เพอร์ซีอุสใช้หัวเมดูซาเป็นอาวุธ.

สําหรับคนชอบดูดาว เดือนสิงหาคมนี้ มีปรากฏการณ์ฝนดาวตกที่น่าสนใจ ซึ่งมักจะมาเป็นประจำในราวๆ วันที่ 12 สิงหาคม จนคนไทยหลายคนนิยมเรียกขานกันว่า ฝนดาวตกวันแม่ แต่โดยทางการแล้ว ฝนดาวตกที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12-13 สิงหาคมนี้ คือ "ฝนดาวตกเพอร์ซีอุส" ซึ่งจริงๆแล้ว ฝนดาวตกเกิดขึ้นจากสะเก็ดดาวหาง แต่มักจะมีแหล่งกำเนิดที่เหมือนจะพุ่งออกมาจากบริเวณใดบริเวณหนึ่งบนท้องฟ้า และคราวนี้ ก็จะเกิดบริเวณระหว่างกลางของ "กลุ่มดาวเพอร์ซีอุส" กับ "กลุ่มดาวแคสซิโอเปีย"

ไทยรัฐ ซันเดย์ สเปเชียล โดยทีมงานต่วย'ตูน จึงจะขอพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับเพอร์ซีอุส เจ้าของชื่อกลุ่มดาวอันโด่งดังในนภากาศ โดยเฉพาะในซีกโลกเหนือ เผื่อว่าเวลาดูฝนดาวตกที่จะมาตามนัดแน่ๆ ในช่วงกลางเดือนนี้ จะได้ระลึกถึงวีรบุรุษจากตำนานกรีกผู้นี้ ที่ได้ขึ้นไปใช้ชีวิตนิรันดร์อยู่บนฟากฟ้า พร้อมกับภรรยาสุดที่รัก แถมด้วยแม่ยายจอมเฮี้ยว

ก่อนจะไปไกลถึงใครอื่น ขอวกกลับมาที่เพอร์ซีอุสก่อน พ่อหนุ่มคนนี้เป็นโอรสของมหาเทพซุส ผู้แอบลงมาเชยชมดานาเอ พระธิดาของกษัตริย์แห่งอาร์กอส ที่แม้จะพยายามแอบซ่อนธิดาไว้อย่างดิบดี ก็หนีไม่พ้นความเจ้าชู้ ของมหาเทพไปได้

...

แต่การได้หลานชายที่เป็นถึง โอรสแห่งเทพมาอุ้มนี้ กลับทำให้กษัตริย์ทรงโมโหโกรธาเพราะมีคำทำนายมาก่อนหน้านี้ว่า โอรสของดานาเอจะเป็นผู้ปลิดชีพพระองค์ จอมกษัตริย์ก็เลยตัดใจ นำทั้งพระธิดา และพระนัดดาทิ้งลอยนํ้าไป จะได้ไม่สามารถกลับมาเข่นฆ่าพระองค์ได้

แต่พระเอกเสียอย่าง  ดานาเอและเพอร์ซีอุส ได้ไปพบกับครอบครัวใจดี  ช่วยเลี้ยงดูจนเพอร์ซีอุสเติบโตขึ้นเป็นหนุ่มคะนองแข็งแกร่ง  จนกระทั่ง เมื่อโพลิเดกเทส ผู้ครองนครที่สองแม่ลูกไปอาศัยอยู่เกิดต้องพระทัยในดานาเอ  แต่มีเพอร์ซีอุสเป็นก้างขวางคอ เลยใช้อุบายหลอกให้เพอร์ซีอุสไปสังหารเมดูซา เพราะเชื่อว่าไม่มีทางทำได้สำเร็จ เนื่องจากใครก็ตามที่มองเมดูซาจะกลายเป็นหิน!

เพอร์ซีอุสซึ่งตกหลุม พรางออกเดินทางไปหาเมดูซา แต่ก็ได้เทพหลายองค์ออกโรงมาช่วยในฐานะที่เพอร์ซีอุสไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นโอรสของซุสผู้ยิ่งใหญ่ ดังนั้น เฮอร์เมส เทพผู้ ว่องไว และอธีนา เทพีแห่งปัญญา ซึ่งล้วนมีพระบิดาองค์เดียวกันกับเพอร์ซีอุส ได้มอบรองเท้าติดปีกที่ทำให้บินได้ หมวกที่สวมแล้วหายตัวได้ และดาบวิเศษ อันเป็นของกำนัลจากเฮอร์เมส ในขณะที่อธีนาก็มอบเกราะสำริดขัดมันให้เพอร์ซีอุส ใช้มองแทนกระจก  เพื่อจะได้ไม่ต้องสบตากับ

เมดูซาโดยตรง และทั้งหมดนี้ก็ทำให้เพอร์ซีอุส สามารถบั่นศีรษะเมดูซาได้สำเร็จ

ระหว่างเดินทางกลับบ้าน  เพอร์ซีอุสแวะที่เอธิโอเปีย  ได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งถูกมัดไว้ ที่ชะง่อนผาริมทะเล เธอคือ แอนโดรเมดา ผู้เลื่องระบือเรื่องรูปโฉมอันหาใครเปรียบยาก  จึงไม่ แปลกเลยที่เพอร์ซีอุสจะถูกศรรักปักอกในแทบจะทันทีที่ได้เห็นนาง

แอนโดรเมดาเป็นถึงพระธิดาของเซฟิอัส กษัตริย์แห่งเอธิโอเปีย และพระชายาของพระองค์ คือ ราชินีแคสซิโอเปีย

อัน ว่าแคสซิโอเปียนี้ ก็เป็นสาวงามขึ้นชื่อมาก่อน แถมยังขี้คุยอย่างสุดประมาณ พระนางหลงในความทรงเสน่ห์ของตนเอง และละเมอเพ้อพกในความสวยของพระธิดาสุดที่รัก ก็เลยโม้ไปทั่วว่า ทั่วพื้นปฐพีและสรวงสวรรค์นั้น จะหาใครงามเกินนางสองแม่ลูกเป็นไม่มี

...

การขี้โม้ของแคสซิโอเปียทำให้เทพไม่พอพระทัย โดยเฉพาะโพไซดอน เทพแห่งมหาสมุทร พระองค์ส่งอสูรงูยักษ์จากทะเลมารังควานชาวเมือง หลายคนถูกเจ้าสัตว์ยักษ์เขมือบเป็นอาหารว่าง หลายคนหนีตายล้มลุกคลุกคลาน และแล้ว เทพพยากรณ์ก็บอกว่า หากต้องการจะพ้นภัยก็ต้องนำธิดาของราชินีผู้โอ้อวดไปเป็นเครื่องสังเวย แอนโดรเมดาก็เลยมาถูกมัดรอสัตว์ประหลาดขึ้นมากินอยู่ที่ชะง่อนผาอย่างที่ว่า

งานนี้เล่นไม่ยาก ขนาดเมดูซายังปราบมาแล้ว กะอีแค่ สัตว์ประหลาดตัวเดียวจะไปเหลืออะไร ว่าแล้ว เพอร์ซีอุสก็เอาดาบวิเศษฟันฉับเข้าให้ เจ้างูใหญ่ก็สิ้นฤทธิ์ แต่ก็มีบางตำนานเหมือนกันที่บอกว่า ไม่ง่ายขนาดเจอะปุ๊บฟันปั๊บหรอกนาย แหม... เจ้าอสูรทะเลจะสิ้นฤทธิ์ง่ายๆ ก็กระไรอยู่ แต่เป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดเลือดพล่าน  เพอร์ซีอุสต้องใช้ทั้งหัวเมดูซาที่ทำให้คู่ต่อสู้ กลายเป็นหิน และออกแรงขนาดหนักเพื่อหาช่องโหว่ของเจ้างูยักษ์นี้ได้ กว่าจะใช้ดาบวิเศษสังหารสัตว์ยักษ์ และเข้ามาแก้มัดให้สาวงามในดวงใจได้

เพ อร์ซีอุสได้รับเสียงปรบมือโห่ร้องด้วยความยินดีกันกึกก้อง จากนั้นก็เป็นไปตามแบบฉบับตำนานแห่งสุขนาฏกรรม เมื่อเขาขอแต่งงานกับแอนโดรเมดา  ซึ่งบางตำนานก็บอกว่า ทั้งพระบิดาและพระมารดาของนางก็ยินดี  แต่ก็มีบางตำนานที่บอกว่า แคสซิโอเปียยังซ่าไม่หยุด  เพราะออกโรงขัดขวางอย่างออกนอกหน้า

...

มหาเทพ แห่งท้องสมุทรก็เลยยิ่งกริ้วไปใหญ่ เพราะขัดขวางใครไม่ขัด มาขัดเพอร์ซีอุส ซึ่งเป็นหลานแท้ๆของ พระองค์เอง ว่าแล้ว โพไซดอนก็จับเอาแคสซิโอเปียเหวี่ยงขึ้นไป กลายเป็นกลุ่มดาวอยู่ทางซีกโลกเหนือ แถมให้อยู่แบบห้อยหัวลง แคสซิโอเปียผู้มีปากเป็นพิษก็เลยได้ขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าด้วยเหตุฉะนี้

ด้านพระเอกและนางเอกของเราก็ได้สมรสสมรัก เพอร์ซีอุสพาแอนโดรเมดากลับบ้านไปหาพระมารดา และใช้หัวของเมดูซากำจัดโพลิเดกเทส พระราชาที่หวังจะเขี่ยเพอร์ซีอุสทิ้งตั้งแต่แรกให้กลายเป็นหินไป จากนั้น วันหนึ่งเพอร์ซีอุสไปร่วมการแข่งขันกรีฑาด้วยการขว้างจักร  และด้วยอุบัติเหตุที่ คาดไม่ถึง จักรของเพอร์ซีอุส ไปตกใส่แฟนกีฬาคนหนึ่งถึงแก่ความตาย ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นพระเจ้าตาผู้เคยพยายามขับไล่ไสส่งเพอร์ซีอุส นั่นเอง คำทำนายจึงกลายเป็นจริงด้วยเหตุนี้

เพอร์ซีอุสและแอนโดรเมดามีโอรสคน หัวปีชื่อเพอร์เรส ซึ่งว่ากันว่า  เป็นบรรพบุรุษของชาวเปอร์เซีย  ส่วนโอรส รองคืออิเล็กทริออนก็ไม่ใช่ใครที่ไหน  แต่เป็นตาของเฮอร์คิวลิส  อีกหนึ่งในวีรบุรุษสำคัญของกรีกนั่นเอง

...

หลังจากใช้ชีวิตคู่อย่างมี ความสุข  จนถึงเวลาความตายมาพรากคู่รักออกจากกัน ด้วยคุณความดี และการที่เป็นถึงโอรสของมหาเทพ เมื่อสิ้นชีวิต ทวยเทพก็ได้นำเขาขึ้นสู่ฟากฟ้า กลายเป็นกลุ่มดาวอยู่ไม่ห่างจากแม่ยายที่ขึ้นไปอยู่ก่อน

กลุ่มดาวเพ อร์ซีอุสนี้ คนโบราณมองเห็นคล้ายชายหนุ่มถือดาบไว้ในมือขวา และมีหัวของเมดูซาอยู่ในมือซ้าย  ด้านแอนโดรเมดาก็ได้ รับเกียรติจากความเมตตาของเทวีอธีนา ให้นางได้เป็นกลุ่มดาวแอนโดรเมดาอยู่ติดกับกลุ่มดาวเพอร์ซีอุส ซึ่งคนโบราณมองเห็นเป็นหญิงสาวที่ถูกพันธนาการ คล้ายกับตอนที่นางถูกตรึงไว้กับชะง่อนผารอให้เพอร์ซีอุสมาช่วยนั่นเอง

รวม ความแล้ว ชาวกรีกโบราณผูกตำนานปกรณัมเข้ากับการแหงนมองดวงดาวบนท้องฟ้า ทำให้เพอร์ซีอุสและแอนโดรเมดาได้อยู่ร่วมกันตลอดไป ณ ฟากฟ้าไกลโพ้น ในขณะที่แม่ยายตัวแสบก็ยังมาแอบอิงอยู่ใกล้ๆด้วย แล้วก็ไม่ต้องห่วงว่าแคสซิโอเปียจะเหงา เพราะชาวกรีกโบราณเขายกให้เอาพระสวามีเซฟิอัสไปเป็นกลุ่มดาวอีกกลุ่มหนึ่ง ใกล้ๆกับพระนางด้วย เป็นการปิดตำนานรักของสองคู่ชู้ชื่นได้สมบูรณ์นิรันดร์

ส่วน ท่านที่อยากเห็นฉากบู๊ดุเดือดของเพอร์ซีอุสก่อนที่จะมาถึงฉากรัก แนะนำให้ลองไปหา DVD  เรื่อง  Clash  of  the  Titans  สงครามมหาเทพ ประจัญบานมาดู กับบทบาทการต่อสู้ของวีรบุรุษกรีกผู้เรืองนาม  แล้วจะได้รู้ว่าการคุยโม้น่ะง่าย  แต่จะ ให้เป็นวีรบุรุษจริงๆนั้น  ยากไม่ใช่เล่นเลยทีเดียว.

ทีมงาน ต่วย'ตูน