วัน​คืน​ที่​เหน็บ​หนาวใจ ยาม​ไร้​ใคร​สัก​คน ชีวิต​ดู​มืดมน​เหลือเกิน อยู่​อย่าง​เหงา ขาด​คน​คอย​เฝ้า​ปลอบโยน ฉัน​ต้อง​ทน​ต่อ​ไป​นาน​เท่า​ไหร่...เคย​เป็น​อย่าง​เช่น​เม็ด​ทราย พายุ​พัด​ห่าง​หาย ปลิว​คว้าง​ลอย​ล่อง​จม​ทะเล ขาด​จุดหมาย คลื่น​ซัด​ตะกาย​หา​ฝั่ง ฉัน​ยัง​คอย​อุ่น​ไอ​ใคร​สัก​คน... แล้ว​มี​เธอ​ที่​เห็น​ค่า ก้าว​เข้า​มา​อุ้มชู​หัวใจ ...ฉัน​จะ​อยู่​ตรง​นี้​ตลอด​ไป เพื่อ​เธอ​ที่​ฉัน​มอบ​ใจ...จำ​แวว​ตา​ของ​เธอ​ที่​จับ​หัวใจ เพราะ​รัก​ที่​เธอ​ให้​มา มี​ค่า​เท่า​แสง​วัน​ใหม่ จะ​ส่อง​ประกาย​เฉิดฉาย​ชั่ว​นิจ​นิ​รัน​ดร์ จวบ​จน​ประกาย​แห่ง​รัก​ชั่ว​ชีวิต​ฉัน...ความ​ทุกข์​ เลื่อนลอย​หาย​ไป ใน​วัน​ที่​เธอ​เข้า​มาคอย​ช่วย​ซับ​น้ำตา​ที่​ไหล​ริน กอด​ประคอง​เมื่อ​ยาม​ที่​ฉัน​หนาว​สั่น ยิ้ม​เธอ​มี​ไมตรี​สุด​แสน​หวาน...พร้อม​ฉัน​พร้อม​จะ​สู้​หมด​ใจ​บน​เวที​ชีวิต​ต่อ​ไป”

...นี่​คือ​เสี้ยว​ชีวิต​อัน​งดงาม​ซ่อน​เร้น​ที่​ไม่​เคย​เปิดเผย​ที่ไหน​ของ ตุ้ม-ศรี​ไศล สุ​ชา​ต​วุฒิ นัก​ร้อง​ชื่อ​ก้อง​ระดับ​ตำนาน​ของ​เมือง​ไทย เจ้าของ​เสียง​แหบ​เสน่ห์ ผู้​ขับ​กล่อม​บทเพลง​อัน​ลือ​ลั่น “รัก​ข้าม​ขอบ​ฟ้า” ซึ่ง​ถูก​นำ​มา​ถ่ายทอด​เป็น​บทเพลง​สุด​ประทับใจ​เป็น​ครั้ง​แรก เพื่อ​รำลึก​ถึง​ความ​รัก​อัน​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​มี​ต่อ “พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า​ว​รา​นนท์​ธวัช” ตลอด​เวลา 13 ปี​แห่ง​ความ​ทรง​จำ

4 ปี​ที่​แล้ว “คุณ​ตุ้ม-ศรี​ไศล” ซื้อ​คอน​โด​หรู​ริม​แม่น้ำ​เจ้าพระยา เพราะ​วาง​แผน​ว่าจะ​ย้าย​รกราก​จาก​อเมริกา​และ​อังกฤษกลับ​มา​ใช้​ชีวิต​ที่​เมือง​ไทย หลังจาก​ที่​ต้อง​ตระเวน​เดินทาง​ไป​มา​ระหว่าง​เมือง​ไทย, อเมริกา, อังกฤษ รวม​ถึง​ฝรั่งเศส ปี​ละ​หลาย​ครั้ง แต่​ก็​ยัง​ทำ​ไม่​สำเร็จ​ดัง​ตั้งใจ กระทั่ง​เมื่อ​ต้น​ปี​ที่​ผ่าน​มา ได้​เดินทาง​กลับ​มา​เปิด​คอนเสิร์ต​ใหญ่​เป็น​ครั้ง​แรก หลัง​ห่าง​หาย​จาก​เมือง​ไทย​ไป​นาน​ถึง 30 ปี และ​ได้​รับ​การ​ต้อนรับ​อย่าง​อบอุ่น​เกิน​คาด​จาก​แฟน​เพลง ทำให้​ มีเสียง​เรียก​ร้อง​ให้​กลับ​มา​เปิด​คอนเสิร์ต​อีก​ครั้ง ณ หอประชุม​ใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย วัน​อาทิตย์​ที่ 19 มิ.ย.​นี้ โดย​ใช้​ชื่อ​เดิม​ว่า “ศรี​ไศล สุ​ชา​ต​วุฒิ รัก​ข้าม​ขอบ​ฟ้า ไลฟ์ อิน คอนเสิร์ต” เธอ​จึง​ประกาศ​ชัดถ้อยชัดคำ​ว่า เมื่อ​ไหร่​ที่​ขาย​ชา​โต​ว์​ที่​นอ​ร์มัง​ดี ประเทศ​ฝรั่งเศส​ได้ จะ​บิน​กลับ​มา​อยู่​เมือง​ไทย เพื่อ​จะ​ได้​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่รัก ก่อน​ไร้​เรี่ยวแรง


วาง​แผน​ไว้​หรือ​ยัง​ว่า​จะ​กลับ​มา​อยู่​เมือง​ไทย​อย่าง​ถาวร​เมื่อ​ไหร่


(พยัก​หน้า) เหนื่อย​แล้ว ที่​ต้อง​บิน​ไป​บิน​มา​หลาย​ประเทศ และ​ตั้งใจ​มา​พัก​ใหญ่​แล้ว​ว่าจะ​กลับ​มา​ใช้​ชีวิต​อยู่​เมือง​ไทย​อย่าง​ถาวร เพื่อ​จะ​ได้​ทำ​ใน​สิ่ง​ที่​อยาก​ทำ​จริงๆ เช่น อยาก​เขียน​หนังสือ อยาก​ทำ​งาน​ศิลปะ และ​เรียน​วาด​รูป​สี​น้ำ​จริงจัง อยาก​จะ​เข้า​วัด​ปฏิบัติธรรม​ให้​มาก​ขึ้น ส่วน​เรื่อง​งาน​เพลง​คง​ปล่อย​ให้​เป็น​เรื่อง​ของ​อนาคต ที่จริง​ไม่​เคย​คิด​ฝัน​ด้วย​ซ้ำ​ว่า จะ​ได้​รับ​การ​ต้อนรับ​อย่าง​อบอุ่น​จาก​แฟน​เพลง​ขนาด​นี้ ทั้งๆที่​ห่าง​หาย​จาก​เมือง​ไทย​ไป​นาน​ถึง 30 ปี แต่​เมื่อ​มีเสียง​เรียก​ร้อง​ให้​กลับ​มา​เปิด​คอนเสิร์ต​อีก​ครั้ง เพราะ​ผู้​ชม​ยัง​ไม่​จุใจ ทำให้​เรา​รู้​ว่าคน​ไทย​ยัง​รัก​และ​ไม่​ลืม​เรา

คน​ส่วน​ใหญ่​มอง​ว่า​ชีวิต​ของ “ศรี​ไศล” เปรียบ​ดัง​ซิ​น​เดอ​เรล​ล่า เพราะ​ได้​ครอง​รัก​กับ​เจ้าชาย?!

ตั้งแต่​สาวๆตอน​ยัง​ไม่ได้​แต่งงาน ดิฉัน​ปลื้ม​พระองค์​ชาย​มาก เห็น​ท่าน​ที่ไหน​ก็​ไป​แอบ​ดู เพราะ​ทึ่ง​ความ​ส​มาร์ทและ​เก่ง​ของ​ท่าน ท่าน​เป็น​คน​ก่อตั้ง​แอร์​สยามคู่คี่​มา​กับ​ไทย​อินเตอร์ แต่​สมัย​นั้นรัฐบาล​ไม่​สนับสนุน​ให้​มี​สาย​การ​บิน​คู่แข่ง​กับ​สาย​การ​บิน​แห่งชาติ ใน​ที่สุด​แอร์​สยาม​ต้อง​ปิด​ตัว​ลง ท่าน​ก็​ยัง​กลับ​มา​เป็น​กัปตัน​ขับ​เครื่องบิน​ให้การ​บิน​ไทย แต่​ก็​ไม่​กล้า​คิด​ฝัน​อะไร​ไป​ไกล​กว่า​นั้น กระทั่ง​ดิฉัน​แยก​ทาง​กับ​สามี​คน​แรก “คุณ​ไพบูลย์ ลี​สุวัฒน์” ซึ่ง​เป็น​หัวหน้า​วง​ดนตรี​คีตะ​วัฒน์ หลัง​อยู่กิน​กัน​ได้ 10 กว่า​ปี กำลัง​รู้สึก​เคว้งคว้าง​ไร้​ที่พึ่ง น้อง​ชาย​แท้ๆ ซึ่ง​ทำ​งาน​เป็น​เ​พอ​ร์​เซอร์​อยู่​การ​บิน​ไทย ชวน​ให้​ไป​ช่วย​ร้องเพลง​ใน​งาน​ปี​ใหม่ จึง​ได้​มี​โอกาส​พบ​กับ​ท่าน ขณะ​นั้น​ดิฉัน​อายุ 37 ปี​แล้ว มี​ลูก 3 คน​แล้ว ท่าน​ก็​เข้า​มา​คุย​ด้วย​ใน​ฐานะ​พี่​สาว​ของ​เพื่อน​ร่วม​งาน คุย​กัน​ถูก​คอ​ทีเดียว เหมือน​มี​อะไร​ดึงดูด แต่​เรา​ก็​ไม่​กล้า​คิด​เป็น​อื่น เพราะ​ท่าน​เอง​ก็​สูง​ศักดิ์​เหลือเกิน และ​อายุ​มาก​กว่า​เรา​ถึง 22 ปี จึง​ได้​แต่​แอบ​ปลื้ม​อยู่​ใน​ใจ กระทั่ง​ท่าน​หยิบ​ยื่น​ไมตรีจิต​ให้ ตอน​นั้น​ทุก​อย่าง​เกิด​ขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว​มาก เป็น​ความ​รัก​แบบ​ผู้ใหญ่ ท่าน​บอก​ว่า เรา​สอง​คน​คง​ไม่ได้​แต่งงาน​กัน​นะ ดิฉัน​ก็​ไม่ได้​คาด​หวัง​อะไร คิด​แต่​ว่า​ชีวิต​นี้​แค่​ขอ​ให้​ได้​รัก​ท่าน​เท่านั้น หลังจาก​อยู่​กับ​ท่าน​ไม่​กี่​เดือน ท่าน​ก็​ล้ม​ป่วย​ด้วย​โรค​เส้นเลือด​ใน​สมอง​ตีบ ต้อง​เข้า​แ​อด​มิ​ต​ใน​โรงพยาบาล ดิฉัน​เป็น​ทุกข์​มาก ไม่​รู้​จะ​ทำ​ยัง​ไง จึง​เข้า​วัดพระแก้ว​ไป​อธิษฐาน​ขอ​ให้​ท่าน​หาย​ป่วย พอ​ท่าน​ได้สติ​ปั๊บ ดิฉัน​ก็​เข้า​วัด​บวชชี​พราหมณ์ 15 วัน​เลย หลัง​ออก​จาก​โรงพยาบาล ท่าน​บอก​ดิฉัน​ว่า ท่าน​จะ​ไป​รักษา​ตัว​ที่​อเมริกา อยาก​ให้​ตาม​ไป​อยู่​ด้วย ด้วย​ความ​รัก​และ​ความ​ห่วงใย อยาก​ไป​ดูแล​ท่าน​อยู่​ใกล้ๆ ดิฉัน​จึง​ทิ้ง​ชื่อเสียง​เงิน​ทอง​ทุก​อย่าง เก็บ กระเป๋า​เดินทาง​ไป​อเมริกา​กับ​ท่าน แรกๆยัง​แอบ​คิด​ว่า พอ​ท่าน​รักษา​ตัว​จน​อาการ​ดี​ขึ้น คง​กลับ​เมือง​ไทย แต่​เอา​เข้า​จริงๆ ท่าน​บอก​ว่ายัง​ไม่​อยาก​กลับ​เมือง​ไทย งั้น​ซื้อ​บ้าน​ที่​อเมริกา​ดี​กว่า และ​ท่าน​ยัง​ให้​ดิฉัน​ชวน​ลูกๆมา​อยู่​ด้วย จะ​ได้​เรียน​หนังสือ​ที่​อเมริกา ก็​เลย​กลาย​เป็น​ว่า​ไป​ใช้​ชีวิต​อยู่​ที่​นั่น​ยาว​เลย

การ​สร้าง​ครอบครัว​ใหม่​ใน​อเมริกา​แฮปปี้​อย่าง​ที่​ฝัน​ไว้​ไหม​คะ

การ​ไป​อยู่​เมืองนอก และ​ทิ้ง​ชื่อเสียง​เงิน​ทอง​ทุก​อย่าง ทำให้​ดิฉัน​ได้​ทำ​หน้าที่​ภรรยา​และ​แม่​เต็มตัว ตอน​นั้น​ลูก​สาว​คน​โต​อายุ 14 ปี ส่วน​ลูก​สาว​คน​ที่​สอง​อายุ 13 ปี และ​ลูก​ชาย​คน​เล็ก​เพิ่ง 10 ขวบ ดิฉัน​มี​หน้าที่​ส่ง​ลูก​ไป​โรงเรียน ตอน​สายๆก็​เรียน​ภาษา​เพิ่มเติม และ​กลับ​มา​ทำ​อาหาร​กลางวัน​ให้​ท่าน จาก​นั้น​ช่วง​บ่ายๆก็​เตรียม​อาหาร​เย็น​ให้​ลูกๆ แม้​จะ​ต้อง​ทำ​งาน​บ้าน​ทุก​อย่าง​ด้วย​ตน​เอง แต่​ก็​ถือ​เป็น​ช่วง​ชีวิต​ที่​อบอุ่น​และ​มี​ความ​สุข​ที่สุด เพราะ​ถ้า​อยู่​เมือง​ไทย คง​ไม่ได้​มี​โอกาส​ทำ​อะไร​แบบ​นี้ และ​ไม่ได้​ใกล้​ชิด​ลูกๆ เพราะ​ยัง​ต้อง​ร้องเพลง​อยู่ คืน​หนึ่ง​ก็​ต้อง​เดินสาย 4-5 แห่ง

เมื่อ​สิ้น​ท่าน​ไป​แล้ว ชีวิต​เคว้งคว้าง​ลอย​ล่อง​ขนาด​ไหน

ท่าน​สิ้น​ชีพิตักษัย เมื่อ​วัน​ที่ 15 ก.ย.2533 ขณะ​พระชนม์ 69 ชันษา แม้​จะ​รักษา​จน​หาย​จาก​อาการ​เส้นเลือด​ใน​สมอง​ตีบ แต่​ตอน​หลัง​มา​ตรวจ​พบ​ว่า​เป็น​มะเร็ง​ปอด ท่าน​ตัดสินใจ​บิน​ไป​รักษา​ตัว​ที่​อังกฤษ ก่อน​จะ​กลับ​มา​รักษา​ตัว​ต่อ​ที่​เมือง​ไทย แต่​อยู่​ได้​แค่​ปี​เดียว​เท่านั้น ท่าน​ก็​สิ้น!! บอก​ตามตรง​ว่า​ดิฉัน​ทำใจ​ไม่ได้ “เบรก​ดาวน์” ไป​เลย เพราะ​อยู่​กับ​ท่าน​มา 13 ปี เหมือน​คน​ไร้​สติ ต้อง​ไป​ปรึกษา​จิตแพทย์​อยู่​เป็น​ปี...ท่าน​เหมือน​เทวดา​มา​โปรด มา​อยู่​กับ​เรา มา​ช่วย​ทำให้​เรา​แข็ง​แรง​ขึ้น และ​มี​ความ​หวัง​ใน​ชีวิต จู่ๆท่าน​ก็​จาก​ไป ทำให้​ทำใจ​ได้​ยาก​เหลือเกิน ก่อน​ท่าน​จะ​สิ้น​ไม่​นาน ท่าน​ได้​เขียน​การ์ด​วัน​เกิด​ให้​ดิฉัน ยัง​เก็บ​ไว้​จนถึง​ทุก​วัน​นี้ ท่าน​บอก​ว่า ปี​นี้​ไม่​มี​อะไร​ให้ เพราะ​ให้​หมด​แล้ว จน​ไม่​มี​อะไร​เหลือ​จะ​ให้ (เสียง​สั่น​เครือ) คือ ท่าน​ไม่สบาย​ขนาด​นั้น ยัง​เขียน​ออก​มา​ได้​ซึ้ง​เหลือเกิน ท่าน​เป็น​คน​อบอุ่น​โรแมนติก และ​เสมอ​ต้น​เสมอ​ปลาย​มาก เมื่อ​ไม่​มี​ท่าน​แล้ว ดิฉัน​ยัง​นึก​ไม่​ออก​ว่า​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ต่อ​ไป​อย่างไร โชค​ดี​ที่​ลูก​ชาย​คน​เล็ก​ให้​สติ​แม่ บอก​ว่า​ถ้า​แม่​เป็น​อะไร​ไป แล้ว​เขา​จะ​อยู่​กับ​ใคร ทำให้​ดิฉัน​รู้สึก​ตัว และ​ตัดสินใจ​ว่า​จะ​อยู่​อเมริกา​เพื่อ​อนาคต​ของ​ลูกๆ

ต้อง​เจอ​มรสุม​ลูก​ใหญ่​ขนาด​นี้ มี​วิธี​รับมือ​อย่างไร​ไม่​ให้​ขาด​สติ

ตั้งแต่​เล็กๆ ดิฉัน​เป็น​คน​เซ้น​ซิ​ที​ฟ​มาก มาก​จน​สุดโต่ง และ​อี​โมชั่นแนล​สุดๆ เป็น​คน​เจ้า​น้ำตา สุข​ก็​ร้องไห้ ทุกข์​ก็​ร้องไห้ ดีใจ​เสียใจ​ก็​ร้องไห้ ดิฉัน​แต่งงาน​กับ​สามี​คน​แรก​ตอน​อายุ​ยัง​น้อย​แค่ 22 ปี เพราะ​อยาก​ได้​อิสรภาพ​จาก​ที่​บ้าน และ​ค่อนข้าง​ตั้ง​ความ​หวัง​เรื่อง​ชีวิต​คู่​ไว้​สูง​มาก เพราะ​คุณ​พ่อ ซึ่ง​เป็น​ผู้พิพากษา เป็น​ผู้ชาย​ที่​ประเสริฐ​เหลือเกิน เมื่อ​มา​ผิดหวัง​กับ​สามี​คน​แรก ทำให้​จิตใจ​เปราะ​บาง​จน​รับ​ไม่​ไหว เป็น​อะไร​ที่​กดดัน​มาก เป็น​ทุกข์​เหลือเกิน​ที่​ต้อง​พลัดพราก​ลูกๆ เพราะ​ต้อง​แยก​ตัว​ออก​มา​อยู่​ลำพัง ตอน​นั้น​ไม่​รู้​จะ​ทำ​ยัง​ไง​จริงๆ ต้อง​ไป​นอน​โรงพยาบาล​เป็น​เดือน เพื่อ​เยียวยา​จิตใจ กระทั่ง​กลับ​มา​อยู่​บ้าน เริ่ม​หัน​มา​สวด​มนต์ และ​นั่ง​สมาธิ เพื่อ​ให้​ความ​ทุกข์​เบาบาง​ลง ตั้งแต่​นั้น​มา ถ้า​มี​อะไร​ที่​อึดอัด​ใจ​มาก ทำให้​เป็น​ทุกข์​มาก ก็​จะ​เข้าไป​นั่ง​ใน​ห้อง​พระ ร้องไห้ และ​อธิษฐาน​ขอ​ให้​ท่าน​ชี้​ทาง​สว่าง

ใน​ตอน​ที่​ท่าน​สิ้น​ชีพิตักษัย ดิฉัน​ได้สติ​คืน​มา​เพราะ​ธรรมะ โดย​มี​โอกาส​ปฏิ​บัติธรรม​อย่าง​จริงจัง เมื่อ​ได้​เข้าไป​ที่​วัด​ป่า​จิต​ต​วิเวก ใน​แคว้น​ซัสเซ​กซ์ ประเทศ​อังกฤษ เป็น​วัด​ป่า​แห่ง​แรก ที่​หลวง​ปู่​ชา​สร้าง​ไว้​ที่​อังกฤษ พระ​ท่าน​สอน​ให้​นั่ง​วิปัสสนา​กรรมฐาน​เพื่อ​เตือนสติ​ตัว​เอง​ไม่​ให้​ประมาท และ​ให้​เรียนรู้​ถึง​หลัก​อริยสัจ​ 4 ไม่​ให้​หลง​ใน​สุข​และ​ทุกข์ เพราะ​ทุก​อย่าง​บน​โลก​ใบ​นี้​เกิด​ขึ้น​และ​แตกดับ​ไป

ชีวิต​เปลี่ยน​ไป​มาก​ไหม​คะ หลัง​ได้​สัมผัส​ธรรมะ​อย่าง​ลึกซึ้ง

สิ่ง​ที่​ดิฉัน​ได้​จาก​การ​ปฏิบัติธรรม คือ ความ​ทุกข์​จะ​ไม่​เกิด​ขึ้น​เลย ถ้า​เรา​ไม่​เป็น​ฝ่าย​วิ่ง​ไป​หา​มัน และ​สิ่ง​ที่​ทำให้​ทุกข์​ที่สุด​ก็​คือ การ​เปรียบเทียบ​ตัว​เรา​กับ​คน​อื่น ถ้า​เรา​พึง​พอใจ​กับ​สิ่ง​ที่​มี​อยู่ ความ​ทุกข์​ก็​จะ​เข้า​มา​ทำร้าย​เรา​ไม่ได้ พอ​เรา​ปฏิบัติธรรม​มาก​ขึ้นๆ ยิ่ง​ทำให้​เรา​เข้มแข็ง​ขึ้น มี​สติ และ​ปัญญา​มาก​ขึ้น การ​จะ​เข้าถึง​หลัก​ธรรมะ ต้อง​เข้าไป​สัมผัส​ด้วย​ตัว​เอง ยิ่ง​เข้าไป​เร็ว​เท่า​ไหร่ ก็​จะ​ยิ่ง​ค้น​พบ​ได้​เร็ว​เท่านั้น ทุก​วัน​นี้​ ดิฉัน​ก็​ยัง​ปฏิ​บัติธรรม​อย่าง​ต่อ​เนื่อง จะ​สวด​มนต์​เช้า​เย็น​ทุก​วัน ทุก​คน​ที่​สนิท​กัน​จะ​ทราบ​ว่า วัน​เกิด​ของ “ศรี​ไศล” จะ​ไม่​มี​การ​จัด​งาน​เลี้ยง​ใหญ่​โต แต่​จะ​ขอ​ปลีก​วิเวก​เข้า​วัด และ​ตั้ง​เป้า​ว่า อยาก​ปฏิบัติธรรม​ให้​ถึง​ขั้น​บรรลุ​นิพพาน


สำหรับ​คน​ที่​ห่างไกล ​วัด และ​อยาก​ศึก-ษา​ธรรมะ แนะนำ​ให้​เริ่ม​ต้น​จาก​จุด​ไหน

ลอง​อ่าน​หนังสือ ​ธรรมะ​ดู​ก่อน แนะนำ​ให้​ อ่าน​ของหลวง​ปู่​ชา ซึ่ง​นำ​หลัก​ธรรมะ​มา​สอน​อย่าง​ง่ายๆ และ​อิง​กับ​ธรรมชาติ และ​เริ่ม​จาก​การ​สวด​มนต์​พร้อม​คำ​แปล เพื่อ​ให้​เข้าถึง​หลัก​ธรรมะ​ที่แท้​จริง อย่างไรก็ดี ต้อง​บอก​ว่าการ​จะ​ศึกษา​ธรรมะ​ต้อง​ศึกษา​ด้วย​สติ​และ​ปัญญา​ควบคู่​กัน​ไป เพราะ​ถ้า​เชื่อ​โดย​ไม่​ใช้​ปัญญา ก็​อาจ​ทำให้​หลง​มัวเมา​ได้ การ​ปฏิบัติธรรม นอกจาก​จะ​ได้​ขัดเกลา​จิตใจ​แล้ว ยัง​ได้​บุญ​กุศล​ด้วย เพราะ​เวลา​เข้า​วัด​ปฏิบัติธรรม จะ​บังคับ​ให้​เรา​คิด​แต่​สิ่ง​ดีๆ ไม่​คิด​ร้าย​ต่อ​ผู้​อื่น พอ​ทำ​ไป​เรื่อยๆจน​ติด​เป็น​นิสัย เวลา​เรา​โกรธ​หรือ​โมโห​ใคร จาก​ที่​เคย​ปรี๊ด​ปร๊าด ก็​อาจ​ทุเลา​ลง​เหลือ​แค่​ขุ่นๆ เดี๋ยว​ก็​จาง​ไป​เอง จน​ทุก​วัน​นี้ เชื่อ​ว่า ไม่​มี​อะไร​ที่​รับ​ไม่ได้​แล้ว เรา​ต้อง​เตรียม​จิตใจ​ให้​เข้มแข็ง​ด้วย​การ​ฝึก​จิต พอ​ฝึกปรือ​ได้​ระดับ​หนึ่ง​แล้ว ยัง​ไม่ทัน​คิด​ไม่​ดี​เลย มัน​ก็​จะ​หยุด​เอง​อัตโนมัติ ธรรมะ​เป็น​สิ่ง​ที่​ไม่​ต้อง​ลงทุน ไม่​ต้อง​ไป​หา​ที่ไหน ถ้า​เรา​ไม่​มี​โอกาส​ไป​วัด ให้​เวลา​ตัว​เอง​สวด​มนต์​วัน​ละ​ไม่​กี่​นาที อย่า​อ้าง​ว่า​ไม่​มี​เวลา

ถ้า​ต้อง​เผชิญหน้า​กับ​การ​สูญเสีย​อีก​ครั้ง คิด​ว่า​จะ​ทน​รับ​ไหว​ไหม​คะ


(หยุด​คิด​พัก​ใหญ่) โศก​เศร้า​ก็​ยัง​มี​อยู่ แต่​คง​ไม่​มี​อะไร​หนักหนา​สาหัส​เหมือน​แต่​ก่อน เพราะ​เรา​มา​อยู่​ตรง​จุด​นี้​แล้ว อายุ​ก็​ปา​เข้าไป 66 ปี​แล้ว ยอม​รับ​ว่าเรา​ยัง​ไม่​ใช่​พระ​อรหันต์ ที่​จะ​ละ​และ​ตัด​ทุก​อย่าง​ได้ แต่​ก็​พยายาม​ฝึก​ปัญญา​และ​สติ​ให้​เข้มแข็ง ความ​ทุกข์​เข้า​มา​ก็​จะ​อยู่​กับ​เรา​ไม่​นาน เช่น​เดียว​กับ​ความ​สุข​ที่​เกิด​ขึ้น​และ​ดับ​ไป ไม่​มี​อะไร​แน่นอน มัน​เป็น​วัฏจักร​ของ​ชีวิต ถ้า​เรา​รู้เท่า​ทัน​ความ​ทุกข์​มาก​ขึ้น ก็​จะ​สลัด​ความ​ทุกข์​ออก​จาก​ตัว​ได้​เร็ว​ขึ้น เพราะ​ใจ​เรา​ทำให้​เรา​ทุกข์​แค่​นั้น​เอง อยู่ดีๆก็​เอา​มา​ให้​คิด เอา​มา​ให้​ทุกข์​ใจ ถ้า​เรา​มี​สติ มี​ปัญญา รู้ความ​ไม่​เที่ยงแท้​ของ​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง นี่​คือ​ธรรมชาติ​ที่​ไม่​มี​ใคร​หนี​พ้น ทุก​วัน​นี้ เวลา​สวด​มนต์​จะ​อธิษฐาน​เสมอ​ว่า ขอ​ให้​ลูก​มี​สติ เมื่อ​เวลา​ที่​ความ​ตาย​มา​ถึง ขอ​อย่า​ให้​เรา​ตื่น​ตกใจ นอกจาก​นี้ยัง​อธิษฐาน​ว่า เกิด​ชาติ​ใด​ขอ​ให้​อยู่​ใน​พระ​พุทธศาสนา ดิฉัน​เชื่อ​ว่าการ​อธิษฐาน​เป็น​การ​ตอก​ย้ำ​สติ จน​ฝัง​ลึก​อยู่​ใน​จิตใต้สำนึก เมื่อ​วัน​นั้น​มา​ถึง เรา​จะ​ได้​จาก​โลก​นี้​ไป​อย่าง​สงบ

ชีวิต​นี้​กลัว​อะไร​มาก​ที่สุด

ไม่​เคย​กลัว​อะไร ถ้า​จะ​กลัว​ก็​เมื่อ​เวลา​ที่​แก่และ​ต้อง​เจ็บไข้​ได้​ป่วย ขอ​อย่า​ให้​เป็น​อะไร​ร้ายแรงที่​เป็น​ภาระ​ให้​ลูก​หลาน​ต้อง​ดูแล ก็ได้​แต่​หวัง​ว่าผล​บุญ​ที่​สะสม​มา​จะ​ตกทอด​ถึง​ลูกๆหลานๆ ทำให้​พวก​เขา​มี​ความ​สุข​ใน​ชีวิต ทุก​วัน​นี้ก็​ไม่ค่อย​ห่วง​อะไร​มาก​แล้ว เพราะ​ลูก​สาว​ทั้ง​สอง​คน​แต่งงาน​มี​ครอบครัว​ที่​แฮปปี้ ส่วน​ลูก​ชาย​ก็​มี​อนาคต​การ​งาน​ที่​ดี ถ้า​มี​โอกาส​จะ​พยายาม​สอด​แทรก​เรื่อง​ธรรมะ​ให้​ลูกๆ เผื่อว่า​วัน​หนึ่ง​พวก​เขา​มี​ปัญหา​ชีวิต จะ​ได้​ใช้​ธรรมะ​ตั้ง​รับ​อย่าง​มี​สติ.

...


ทีมข่าวหน้าสตรี