คลื่นกระแสศรัทธา “หลวงพ่อพระพุทธแซกคำ” พระสำคัญทางประวัติศาสตร์ ที่นับว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง
วันนี้ชื่อเสียงแรงความเชื่อในองค์ “หลวงพ่อพระพุทธแซกคำ” วัดคฤหบดี ซอยจรัญสนิทวงศ์ 44 เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร ไม่ได้ดังขึ้นเฉพาะยุคหากแต่มีมาเนิ่นนานแล้วนับเนื่องมาแต่ในอดีต
ประวัติหลวงพ่อ...เป็นพระพุทธรูปเนื้อทองคำโบราณ หน้าตักกว้าง 18 นิ้ว สูง 65 เซนติเมตร ภายในองค์หลวงพ่อได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ 9 องค์
“หลวงพ่อแซกคำ”...เป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญมาก เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองในสมัยอาณาจักรล้านนา (นครเชียงใหม่) ซึ่งมีพระเจ้าไชยเชษฐาเป็นพระมหากษัตริย์
กาลต่อมา...พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชมีความจำเป็นต้องเสด็จไปครองราชสมบัติในอาณาจักรล้านช้าง พระนครกรุงศรีสัตนาคนหุต (หลวงพระบาง) ได้อัญเชิญพระพุทธรูปที่สำคัญ มีความศักดิ์สิทธิ์ ไปด้วย 3 องค์ คือ...พระแก้วมรกต, พระพุทธแซกคำ และ พระบาง
...
ในปีพุทธศักราช 2100 พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้ย้ายราชธานีจากหลวงพระบางไปตั้งอยู่ที่นครเวียงจันทน์และอัญเชิญพระพุทธรูปทั้ง 3 องค์นี้ไปด้วย
“หลวงพ่อพระพุทธแซกคำ” ได้ประดิษฐานอยู่ที่นครเวียงจันทน์ สืบมาหลายรัชกาลนานถึง 269 ปี
ในต้นสมัยของรัชกาลพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ทรงให้เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนีย์) เป็นแม่ทัพไปปราบกบฏเวียงจันทน์ ได้จับกุมเจ้าอนุกษัตริย์นำตัวมากรุงเทพฯ
พร้อมได้อัญเชิญ “หลวงพ่อพระพุทธแซกคำ” ซึ่งรอดหูรอดตาจากครั้งที่เจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยกทัพไปตีลาวในสมัยกรุงธนบุรี นำมาทูลเกล้าฯถวาย
พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯพระราชทานพระพุทธแซกคำให้มาเป็นพระประธานสถิตประดิษฐานในพระอุโบสถ พระอารามหลวงวัดคฤหบดี เป็นศรีสง่าแก่พระอารามนับตั้งแต่พุทธศักราช 2369 มาจนถึงทุกวันนี้
@@@@
สุ้มเสียงผู้ที่ศรัทธาเลื่อมใส “หลวงพ่อพระพุทธแซกคำ” พอจะรู้ประวัติกันคร่าวๆอยู่บ้าง ว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ในอดีต วันวานผ่านมาถึงวันนี้ ชาวบ้านก็มาบนบาน ศาลกล่าวกันแทบทุกเรื่อง โดยมีของแก้บนที่ปรุงมาเป็นเมนูอาหารอีสานทั้งหมด อย่างเช่น ส้มตำปลาร้า ไข่ดิบ ข้าวเหนียวไก่ย่าง
“...มาบนกันแล้วแต่จะบนกันเรื่องอะไร ประสงค์หน้าที่การงาน มีลูก...สำเร็จมาก็อาจจะแก้บนด้วยไข่ จะกี่ฟองหรืออาหารอีสาน ส้มตำปลาร้า ลาบ น้ำตกก็ว่ากันไปตามกระแสแรงศรัทธาแต่ละบุคคล”
ของแก้บนมากน้อยขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราบน...เมื่อถวายของแก้บนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็บอกลา จะเก็บกลับหรือให้เด็กวัดก็ว่ากันไปตามแต่จะตัดสินใจ หรือว่าจะให้ลูกศิษย์วัดจัดแจงให้ก็ตามแต่ตกลงกันไว้ แก้บนเสร็จเรียบร้อยแล้ว... จะเอาไปให้แก่ครัววัดก็ว่ากันไป
อย่างต้มไข่มา แก้บน แล้วก็ฝากลา...ให้ ด้วย หรือบนเสร็จแล้วก็ลา
ส่วนใหญ่ผู้คนที่รู้เรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ก็จะเดินทางกันมาเรื่อยๆ ก็มาเริ่มรู้จักกันมากในปี 2549 จะมีกรณีเหตุการณ์วิหารทรุดเพราะน้ำท่วม ด้านในโบสถ์จะมีพระพุทธรูปเก่าแก่ 2 องค์ คนละยุคสมัยกันเลย สมัยอู่ทองก็องค์หนึ่ง...เข้าไปกราบสักการะได้ แต่ห้ามจุดธูปเทียนด้านใน
...
“ใครจะแก้บนจุดธูปบอกกล่าวก็ทำกันเฉพาะด้านนอกในบริเวณพื้นที่ที่จัดไว้ให้เป็นองค์หลวงพ่อพระพุทธแซกคำจำลองอยู่ด้านหน้า”
@@@@
ตำนานการสร้าง “หลวงพ่อพระพุทธแซกคำ” สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 16-18 คือในระหว่าง พ.ศ.1600-1800 นับจนถึงปัจจุบันมีอายุยาวนานถึงกว่า 950 ปีเข้าไปแล้ว
ปี พ.ศ.2499 พระเดชพระคุณ พระญาณรังสี หรือหลวงปู่ตุ๊ พรหฺมโชตะเถระ อดีตเจ้าอาวาสวัดคฤหบดีรูปที่ 9 ได้ปรารภถึงประวัติหลวงพ่อแซกคำว่าผู้ใดเป็นผู้สร้างกันแน่ และได้กล่าวเล่าเรื่องตำนานการสร้างไว้ดังนี้...
เมื่อพระนางจามเทวีได้ขึ้นครองราชสมบัติเป็นกษัตริยาแห่งหริภุญชัยนคร พระนางเจ้าให้ช่างสร้างพระพุทธรูปขึ้นจำนวน 3 องค์ เพื่อเป็นการบูชาพระคุณ พระชนก และพระชนนี
และ...เป็นการฉลองในส่วนพระองค์เองด้วย เมื่อสร้างเสร็จแล้วจัดงานสมโภชพระพุทธรูปตลอด 3 วัน 3 คืน
พระนางจามเทวี...ทรงปีติโสมนัสเป็นอย่างยิ่ง ได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า “พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ สวยงามไม่มีที่ติ ถ้าหากว่ามีพระพุทธรูปองค์ใดงามยิ่งกว่า ก็ขอให้มาปรากฏให้เห็นในมณฑลพิธีนี้”
...
เมื่อจบคำอธิษฐานทั่วทั้งมณฑลพิธีตลบไปด้วยกลุ่มควันสีขาวและมีลำแสงทอดลงมาจากนภากาศและปรากฏเห็นพระพุทธรูปมีลักษณะงดงามมาก แหวกอากาศลงมาตามลำแสงสีทองคำ มาตั้งประดิษฐานแซก (แทรก) อยู่ในระหว่างพระพุทธรูป 3 องค์นั้น
พระนางจามเทวีเห็นอัศจรรย์ดังนั้นยิ่งมีจิตโสมนัสเป็นอย่างมาก โปรดฯให้จัดงานสมโภชฉลองจนครบ 9 วัน 9 คืน
และตั้งชื่อพระพุทธรูปนี้ว่า “พระพุทธแซกคำ”
เหตุเพราะแหวกอากาศลงมาตามลำแสงสีทองคำ มาตั้งแซก (แทรก) อยู่ท่ามกลางพระพุทธรูปทั้ง 3 จึงได้นามว่า...พระพุทธแซกคำ จากนั้นมากล่าวขานกันว่า...ท้าวสักกะ อินทราธิราช ได้เนรมิตสร้าง พระพุทธแซกคำ เป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป เชื่อกันว่า... เป็นพระศักดิ์สิทธิ์
...
“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อ โปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.
รัก–ยม