มีคุณผู้อ่านสุภาพสตรีท่านหนึ่งโทรเข้ามาถามว่าแต่งงานมา 20 ปี มีอะไรกับสามีไม่ถึงสิบครั้ง และหลังจากมีลูกแล้วสามีไม่ยอมมีอะไรด้วยอีกเลย บางทีแค่แตะต้องตัวกันก็แสดงความรังเกียจ แต่สามีเป็นคนดี ไม่มีปัญหาเรื่องเจ้าชู้หรือนอกใจช่วยเหลืองานการในบ้านดี และเป็นพ่อที่ดี

ปัญหาเรื่องความต้องการทางเพศไม่แมตช์กันนั้นพบได้ในคู่สมรสทั่วไป เพราะคนเรานั้นมาจากต่างพ่อต่างแม่ เติบโตมาภายใต้สภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน จะให้มีอะไรเหมือนกัน ชอบอะไรเหมือนกัน หรือรักกันทุกวันเหมือนกับตอนจีบกันใหม่ๆคงจะหายากสุดๆ บางคู่ทดลองมีเซ็กซ์กันสักระยะจนแน่ใจแล้วว่าเข้ากันได้ดี แต่พอแต่งงานไปแล้วกลับหมดอารมณ์กันไปทั้งคู่ก็มี ทั้งนี้เพราะตอนเป็นแฟน เรามักจะมองโลกเป็นสีชมพู พอแต่งแล้วมันมีสีอื่นๆให้เห็นอีกมากมาย มาดูสาเหตุที่อาจตรงกับคู่ของคุณนะคะ

1. มีปัญหาทางเพศ เช่น บางคนมีปัญหาหลั่งเร็ว อวัยวะเพศไม่แข็งตัว ไม่สามารถถึงจุดไคลแม็กซ์ได้ หรือแม้แต่เป็นคนที่ไม่สนใจเรื่องเซ็กซ์ มองเรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องน่าอายหรือสกปรก บางคนมีพลังขับทางเพศต่ำ สาเหตุเหล่านี้นำไปสู่ความไม่อยากมีเพศสัมพันธ์ได้ หากอยากแก้ไข ควรไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

2. มีปัญหาความสัมพันธ์ อันอาจเกิดจากความไม่เข้าใจกันสะสม หรือความพยายามที่จะปรับตัวเองเพื่อคู่ของตน แต่เมื่อฝืนเป็นในสิ่งที่ไม่ได้เป็นหรือไม่ชอบก็จะก่อให้เกิดความอึดอัดเครียดสะสม นำไปสู่ความรู้สึกไม่ชอบใจกันอยู่ลึกๆ ปัญหานี้จะเริ่มปรากฏหลังช่วงฮันนีมูน เพราะคนเรารู้สึกสบายใจที่จะเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องพยายามเก๊กให้ดูดีเหมือนสมัยเป็นแฟนกัน ความไม่เข้ากัน หรือขัดแย้งกันก็จะเริ่มปรากฏ และส่งผลให้เสน่หาที่มีต่อกันลดน้อยลง บางคู่พบว่ามีปัญหามาตั้งแต่แรก เช่น พลาดเกิดท้องขึ้นมา หรือฝ่ายหญิงเอาเรื่องลูกมาผูกมัดให้ฝ่ายชายต้องแต่งงานด้วย ก็มักพบว่าฝ่ายชายจะรู้สึกเหมือนติดคุกและเกลียดฝ่ายหญิงที่บังคับหรือทำให้ตนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องจำทน อย่างนี้ก็ทำให้หมดอารมณ์ทางเพศกันไปเลยก็มี

...

3. ความเครียด ความเหนื่อยล้าจากการดำเนินชีวิต ปัญหาชีวิตรุมเร้า ปัญหาเศรษฐกิจ ก็ทำให้คนเราไม่สนใจเรื่องบนเตียงสักเท่าไร

4. ปัญหามือที่สาม อันนี้อาจเป็นปัญหาที่ทำให้คนเราเกิดการเปรียบเทียบกิ๊กกับคู่สมรสของตน และมักจะมีแนวโน้มเห็นว่ากิ๊กให้ความรู้สึกตื่นเต้นสดชื่นได้มากกว่าคู่สมรส เพราะคนเรามักเห็นกิ๊กในมุมเดียว คือมุมดีๆ แต่คู่สมรสเห็นหลายมุมก็อาจทำให้หมดอารมณ์ได้ง่ายกว่า

5. การคลอดบุตร การเลี้ยงดูบุตร เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่หลายครอบครัว พอมีลูกแล้ว มุมมองที่เรามีต่อคู่สมรสอาจเปลี่ยนไป เช่น ฝ่ายหญิงอาจเห็นคุณสามีเป็นเหมือนลูกอีกคนหนึ่ง หรือฝ่ายชายอาจเห็นคุณภรรยาในภาพของแม่ จึงไม่อยากมีอะไรด้วย บางคนบอกว่าเมื่อได้เห็นภรรยาคลอดลูกหรือให้นมลูกแล้ว ก็ไม่มีความรู้สึกอยากมีอะไรกับภรรยาอีกเลย

6. คนที่รักเพศเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณผู้ชายที่เป็นเกย์ แต่แต่งงานเพราะความกดดันจากสังคม หรือแต่งเพราะอยากมีลูก พอมีลูกสมใจแล้วก็คิดว่าหมดหน้าที่ที่ต้องทำแล้ว จากนั้นก็ขอเปิดตัวอย่างเป็นทางการและดำเนินชีวิตอย่างที่ถูกกำหนดมาให้เป็นชายรักชาย ฝ่ายหญิงจึงต้องจำทนต่อไป

7. ยารักษาโรคบางชนิดก็มีผลข้างเคียงทำให้หมดอารมณ์ทางเพศได้

8. การกระตุ้นให้ตนเองมีพฤติกรรมทางเพศแบบไม่ค่อยจะธรรมดา เช่น คนที่ช่วยตัวเองบ่อยมากไป คนที่หมกมุ่นกับเรื่องเพศ ชอบดูหนังโป๊ ชอบโชว์ ชอบใช้อุปกรณ์ทางเพศ หรือใช้วิธีการพิสดาร เมื่อสร้างความตื่นเต้นทางเพศด้วยวิธีวิตถาร ในที่สุดก็มักจะต้องเพิ่มความวิตถารให้มากขึ้นๆ จนถึงจุดหนึ่ง อาจกลายเป็นการด้านชาทางเพศไปเลยก็ได้

คู่สมรสใดที่มีปัญหาไม่มีเซ็กซ์กันมานานแล้ว มีทางออกสองทาง คือ ลองปรับความสัมพันธ์ให้เข้าอกเข้าใจกัน แล้วก็ค่อยๆ สร้างบรรยากาศใหม่ๆ ก็อาจจะกลับมามีเซ็กซ์ที่เร่าร้อนได้เหมือนเมื่อตอนเป็นแฟนกัน หรือทางออกที่สอง ก็คือทำใจยอมรับ และมองคุณงามความดีที่มีให้กันและกัน อยู่กันเป็นเพื่อนคู่ชีวิตกัน หากทำอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ และคิดว่าเซ็กซ์เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับคุณ อย่างนี้ก็คงต้องเลิกกัน แล้วไปหาคู่ที่เข้ากันได้มากกว่าต่อไป

ใครมีปัญหา ลูกเรียนไม่เก่ง ไม่รู้จะทำอะไรในอนาคต ญาติพี่น้องติดกลุ่มลัทธิ ปัญหาครอบครัว ความสัมพันธ์ การทำงาน ติดโซเชียล ติดเกม panic และ phobia มารับคำปรึกษากับครูเคทได้ที่ KruKate Counseling Center ต้องการนัดคิว โทร. 0814581165 หรือเข้าไปฝากคำถามและแชร์ประสบการณ์ในแฟนเพจ www.facebook.com/kateinspirer และ YouTube channels: Kate Inspirer ได้นะคะ