จังหวะการเต้นของหัวใจคือสิ่งที่บอกถึงการมีชีวิต การเต้นของหัวใจแต่ละจังหวะเกิดขึ้นได้เพราะหัวใจมีการบีบตัว โดยได้รับการกระตุ้นจากกระแสไฟฟ้าที่เป็นจังหวะในอัตรา 60 – 100 ครั้งต่อนาที โดยกระแสไฟฟ้าที่ว่านี้ จะเดินทางไปตามเซลล์ของกล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้เกิดการบีบตัว เพื่อส่งเลือดออกไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย แต่เมื่อไรก็ตามที่เกิดความผิดปกติของการส่งกระแสไฟฟ้า หัวใจของเราจะเต้นผิดปกติ อาจจะเร็วหรือช้า หรือเต้นสะดุด ซึ่งถ้าเต้นๆ หยุดๆ นานเกิน 2.5 วินาที จะทำให้เกิดอาการวูบ หน้ามืด และหมดสติได้
อาการหัวใจเต้นผิดปกติดังกล่าว หากรักษาด้วยยา หรือการจี้ไฟฟ้าผ่านคลื่นเสียงความถี่สูง เพื่อกระตุ้นหัวใจให้กลับมาเต้นในอัตราปกติไม่ได้ผลแล้ว นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ก็ได้พยายามคิดค้นหาทางออก จนสามารถสร้างอุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ ที่ใช้ฝังเข้าไปในร่างกายเพื่อช่วยหัวใจทำงาน โดยจะส่งกระแสไฟฟ้าไปกระตุ้นให้เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจกลับมาทำงานเป็นปกติ อุปกรณ์นี้ เรียกว่า เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือ Pacemaker
เครื่องกระตุ้นหัวใจนี้ นับเป็นความก้าวหน้าในวงการแพทย์ ที่สามารถรักษาความผิดปกติของหัวใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ แพทย์จะแนะนำให้ใช้ในกรณีที่หัวใจเต้นช้าผิดปกติ รูปร่างหน้าตาของเครื่องกระตุ้นหัวใจ จะมีขนาดเล็ก กว้างยาวประมาณ 4 เซนติเมตร และหนาประมาณ 0.5 เซนติเมตร ภายในประกอบด้วย 3 ส่วนดังนี้
1. ส่วนรับรู้การเต้นของหัวใจ จะคอยมอนิเตอร์จังหวะการเต้นของหัวใจ เมื่อไรที่พบว่าหัวใจมีอัตราการเต้นช้าผิดปกติ ส่วนที่สองก็จะทำงานทันที
2. ส่วนส่งพลังงานไฟฟ้าไปกระตุ้นหัวใจ เมื่อพบว่าหัวใจเต้นช้ากว่าความต้องการของร่างกาย ส่วนนี้จะส่งกระแสไฟฟ้าไปกระตุ้นให้กล้ามเนื้อหัวใจบีบตัวในจังหวะที่ปกติต่อไป
3. ส่วนแบตเตอรี่ โดยทั่วไปจะให้พลังงานได้ 8-10 ปีแล้วแต่ปริมาณการใช้งาน
การใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ เป็นการผ่าตัดเล็กที่อาจทำได้ทั้งในห้องผ่าตัดหรือห้องสวนหัวใจ ที่มีเครื่องเอกซเรย์ชนิดพิเศษ โดยไม่ต้องดมยาสลบ ใช้เพียงยาชาเฉพาะที่เท่านั้น โดยแพทย์จะใส่สายสวนเข้าทางหลอดเลือดดำบริเวณใต้กระดูกไหปลาร้า ฝั่งของแขนข้างที่ไม่ถนัด ส่วนตัวเครื่องจะฝังไว้ใต้ชั้นไขมันฝั่งเดียวกัน หลังจากใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจแล้ว ผู้ป่วยไม่ควรขยับแขนด้านนั้นมาก พักแขนโดยไม่ยกสูงประมาณ 24 ชั่วโมง จากนั้นก็กลับบ้านได้ ดูแลแผลให้แห้งอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และควรมาพบแพทย์ทุก 6 เดือน – 1 ปี เพราะต้องรับการตรวจเช็คเครื่องอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปรับพลังงานและโปรแกรมของเครื่องให้เหมาะสม อีกทั้งยังเป็นการยืดอายุของแบตเตอรี่อีกทางหนึ่งด้วย หากจำเป็นต้องเดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะในสนามบิน ต้องแสดงบัตรประจำตัวผู้ใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ เพื่อไม่ให้ยุ่งยากในการตรวจค้น และไม่ควรใช้เครื่องตรวจ MRI เพราะแรงแม่เหล็กจะเหนี่ยวนำทำให้เครื่องเสียหายได้ ในกรณีที่ต้องใช้โทรศัพท์มือถือรุ่นดิจิตัล ควรถือโทรศัพท์ทางด้านที่ไม่ใส่เครื่อง หรือถือให้ห่างจากตัวเครื่องประมาณ 6 นิ้ว ทั้งนี้เพื่อป้องกันการรบกวนการทำงานของเครื่อง และหากต้องเข้ารับการผ่าตัด ฉายแสงรักษามะเร็งต้องแจ้งให้แพทย์ทราบเสมอ
...
เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือ Pacemaker ถูกนำมาใช้รักษาภาวะหัวใจที่เต้นช้าเกินไป แต่ถ้าหัวใจเต้นเร็วผิดปกติจะทำอย่างไร
หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ถือเป็นภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิดรุนแรง อาจเกิดจากหัวใจห้องล่างเต้นเร็วมากหรือเต้นพลิ้วจนความดันโลหิตต่ำ คลำชีพจรไม่ได้ หรืออาจเกิดได้หลายรูปแบบสลับไปมา หัวใจจะหยุดสูบฉีดเลือด ถ้าหัวใจไม่กลับมาเต้นเป็นปกติในเวลาอันรวดเร็ว อาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในเวลาไม่กี่นาที การรักษาที่ให้ผลดีที่สุดคือ การช็อคด้วยไฟฟ้าพลังงานสูงผ่านหัวใจ เพื่อให้สัญญาณไฟฟ้าหัวใจกลับมาเป็นปกติในทันที วงการแพทย์จึงได้คิดค้นวิธีรักษากรณีที่หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ ด้วยการฝังเครื่องช๊อคไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติ หรือ Automatic Implantable Cardioverter Defibrillator (AICD)
เครื่อง AICD นี้ เป็นอุปกรณ์อิเลคทรอนิค เช่นเดียวกับเครื่องกระตุ้นหัวใจ แต่มีขนาดใหญ่กว่า 2 เท่า เพราะต้องใช้ไฟฟ้าพลังงานสูง ส่วนของแบตเตอรี่จึงมีขนาดใหญ่กว่า แต่อายุแบตเตอรี่จะมีระยะเวลาพอๆ กับเครื่องกระตุ้นหัวใจ โดยแพทย์จะใส่สายสวนเข้าไปในห้องหัวใจ ผ่านทางหลอดเลือดดำ สายนี้จะรับสัญญาณไฟฟ้าหัวใจส่งไปที่ตัวเครื่อง เมื่อมีสัญญาณที่บ่งถึงหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง เครื่องจะส่งไฟฟ้าพลังงานสูงมาที่หัวใจผ่านสายดังกล่าว และทำให้คลื่นไฟฟ้าหัวใจกลับมาเป็นปกติได้ในเวลาไม่กี่วินาที ก่อนที่ผู้ป่วยจะหมดสติ
เครื่อง AICD ทำหน้าที่ปรับหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงให้กลับคืนมาอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่ลดหรือป้องกันภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรง ผู้ป่วยจึงต้องได้รับการรักษาจากแพทย์โรคหัวใจ ตามอาการและสภาพโรคหัวใจ โดยทั่วไปแพทย์จะนัดผู้ป่วยทุก 3-6 เดือน เพื่อตรวจเช็คและสอบถามอาการต่างๆ รวมถึงตรวจผิวหนังบริเวณที่ฝังเครื่อง หรืออาจปรับเปลี่ยนโปรแกรมตามความเหมาะสม
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้านการรักษาโรคหัวใจ ที่พยายามหาทางรักษา ซ่อมแซม หรือส่งเสริมการทำงานของหัวใจที่เสื่อมสภาพ ให้กลับมาทำงานได้เป็นปกติ ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยยืดอายุขัย แต่ยังทำให้คุณภาพชีวิตหลังการรักษาดีขึ้นด้วย
ศูนย์หัวใจ โรงพยาบาลเวชธานี
www.vejthani.com