“เชื่อแต้ ศรัทธาแต้ ตึงดีแต้”...พิธีสืบชะตาตามความเชื่อที่ถูกส่งต่อกันมายาวนาน มรดกจากบรรพบุรุษ “จุดเทียน” บูชาไสยศาสตร์... เครื่องรางอาถรรพณ์แห่งล้านนา ด้วยเชื่อว่าการเขียนอักขระโบราณอักษรล้านนาจะช่วยให้รอดพ้นจากสิ่งชั่วร้าย

อีกทั้งยังเป็นพิธีกรรมที่เสมือนเป็นยาวิเศษครอบจักรวาล... “สะเดาะเคราะห์ สืบชะตา บูชาโชค พระเมตตา บูชาราหู” ง่าย...ทำแล้วได้ผล...จวบจนถึงทุกวันนี้

ในการทำวิชาทางไสยศาสตร์สายล้านนานั้น “เทียนบูชา” ก็เป็นอีกสายวิชาหนึ่งที่เห็นผลและนิยมทำกันมากมาตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นวิชาที่มีเสน่ห์และพลังในตัวเอง มีคุณวิเศษที่ยากต่อการอธิบาย แม้แต่สิ่งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เทียนบูชาก็ยังสร้างสิ่งเหนือธรรมชาติได้เช่นกัน

กล่าวกันว่า...เทียนบูชานั้นไม่มีประวัติการสร้างว่านิยมทำกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่คนล้านนามี ความเชื่อและยึดมั่นในเทียนล้านนาเป็นอย่างมาก ส่วนในทางพุทธคุณนั้น ก็จะมีความเชื่อในเรื่องของการช่วยพลิกผันหนุนดวงต่อชะตาให้พ้นจากภัยพิบัติทั้งปวง กลับจากร้ายให้กลายเป็นดี ลดเคราะห์หลีกภัย

ชนะคดีความ ศัตรูคู่แข่ง ขับคุณไสย ไล่อัปมงคล ภูตผีวิญญาณร้ายต่างๆมิให้มาแผ้วพานใกล้ตัวผู้บูชา...ให้บังเกิดแต่โชคลาภ โภคทรัพย์ มั่งมีเงินทอง ไม่ขัดสน ธุรกิจการงานราบรื่น เจริญก้าวหน้า ...หรือผู้ใดกำลังจะมีโชคมีลาภแต่เหมือนว่ามีอะไรกั้นขวางมาบดมาบังก็ให้นำเทียนสืบชะตาไปจุดบูชา

แม่คำ ภิระบรรณ์ อายุ 69 ปี เจ้าหน้าที่จำหน่ายวัตถุมงคลและเทียนบูชาล้านนา ประจำวัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงราย เล่าถึงการบูชาเทียนว่า...เป็นประเพณีและคติความเชื่อของคนล้านนาที่ทำมาตั้งแต่อดีต ซึ่งเชื่อกันว่าการทำเช่นนี้จะเกิดสิ่งดีๆกับชีวิตของตนเอง การบูชาเทียนจะทำโดยการจุดเทียนที่ผ่านการปลุกเสกมาแล้ว ซึ่งเทียนจะมีลักษณะที่แตกต่างจากเทียนที่ใช้ไหว้บูชาพระทั่วไป

...

เช่น เพื่อให้หายเจ็บหายไข้ เพื่อโชคลาภเงินทอง สะเดาะเคราะห์ เสริมดวง เสริมทรัพย์ ต่ออายุ ผัวเมียทะเลาะกันให้ดีกัน ผัวมีเมียน้อยไม่กลับบ้าน ให้มีคนเมตตา รักใคร่ ค้าขายดีมีกำไร ถูกใส่โทษปองร้าย บ้านมีผีดุหรือเจ้าที่แรงก็บูชาเทียน การจุดเทียนบูชานิยมทำกันมาตั้งแต่สมัยอดีต และนิยมทำกันมาจนถึงปัจจุบัน

ทำงานอยู่ที่วัดมานานนับ 10 ปี พบว่าการบูชาเทียนนั้น แท้ที่จริงแล้วได้รับอิทธิพลมาจากพม่าผสมผสานทางล้านนา เพราะมีการจุดเทียนบูชานี้อย่างแพร่หลายในประเทศพม่า

ประเพณีวัฒนธรรมคล้ายคลึงกัน ซึ่งชาวพม่าเชื่อ ศรัทธาในเรื่องไสยศาสตร์...เป็นการทำที่ง่ายสะดวกสบายกว่าการทำไสยศาสตร์แขนงอื่น

O O O O

“เทียนบูชา”...ไม่มีประวัติการสร้างว่านิยมทำกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่คนล้านนามีความเชื่อและยึดมั่นในเทียนบูชาของล้านนาจนเทียนเข้ามามีบทบาทในจารีตประเพณีมากขึ้น

ซึ่งทำให้จิตใจของผู้ได้บูชาเทียนแล้วได้มีจิตใจที่ตั้งมั่นต่อการทำกุศลต่อไป

การบูชาเทียนนั้นเป็นการสะเดาะเคราะห์ร้าย...กลับร้ายให้กลายเป็นดี ปัดเป่าเสนียดจัญไร ทุกข์โศก โรคภัย ก็จะหายไป

ส่วนวิธีจุดเทียน ให้เขียนชื่อ สกุล วัน เดือน ปีเกิดของผู้บูชาเทียน เขียนจากปลายเทียนลงมา

จุดบูชาเทียนเฉพาะวันที่เห็นว่าดีที่สุด ให้จุดบูชาระหว่างเวลา 05.24-08.30 น. หรือ 18.45-24.00 น. ควรจุดแล้วอธิษฐานจิตในสิ่งที่ปรารถนา (ห้ามขอในสิ่งที่ผิดศีลธรรม) แล้วนำไปจุดหน้าหิ้งพระหรือหน้าบ้าน

ข้อสำคัญ...ให้ระวังไฟไหม้ด้วยเพราะเทียนใช้เวลา 4–5 ชั่วโมงกว่าจะดับ วางให้เทียนห่างๆกัน อย่าวางติดกันเพราะเทียนร้อนจะไหม้กันเอง หรือถ้าอยากจุดเทียนทั้งสองแท่งพร้อมกันก็ไม่ต้องแกะสายสิญจน์ออก จุดเทียนทั้งสองแท่งพร้อมกันได้เลย

“อย่าให้เทียนดับ โดยให้เทียนนั้นละลายไหม้จนดับไปเอง จุดเวลาใดก็ได้ และถ้าทำได้ก็จุดในวันเกิดของตนเอง เช่น เกิดวันจันทร์ก็จุดวันจันทร์ หรือวันไหนก็ได้ตามสะดวก สำหรับที่วัดพระสิงห์ จะมีสถานที่สำหรับให้จุดเทียนโดยเฉพาะ โดยทางวัดได้อาศัยต้นโพธิ์อายุนับ 100 ปี โดยสร้างพระพุทธรูปประจำวันเกิดเพื่อให้จุดเทียนบูชา และจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลจนกว่าเทียนจะหมดเล่ม”

...

ผู้ดูแลเทียนบูชาแห่งวัดพระสิงห์ย้ำว่า ถึงจะไม่มีเคราะห์ก็ควรทำ ให้ทำไปเรื่อยๆ หนักก็จะเป็นเบา มีหลายเรื่องที่ได้พบได้เห็นมากับตัวเอง ทุกข์ของคนที่มาพึ่งพาวัด...ทั้งสะเดาะเคราะห์ สืบชะตา บูชาโชค พระเมตตา กระทั่งบูชาราหู ไม่สบายหาหมอไม่หาย ก็มาจุดบูชาเทียนล้านนา

O O O O

วัดพระสิงห์ (เชียงราย) เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ตั้งอยู่ที่ถนนท่าหลวง ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย สาเหตุที่วัดนี้มีชื่อว่า “วัดพระสิงห์” นั้น น่าจะเป็นเพราะครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย นั่นก็คือ “พระพุทธสิหิงค์”

ปัจจุบันวัดพระสิงห์เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธสิหิงค์ (หรือพระสิงห์) จำลองศิลปะเชียงแสนปางมารวิชัย ชนิดสำริดปิดทอง หน้าตักกว้าง 37 เซนติเมตร สูงทั้งฐาน 66 เซนติเมตร

ตำนานเล่าขานถึงความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์พระพุทธสิหิงค์ไว้ว่า... “การสร้างได้ประกอบขึ้นด้วยแรงอธิษฐาน 3 ประการ คือ หนึ่งคำอธิษฐานของพระอรหันต์ผู้ร่วมพิธี ประการที่สองแรงอธิษฐานของพระเจ้ากรุงลังกาผู้สร้าง และประการสุดท้ายอานุภาพแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

...

การที่พระพุทธสิหิงค์เสด็จประทับอยู่ที่ใด พระพุทธศาสนาย่อมรุ่งเรืองดั่งดวงประทีปเสมือนหนึ่งพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่”

เชื่อมโยงเรื่องราวศรัทธา “จุดเทียน” บูชาไสยศาสตร์ ข้อสำคัญสุดท้ายที่ควรใคร่รู้

“ไม่เชื่อ...ก็ห้ามลบหลู่ จุดที่จุดเทียนบูชาซึ่งเป็นต้นโพธิ์ใหญ่อายุกว่า 100 ปี ไม่มีใครกล้าตัดหรือแม้แต่คิดจะถอนเพื่อใช้พื้นที่ มีอันเป็นไปทุกคน ไม่ป่วยตาย ก็ประสบเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน...

แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าที่เคยส่งคนมาตัดแต่งกิ่งไม้ กลับไปบ้านก็มีอาการปวดท้องอย่างหนัก พาไปหาหมอก็ไม่พบสาเหตุ จึงต้องมาขอขมาจุดเทียนบูชากันที่หน้าต้นโพธิ์...และนับจากนั้นก็ไม่มีใครกล้ากับต้นโพธิ์ของวัดอีกเลย”

“ศรัทธา” นำมาซึ่ง “ปาฏิหาริย์” เชื่อไม่เชื่ออย่างไรโปรดอย่าได้ “ลบหลู่”.

รัก–ยม