็นวาสนาของสาวน้อยผมทองอายุรุ่นลูกจากแอฟริกาใต้ “ชาร์ลีน วิตต์สต็อก” ซึ่งได้รับเลือกจากประมุของค์ใหม่ของโมนาโกให้เป็นแฟนสาวตัวจริง ที่พร้อมเปิดตัวต่อสาธารณชน ทั้งคู่เป็นกิ๊กกันอยู่แล้ว ตั้งแต่ก่อนที่พระบิดาจอมเฮี้ยบจะสิ้นพระชนม์ โดยเจ้าชายโมนาโกทรงปิ๊งรักกับนักว่ายน้ำทีมชาติแอฟริกาใต้ เมื่อปี 2000 ระหว่างที่สาวน้อยตัวโย่งเดินทางมาแข่งว่ายน้ำที่โมนาโก จากนั้นสาวน้อยนักกีฬาก็เดินทางไปร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย

ความฝันของ “ชาร์ลีน วิตต์สต็อก” ที่จะได้เป็นเจ้าหญิงองค์ใหม่แห่งโมนาโก เริ่มมีทีท่าว่าจะเป็นจริง เมื่อทรงได้รับคำชวนจาก “เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2” ให้ตามเสด็จไปร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ฤดูหนาว ที่เมืองตูริน ประเทศอิตาลี เมื่อปี 2006 เพื่อกลบกระแสข่าวคาวที่โดนเปิดโปงเรื่องทรงมีบุตรนอกสมรส 2 คน โดยคนหนึ่งเป็นบุตรชาย ชื่อว่า “อเล็กซองด์” วัยย่าง 7 ขวบ เกิดกับอดีตแอร์โฮสเตสผิวสีของสายการบินแอร์ฟรานซ์ ส่วนอีกรายโตเป็นสาววัยรุ่นแล้ว ใช้ชีวิตอยู่กับแม่ที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีชื่อว่า “จัสมิน เกรซ กริมัลดี”

และแล้วสัญญาณที่บ่งชี้ว่า อีกไม่นานจะมีข่าวดีก็ปรากฏขึ้น หลังรอคอยมานาน 4 ปีเต็ม เมื่อประมุของค์ใหม่ของโมนาโก ทรงควง“ชาร์ลีน” ตามเสด็จไปเป็นแขกในงานอภิเษก สมรสของเจ้าฟ้าหญิงวิคตอเรีย มกุฎราชกุมารีสวีเดน ช่วงเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งตามราชประเพณีของราชวงศ์ยุโรป ถือว่าเป็นงานใหญ่ระดับทางการ


และก็จริงอย่างที่คาดการณ์เสียด้วย เพราะหลังจากพาออกงานใหญ่ได้ไม่กี่วัน สำนักพระราชวังโมนาโก ก็ออกแถลงการณ์ประกาศข่าวดีว่า “เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2” ได้ทรงหมั้นหมายอย่างเป็นทางการกับแฟนสาว “ชาร์ลีน วิตต์สต็อก” แล้ว เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2010

โดยฝ่ายหญิงเปิดใจภายหลังว่า ในช่วงแรกๆที่คบกัน ต้องเก็บงำความสัมพันธ์ทุกอย่างไว้เป็นความลับ ขณะนั้น ฉันยอมรับว่า ไม่มีความคิดที่จะย้ายถิ่นฐานออกจากแอฟริกาใต้ และยังคงมุ่งมั่นเอาดีกับการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำ กระทั่งได้รับบาดเจ็บจากการร่วมกีฬาโอลิมปิก เกมส์ ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อปี 2008 ทำให้ต้องถอนตัวจากการแข่งขันว่ายน้ำ และตัดสินใจอย่างยากลำบากที่สุดในชีวิตว่า คงถึงเวลาต้องสละความฝันซะแล้ว ตอนนั้น ฉันย้ายไปอยู่ที่โมนาโกก็จริง แต่ก็ไม่ได้รับสัญญิงสัญญาอะไรเกี่ยวกับอนาคตเรื่องการแต่งงาน คงมีแต่ความศรัทธาอย่างแรงกล้าในตัวเจ้าชาย ทำให้ฉันมั่นใจว่า สักวันคงได้แต่งงาน

ครองคู่กับพระองค์ ซึ่งวันนั้นก็มาถึงจริงๆ เมื่อเจ้าชายทรงขอฉันแต่งงาน หลังเสด็จกลับจากงานอภิเษกสมรสของมกุฎราชกุมารีสวีเดนว่าที่เจ้าสาวคนใหม่ของโมนาโก ยังเปิดใจให้สัมภาษณ์ว่า ฉันมีความสุขมากกับการแต่งงานที่จะมีขึ้น ฉันหวังว่างานแต่งงานครั้งนี้จะเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความประทับใจให้ทุกคน มีการตระเตรียมงานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือน โดยทีมงานที่มีฝีมือยอดเยี่ยมที่สุด


ในฐานะซินเดอเรลล่าคนล่าสุด ที่ได้สมหวังรักกับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ “ชาร์ลีน” เผยความรู้สึกว่า...ฉันเป็นคนแอฟริกัน ไม่ได้เกิดในยุโรป และไม่ได้เกิดมาเป็นเจ้าหญิง แต่ฉันจะพยายามทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเท่าที่ทำได้ เมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะทุ่มเทและอุทิศตัวให้กับประชาชนชาวโมนาโก ทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้อย่างดีที่สุด ฉันเริ่มเรียนรู้เรื่องระเบียบวินัยมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และในฐานะนักว่ายน้ำอาชีพ ฉันต้องพร้อมเสมอสำหรับความท้าทายทุกรูปแบบ ฉันเชื่อมั่นว่า สิ่งที่หล่อหลอมจากการเป็นนักกีฬา รวมถึงเรื่องความอดทน จะช่วยให้ฉันสามารถรับมือกับบทบาทใหม่ได้อย่างสง่างาม...จนถึงวินาทีนี้ บางครั้งฉันต้องหยิกตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่าฉันไม่ได้ฝันไป นี่คือชีวิตจริง ฉันกำลังอยู่ในสถานที่ที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก กับเจ้าชายในฝันของฉัน...เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งได้พบกับชายที่เธอรักเขาอย่างจริงใจ และโชคดีที่ได้แต่งงานกับเขา ทุกอย่างก็งดงามราวกับเทพนิยายจริงๆ

เมื่อถามถึง “เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2” พระคู่หมั้นคนสวยยกย่องว่า เจ้าชายทรงเป็นบุรุษที่มีเสน่ห์ และมีจิตใจงดงามที่สุดเท่าที่เคยพบมา ทรงมีความอดทนอย่างไร้ขีดจำกัด และทรงอ่อนโยนอย่างเหลือเชื่อ ทรงทำให้ผู้คนรอบข้างรู้สึกพิเศษ พระองค์ทรงเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบในทุกๆด้าน ฉันเข้าใจและเคารพในตัว พระองค์อย่างยิ่ง


สำหรับอนาคตของเจ้าหญิงองค์ใหม่แห่งโมนาโก ทรงมุ่งมั่นว่า ฉันอยากจะมีลูกทันทีหลังแต่งงาน เพราะฉันรักเด็ก และฝันมานานแล้วว่าอยากสร้างครอบครัวเป็นของตัวเอง ขณะเดียวกัน ก็อยากจะอุทิศตัวเองเพื่อสังคม และให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ฉันชื่นชมในความกล้าหาญของ “เนลสัน แมนเดลา” เขาคือผู้เปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของแอฟริกา ความทุกข์ทรมานที่เขาได้รับ ทำให้เขากลายเป็นวีรบุรุษ ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงภูมิใจอย่างยิ่งที่จะได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนกองทุนของแมนเดลา และนี่คือจุดเริ่มต้นสำคัญของภารกิจที่ฉันตั้งใจจะสานต่อ เช่นเดียวกับการอุปถัมภ์องค์กรด้านการกุศล และกีฬา

เพื่อเปิดกว้างให้ประชาชนชาวโมนาโกได้มีส่วนร่วมในการเฉลิมฉลองการอภิเษกสมรสอันยิ่งใหญ่อย่างใกล้ชิดที่สุด “เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2” ทรงเลือกพาเลซ สแควร์ ลานหน้าพระราชวังแห่ง กริมัลดี เป็นสถานที่จัดพิธีอภิเษกสมรสอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 2 ก.ค.2011 แทนที่จะทรงจูงมือเจ้าสาวเข้าทำพิธีในมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์ เฉกเช่นเดียวกับพระบิดาและพระมารดา โดยงานนี้จะมีแขกเหรื่อมาร่วมยินดีมากกว่า 3,500 คน คับคั่งไปด้วยพระราชวงศ์โมนาโก, พระบรมวงศานุวงศ์น้อยใหญ่จากทั่วยุโรป, ผู้นำจากนานาประเทศ ตลอดจนบุคคลผู้มีชื่อเสียงในแวดวงกีฬาโอลิมปิก ขณะเดียวกัน ยังมีการติดตั้งจอสกรีนใหญ่ยักษ์ตามมุมต่างๆทั่วเมือง ถ่ายทอดสดภาพพิธีอภิเษกสมรสแห่งศตวรรษ นอกเหนือจากการจัดคอนเสิร์ต, จุดพลุ และการแสดงแสงสีเสียงอย่างยิ่งใหญ่อลังการต่อเนื่องตลอดทั้งค่ำคืน เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร่วมเฉลิมฉลองเต็มอิ่มทั่วหน้า  ให้สมกับการรอคอยมานานหลายทศวรรษ!!

...


ทีมข่าวหน้าสตรี