เช้าตรู่กับการมาเยือนเมืองตรัง จังหวัดที่ยังครุกรุ่นไปด้วยเสน่ห์ของวัฒนธรรมท้องถิ่น แต่การได้มาที่นี่ หลายคนคงมุ่งไปแต่นั่งเรือไปเที่ยวเกาะ ดำน้ำดูปะการังกัน ซึ่งเสน่ห์อีกอย่างที่ถูกบังตาเหมือนเส้นผมบังภูเขาอยู่นั้น ก็คือการได้ไปเห็นวิถีชีวิต และความงามของสภาพแวดล้อมที่ยังมีให้เห็นอยู่ในเมือง


สภาพแวดล้อมที่ยังคงบรรยากาศเก่าๆ ล้อมรอบไปด้วยตึกปูน 2 ชั้น หากว่าเป็นตึกปูนสี่เหลี่ยมธรรมดา คงไม่มีความสนใจให้ต้องหยุดมอเท่ากับได้เห็นความงดงามของงานสถาปัตยกรรมในแบบชิโนโปรตุกิส ที่เรียงรายอยู่ริมถนน ซึ่งเป็นมรดกของงานศิลปสถาปัตยกรรมที่หลงเหลือไว้ให้เห็นถึงที่มาของเมืองแห่งนี้ ได้มีเรื่องเล่าให้คนรุ่นหลังได้ฟังกัน

...


อาคารพาณิชย์หลายหลังเรียงรายทั้งซ้ายขวาในตัวเมืองตรังเหล่านี้ ถ้าย้อนความกลับไปก็ตั้งแต่ที่บ้านเมืองในช่วงนั้นทำการค้าขายกับชาวโปรตุเกส ซึ่งคนไทยเชื้อสายจีนฮกเกี้ยนในย่านนั้นได้ติดต่อสัมพันธ์ทางการค้า จึงเกิดการผสมผสานในหลายเรื่อง และรวมไปถึงรูปแบบอาคารบ้านเรือนอย่างที่เราเห็น คล้ายๆ กับตึกชิโนโปรตุกิสในภูเก็ต รูปแบบของอาคารโครงสร้างเป็นแบบโปรตุเกส ที่ผสมผสานศิลปะปูนปั้นแบบจีนเอาไว้ รวมถึงภายในก็ตกแต่งแบบจีนด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ตึกสไตล์นี้สร้างขึ้นในสมัยของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี้ ณ ระนอง) สมุหเทศบาลสำเร็จราชการมณฑลภูเก็ตในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งในช่วงนั้นเต็มไปด้วยความมั่งคั่งจากการทำเหมือนแร่ดีบุก ตึกชิโนโปรตุกิส เลยมีการสร้างกันอย่างแพร่หลาย


การผสมผสานระหว่างความเป็นจีน และยุโรปเข้าด้วยกันจนเป็นตึกอาคารงดงามแบบนี้ เลยเป็นเอกลักษณ์ของงานสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าทางศิลปะอย่างมาก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความน่าหลงใหลในเมืองทะเลอันดามันอย่างตรัง จังหวัดเล็กๆ ที่ยังคงวิถีชีวิตเรียบง่าย กินง่าย ที่ใครๆ ก็ต้องนึกอยากมาเยือน