ภาพถ่ายเมื่อปี ค.ศ.1920 แสดงตลิ่งน้ำเซาะ (CORTE) ที่ขอบด้านตะวันออกของอะโครโปลิส ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงทางเดินของแม่น้ำโคปัน.

โคปัน เมืองมายาโบราณในประเทศฮอนดูรัสปัจจุบัน  มีซากโบราณสถานที่กินอาณาบริเวณกว้างขวางราว 50 เอเคอร์ เมืองนี้เคยรุ่งเรืองในช่วง ค.ศ.250-800 ที่เรียกว่ายุคคลาสสิกของมายา เมืองโบราณโคปันนี้แบ่งคร่าวๆได้เป็นสองส่วน คือ มหาสนาม หรือ Great Plaza ทางด้านเหนือ กับอะโครโปลิส ทางด้านใต้ มหาสนามนั้นประกอบด้วยลานสาธารณะและสนามบอล เอาไว้เล่นบอลแบบมายานะคะ ไม่ใช่พรีเมียร์ ลีก ลานสาธารณะก็เต็มไปด้วยแท่นบูชาเล็กๆ และแท่งศิลาจำหลักภาพและจารึกที่ส่วนใหญ่สร้างขึ้นในรัชกาลกษัตริย์องค์ที่ 13 แห่งราชวงศ์โคปัน ผู้มีพระนามน่ารักน่าเอ็นดูว่าสิบแปดกระต่าย  ส่วนอะโครโปลิสที่อยู่บนเนินสูงราว 25 เมตรนั้น ประกอบด้วยกลุ่มพีระมิดและวิหารแห่งบุพกษัตริย์ ราชวงศ์โคปัน


ในบรรดากลุ่มโบราณสถานอะโครโปลิสแห่งโคปันนี้ มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ สองหลัง หลังแรกคือสถาปัตยกรรมหมายเลข 26 ที่อยู่ทางตอนเหนือของอะโครโปลิส ต่อเชื่อมกับสนามบอล สถาปัตยกรรมนี้เป็นพีระมิดสูง 69 ฟุต มีบันได 63 ขั้น ทอดขึ้นไปจนจดเบื้องบน ตามขั้นบันไดมีอักขระภาพมายาจำหลักไว้รวมทั้งหมด 2,200 ตัว บอกเล่าถึงกษัตริย์และพระราชวงศ์โคปัน นับเป็นบันทึกภาษามายาที่ยาวที่สุดเท่าที่พบมา บันไดนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ บันไดอักขระภาพ (Hieroglyphic Stairway) น่าเสียดายที่เมื่อครั้งที่ค้นพบนั้น อักขระภาพเหล่านี้หลุดร่วงลงมามากแล้ว จึงอ่านได้ความเพียงกระท่อนกระแท่นเท่านั้น

สถาปัตยกรรมที่โดดเด่น อีกหลังก็คือ สถาปัตยกรรมหมายเลข 16 ที่เป็นพีระมิดใจกลางอะโครโปลิส สูงราว 100 ฟุต เบื้องหน้าพีระมิด 16 มีแท่นบูชาที่นักโบราณคดีเรียกว่าแท่นบูชาคิว (Altar Q) ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.796 โดยกษัตริย์โคปันองค์ที่ 16 แยกซ์ พาซาฮ์ (Yax Pasah) รอบแท่นบูชาคิวทั้งสี่ด้านจำหลักรูปกษัตริย์ 15 พระองค์ ที่ครองราชบัลลังก์โคปันมาก่อนหน้าแยกซ์ พาซาฮ์ รวมเวลาราว 350 ปี ปฐมกษัตริย์คือ คินิช แยกซ์ คุค โม (Kinich Yax K'uk'mo) ที่ได้รับการสถาปนาขึ้นครองราชย์เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ.426 แต่พระองค์เสด็จมารับราชบัลลังก์ในอีก 5 เดือนต่อมา คินิช แยกซ์ คุค โม แปลว่า ปฐมเควทซัลมาคอว์มหาสุริยะ (Great Sun First Quetzal Macaw; Quetzal คือนกชนิดหนึ่งในตระกูลนกขุนแผนหางสวรรค์ Macaw คือนกแก้วมาคอว์) รูปจำหลักบนแท่นบูชาคิวแสดงภาพคินิช แยกซ์ คุค โม พระราชทานคทาแห่งกษัตริย์แก่แยกซ์ พาซาฮ์ ด้วยพระองค์เองทีเดียว

...


แรกทีเดียว นักโบราณคดียังคลางแคลงใจว่า กษัตริย์แยกซ์ คุค โม และกษัตริย์ พระองค์อื่นๆต่อมาอีก 14 พระองค์ ก่อนหน้าแยกซ์ พาซาฮ์ ที่ปรากฏภาพและเรื่องราวบนแท่นบูชาคิวนั้นมีจริงหรือ หรือเป็นเพียงตำนานเล่าขานเพื่อเสริมบารมีราชวงศ์โคปันเท่านั้น ประวัติศาสตร์โคปันเท่าที่รู้และมีหลักฐานชัดเจนก็คือ ในช่วง ค.ศ.600-800 ที่เรียกว่ายุคคลาสสิกตอนปลาย อันเป็นยุคที่โคปันเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา นักโบราณคดีเข้าใจว่าก่อนหน้านั้นโคปันเป็นเพียงเมืองเล็กๆที่ไร้ความสำคัญ จวบจนกระทั่งยุคปลายจึงได้ลืมตาอ้าปากรุ่งเรืองขึ้นมาบ้าง ประวัติศาสตร์โคปันก่อนหน้านั้นยังคงมืดมนไร้หลักฐานใดๆ

กระทั่งปี 1920 เมื่อตลิ่งด้านตะวันออกของอะโครโปลิสซึ่งติดกับแม่น้ำโคปัน ถูกสายน้ำกัดเซาะจนพังทลายลง จึงได้เห็นกันว่าใต้บริเวณอะโครโปลิสนี้มีสิ่งก่อสร้างเก่าแก่ซ้อนทับอยู่ ใต้เนินอีกมากมาย ทั้งวัง วิหาร และสุสาน เพราะเป็นธรรมเนียมของกษัตริย์โคปันที่จะรื้อวัง หรือวิหารของกษัตริย์องค์ก่อนแล้วสร้างวังหรือวิหารหลังใหม่ของพระองค์เอง ซ้อนทับลงไป ต่อมาในช่วงปี 1989-2003 พิพิธภัณฑ์แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียก็ได้ดำเนินการขุดอุโมงค์สำรวจใต้ อะโครโปลิส อุโมงค์นี้ยาว 4 กม. ซอกซอนลัดเลี้ยวเข้าไปใต้อะโครโปลิสโดยไม่ กระทบกระเทือนโบราณสถานสมัยหลัง ที่อยู่เบื้องบน  ทำให้ได้พบหลักฐานที่เติม เต็มหน้าประวัติศาสตร์โคปันที่ขาดหายช่วงยุคต้นราชวงศ์ในศตวรรษที่ 5

...


การสำรวจภายใต้อะโครโปลิสนี้ พบร่องรอยสิ่งก่อสร้างโบราณและสุสานซ้อนทับกันมากมาย อย่างเช่น วังฮูนัล ที่เชื่อว่าเป็นวังของคินิช แยกซ์ คุค โม กษัตริย์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์โคปัน ต่ำลงไปเบื้องล่างวังฮูนัลยังพบสุสานที่มีโครงกระดูกชายอายุระหว่าง 55-70 ปี ที่สันนิษฐานได้อย่างค่อนข้างแน่ใจว่านั่นคือ คินิช แยกซ์ คุค โม ปฐมกษัตริย์แห่งโคปันเอง

อาคารสำคัญที่สร้างซ้อนทับวังฮูนัลในกาลต่อ มาคือ วิหารสุสานที่เรียกชื่อว่า มาร์การิต้า  (Margarita)  วิหารมาร์การิต้านี้ มีสองห้องสองระดับ ห้องชั้นบนพบจารึกคำอุทิศถวายสุสาน ซึ่งลงวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ.437 อันเป็นเวลาสิบปีหลังจากแยกซ์ คุค โม ขึ้นครองราชย์ และที่ห้องชั้นล่างซึ่งมีบันไดทอดลาดลงมานั้น ก็พบโครงกระดูกหญิงสูงวัย ดูจากขนาดและที่ตั้งของวิหารสุสาน รวมถึงเครื่องประดับศพและเครื่องสักการะแล้ว  มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นราชินีของแยกซ์ คุค โม พระมารดาของกษัตริย์ โคปันองค์ที่ 2

สิ่งก่อสร้างหลังหนึ่งที่น่าทึ่งอย่างยิ่งเพราะซ้อน อยู่ข้างใต้พีระมิด 16 อย่างแนบเนียน นั่นก็คือวิหารโรซาลิลา (Rosalila=สีชมพูอมม่วง) ผู้สร้างพีระมิด 16 ก่อเรียงหินล้อมจนถึงคร่อมทับโรซาลิลาด้วยความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง

...


โรซาลิลาจึงอยู่ในสภาพสมบูรณ์กระทั่ง ริคาร์โด อเกอร์เชีย (Ricardo Agurcia) นักโบราณคดีฮอนดูรัสไปพบเข้าเมื่อปี ค.ศ.1989 โรซาลิลาเป็นวิหารน้อยที่อุทิศถวายแด่แยกซ์ คุค โม ตัววิหารสูงประมาณ 13 เมตร มี 3 ชั้น สองชั้นบนมีขนาดเล็กเป็นส่วนเสริมให้วิหารสูงเด่นเป็นสง่า ชั้นล่างเป็นส่วนที่ใช้งานจริงประกอบด้วยห้องแคบๆยาวๆ 4 ห้อง ที่ใช้ประกอบพิธีกรรม ผนังภายนอกทาด้วยสีแดง ประดับภาพปูนปั้นของแยกซ์ คุค โม ที่ถือว่าเป็นสุริยกษัตริย์ และภาพวิทซ์ (Witz) บรรพตอสูร โรซาลิลา ต้องเป็นวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนเคารพนับถือมาก การสร้างอนุสรณ์สถานในชั้นหลังจึงไม่รื้อทำลายวิหารนี้ แต่อุตสาหะพยายาม "ฝัง" อย่างระมัดระวัง ไม่ให้โรซาลิลากระทบกระเทือน ปัจจุบันมีโรซาลิลาจำลองขนาดเท่าจริงตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์งานสลักหิน (Sculpture Museum) ที่ศูนย์นักท่องเที่ยวโคปันให้ได้ชมกันจะจะ ไม่ต้องมุดพีระมิดส่องดูให้ลำบาก

ความสลับซับซ้อนของโบราณสถานใต้อะโครโปลิสแห่งโคปันยังมีอีกมากมาย ใกล้ๆกับโรซาลิลากับโอโรเพนโดลายังมีวิหารอีกสองหลังที่ยังขุดค้นไม่เสร็จ และอาจมีสุสานอยู่เบื้องล่าง นักโบราณคดีคาดว่าจะต้องใช้เวลาอีก 10 ปี เพื่อขุดค้น เรียกว่าขุดกันจนแก่ทีเดียวละ ถ้าท่านผู้อ่านสนใจ ก็ติดตามรายละเอียดเรื่องราวเจาะลึกอะโครโปลิสโคปันอย่างละเอียดได้ในนิตย สารต่วย'ตูน  พิเศษฉบับตุลาคม-เดือนหน้านะคะ.

ทีมงานต่วย'ตูน