ในบรรดาราชวงศ์ทั่วโลก คงไม่มีราชวงศ์ใดจะใส่ใจเรื่องการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม เทียบเท่ากับราชวงศ์อังกฤษ โดยความโปรดปรานและหลงใหลในเสน่ห์ของพืชพันธุ์ไม้และความเขียวขจี เริ่มปลูกฝังกันมาหลายยุคหลายสมัย และยังคงสืบสานเป็นตำนานเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
พระบรมวงศานุวงศ์วินด์เซอร์ ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์องค์กรด้านพฤกษศาสตร์ และการอนุรักษ์พืชพันธุ์ไม้ท้องถิ่นของชาวเมืองผู้ดีมาอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในเทศกาลดอกไม้ระดับชาติ ที่พระราชวงศ์อังกฤษทรงให้ความสำคัญมาตลอดก็คือ
เทศกาลดอกไม้เชลซี หรือ เชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์ ซึ่งเป็นเทศกาลดอกไม้ที่ยิ่งใหญ่ตระการ ตาที่สุดของโลก ริเริ่มไว้ตั้งแต่ปี 1862 โดยสมาคมไม้ประดับแห่ง ชาติ (RHS) มีชื่อดั้งเดิมว่า “เดอะ เกรต สปริง โชว์” เดิมทีเดียวจัดขึ้นในสวนของสมาคมไม้ประดับแห่งชาติ ในเขตเคนซิงตัน ช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี ต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน เพื่ออวดความงามสะพรั่งของมวลหมู่ดอกไม้ และพืชพันธุ์ไม้ของอังกฤษ ที่พร้อมใจกันเบ่งบานต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ ต่อมาได้มีการเพิ่มรายละเอียดของการจัดงานให้ยิ่งใหญ่ขึ้น โดยแบ่งพื้นที่เฉพาะสำหรับเป็นเวทีจัดแสดง และประกวดไม้ประดับจากนานาชาติ ซึ่งเต็มไปด้วยไอเดียสร้างสรรค์น่าติดตามชม ไม่แพ้สีสันการแต่งกายของเหล่าพระราชวงศ์ และเซเลบริตี้คนดัง ที่ตบเท้ากันมาร่วมเปิดเทศกาลอย่างคึกคักทุกปี
อย่างไรก็ดี ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นของเทศกาล และจำนวนผู้เข้าชมที่เพิ่มขึ้นจากหลักพันเป็นหลักแสน ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ทำให้ทางสมาคมไม้ประดับแห่งชาติ ตัดสินใจเปลี่ยนสถานที่จัดงานจากเขตเคนซิงตัน ย้ายไปอยู่ที่ “รอยัล ฮอสพิทอล” ในเขตเชลซี ซึ่งสะดวกต่อการเดินทางมากกว่า และมีอาณาบริเวณกว้างขวางกว่า เพื่อจะได้สามารถรองรับผู้ชมที่หลั่งไหลมาจากทุกสารทิศของประเทศ และด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนี่เอง ทำให้มีการถ่ายทอดงานดอกไม้เชลซีออกไปทั่วประเทศ ผ่านเครือข่ายของสถานีโทรทัศน์บีบีซี มาตั้งแต่ปี 1938
เช่นเดียวกับสมเด็จพระราชชนนี “ควีนมัม” ประมุของค์ปัจจุบันของสหราชอาณาจักร คือ สมเด็จพระบรมราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ก็ทรงหลงรักเทศกาลดอกไม้เชลซีเป็นที่สุด ตลอดระยะเวลา 6 ทศวรรษที่ทรงครองราชย์ พระองค์ไม่เคยพลาดการเสด็จฯงานเชลซี ฟลาวเวอร์ โชว์ แม้แต่ครั้งเดียว ยกเว้นเพียงปีเดียวเท่านั้น คือในปี 1953 ซึ่งทรงติดพระราชภารกิจสำคัญ ต้องเข้าร่วมพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เสด็จขึ้นเถลิงราชสมบัติเป็นองค์ประมุขของอังกฤษ
แม้ควีนเอลิซาเบธที่ 2 จะมิได้ทรงลงมือปลูกพืชพันธุ์ไม้เอง เพราะติดพระราชกรณียกิจมากมายนับไม่ถ้วน แต่พระองค์ก็ทรงสนพระทัยเรื่องการจัดสวนและพืชพันธุ์ไม้เป็นอย่างยิ่ง ไม่ต่างจากที่โปรดปรานการขี่ม้า โดยไม่ว่าจะเสด็จไปทอดพระเนตรสวนพฤกษศาสตร์ที่ไหน ก็มักจะนำไอเดียแปลกใหม่กลับมาแบ่งปันให้เหล่าข้าราชบริพารได้นำไปปรับปรุงทัศนียภาพความงดงามของสวนภายในพระราชวัง ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังบั๊กกิ้งแฮม, แซนดริงแฮม หรือแม้แต่พระราชวังฤดูร้อนบัลมอรัล ในสกอตแลนด์ ล้วนแต่เป็นฝีมือสร้างสรรค์ขององค์ควีน
อันที่จริงแล้ว ความรักในพืชพันธุ์ไม้และการจัดสวนของพระบรม วงศานุวงศ์อังกฤษ สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษ โดย พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 พระอัยกาทวดของสมเด็จพระบรมราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเคยรับสั่งไว้ว่า ถ้ามิได้เสด็จขึ้นเป็นกษัตริย์ของอังกฤษ สืบต่อจากพระราชมารดา “สมเด็จพระบรมราชินีวิคตอเรีย” สิ่งที่พระองค์ทรงใฝ่ฝันมากที่สุดคือ ทรงอยากเป็นชาวสวนเต็มตัว
ตรงกันข้ามกับ พระเจ้าจอร์จที่ 5 พระราชโอรสของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ซึ่งมีศักดิ์เป็นพระอัยกาของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเบื่อหน่ายเทศกาลดอกไม้เชลซี เพราะเห็นว่าเป็นกิจของอิสตรี และไม่โปรดเรื่องดอกไม้ใบหญ้าเหมือนพระราชวงศ์อื่นๆของอังกฤษ แต่ก็ยังโชคดีที่พระชายาของพระองค์ คือ สมเด็จพระบรมราชินีแมรี่ โปรดการทำสวนและปลูกพืชพันธุ์ดอกไม้เป็นชีวิตจิตใจ ทรงสนับสนุนให้มีการเนรมิตแปลงดอกไม้ให้บานสะพรั่งตามสวนสาธารณะต่างๆทั่วกรุงลอนดอน เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสชื่นชมความงามของดอกไม้สายพันธุ์อังกฤษ
แม้แต่กษัตริย์จอมเพลย์บอย เช่น พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ก็ได้รับการปลูกฝังจากพระราชมารดา “ควีนแมรี่” ให้ชื่นชอบการทำสวนด้วยเช่นกัน โดยหลังจากทรงสละราชสมบัติให้พระอนุชา “พระเจ้าจอร์จที่ 6” ได้ทรงใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในชนบทนอกกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และฆ่าเวลาด้วยการทำสวนปลูกพืชพันธุ์ไม้โปรดเป็นงานอดิเรก
ทั้งพระราชบิดาและพระราชมารดาของควีนเอลิซาเบธที่ 2 ต่างก็โปรดปรานความเขียวขจีของพืชพันธุ์ไม้ เช่นเดียวกับการปลูกต้นไม้และทำสวน ว่ากันว่า พระเจ้าจอร์จที่ 6 ทรงใช้เวลาว่างขลุกอยู่ในสวนกับพระชายาได้เป็นวันๆ โดย พระราชชนนี “ควีนมัม” มักจะชวนพระราชสวามีเสด็จไปชมสวนสวยๆของพระสหายทุกครั้งที่มีโอกาส เพื่อหาไอเดียใหม่ๆนำมาตกแต่งสวนภายในพระราชวัง จนเป็นที่เลื่องลือกันทั่วว่า “ควีนมัม” ทรงเป็นควีนหัวใจสีเขียวอย่างแท้จริง
ความรักและความสนพระทัยในเรื่องพฤกษศาสตร์ของ “ควีนมัม” ยังได้รับการถ่ายทอดมาสู่พระราชธิดาทั้งสองพระองค์ด้วย โดยสมัยยังทรงพระเยาว์ เจ้าหญิงเอลิซาเบธ และเจ้าหญิงมาร์กาเร็ต มักจะช่วยพระราชบิดาและพระราชมารดาพรวนดินปลูกต้นไม้เป็นประจำ
เช่นเดียวกับพระราชนัดดาองค์โปรดของ “ควีนมัม” คือ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารอังกฤษ ก็ทรงอุทิศพระองค์อย่างจริงจังให้การเกษตรแบบชีวภาพ และสนับสนุนการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการทูลเกล้าฯถวายรางวัลด้านสิ่งแวดล้อมนับครั้งไม่ถ้วน ท่ามกลางเสียงชื่นชมยกย่องว่า พระองค์คือเจ้าชายหัวใจสีเขียวตัวจริงเสียงจริง และยังทรงเป็นชาวสวนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในประวัติศาสตร์ของราชวงศ์โลก.
...
ทีมข่าวหน้าสตรี