ร้อนๆ แบบนี้ หลายคนนึกอยากไปเที่ยวทะเล แต่เดี๋ยวก่อน...เราว่าทะเลมันเอาต์ไปแล้ว นาทีนี้แหล่งท่องเที่ยวที่มาแรงสุดๆ ต้องไป 'บ่อน้ำผุดธรรมชาติ' น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา คือมันใสมากจริงๆ ใสราวกับกระจก มองทะลุถึงพื้นทรายใต้น้ำชัดๆ แบบ 4K เลยอะ OMG!
ไทยรัฐออนไลน์ เห็นแล้วอยากชวนเพื่อนๆ ขาเที่ยวไปเล่นน้ำคลายร้อนกันฟินๆ กับน้ำใสๆ แบบนี้ เราจะพาไปทำความรู้จักบ่อน้ำผุดธรรมชาติในเมืองไทย ทั้ง 3 แห่งนี้กัน พร้อมแล้วตามมาเลย...
1. น้ำออกฮู แม่แจ่ม, จ.เชียงใหม่
น้ำออกฮู หรือ น้ำแม่ออกฮู ตั้งอยู่ริมแม่น้ำอวม หมู่ที่ 1 บ้านทุ่งยาว ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ อยู่ทางทิศเหนือของอำเภอแม่แจ่ม ห่างจาก อำเภอแม่แจ่มประมาณ 8 กิโลเมตร (อยู่ใกล้ๆ กับที่ว่าการอำเภอแม่แจ่ม หาไม่ยากจ้า)
น้ำออกฮู ในภาษาเหนือ หมายถึง น้ำออกรู ซึ่งสถานที่แห่งนี้มีความพิเศษ มีลักษณะเป็น 'บ่อนํ้าผุด' ตลอดทั้งปี ไหลออกมาจากซอกหิน น้ำผุดใสบริสุทธิ์ไหลอยู่ตลอด ไม่มีวันแห้งเหือด มีความใส สะอาด เย็น เป็นลำธารใสไหลเย็น และสระน้ำเล็กๆ เหมาะสำหรับเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจเล่นน้ำผ่อนคลาย
...
2. ตำนานน้ำออกฮู
ชาวบ้านเชื่อกันว่าพื้นที่บ่อน้ำผุดแห่งนี้คือ รอยพระพุทธบาท (รอยพระพุทธบาทน้ำออกฮู) มีตำนานเล่าว่า สมเด็จพระบรมศาสดาได้เสด็จมาเผยแผ่ศาสนาที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง แล้วจึงได้เสด็จมาทางวัดพระเกิ๊ด ประทับรอยพระพุทธบาทดอนกลาง แล้วจึงเสด็จมาดอยผ้าขาว ทุ่งหญ้าลี ทรงประทับรอยพระบาทที่วัดทะ
แล้วเสด็จไปทางบ้านแม่ปาง ประทับรอยพระบาทไว้ที่ทุ่งยาว ณ เชิงดอยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่พระพุทธเจ้าทรงพำนักชั่วคราว ทรงอธิษฐานให้มีน้ำไหลออกมาแล้วทรงใช้น้ำนี้บ้วนพระโอษฐ์ ความอัศจรรย์ของน้ำที่ไหลออกมานี้ คือ เป็นตาน้ำที่ไหลออกมาทั้งปีไม่มีเหือดแห้ง
3. ไหลมาจากถ้ำเชียงดาว
อีกความเชื่อหนึ่งคือ ว่ากันว่าตาน้ำแห่งนี้ไหลมาจาก ถํ้าเชียงดาว คนในสมัยโบราณมีความสงสัยว่าน้ำที่ไหลออกมานี้ไหลมาจากไหน จึงมีคนลองนำเอาผลมะนาวหลายเข่ง ไปเทใส่ที่แม่น้ำในถ้ำเชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ หลังจากนั้นเวลาผ่านไปหลายวัน มีมะนาวออกจากรูน้ำแห่งนี้จริงๆ สร้างความประหลาดใจแก่ชาวบ้าน และเชื่อว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านจึงได้ทำการตั้งศาลและกั้นด้วยไม้ หากมาช่วงฤดูร้อน คือ ประมาณเดือนเมษายนของทุกปี จะเป็นช่วงที่น้ำใสสะอาดสวยงามที่สุด
...
4. บ่อน้ำผุดบ้านท่าช้าง เขาใหญ่, จ.นครราชสีมา
มาต่อกันที่แหล่งท่องเที่ยวบ่อผุดแห่งที่ 2 นั่นคือ สระน้ำผุดธรรมชาติบ้านท่าช้าง ตั้งอยู่ที่บ้านท่าช้าง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นตาน้ำที่มีน้ำผุดขึ้นมาตลอดปี ไม่มีแห้ง
5. น้ำสีฟ้าเขียว คล้ายสระมรกต
โดยธรรมชาติน้ำที่ผุดขึ้นมานี้ เป็นน้ำฝนที่ถูกซึมซับอยู่ในชั้นหินใต้ดิน และก่อนที่จะผุดขึ้นมาจากผิวดินก็ได้รับการกรองจากก้อนหินที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตสูง ทำให้บ่อน้ำผุดบ้านท่าช้างแห่งนี้มีความใสมาก สะอาด เย็นสดชื่น ลักษณะของน้ำมีสีฟ้าเขียว ซึ่งมีคุณสมบัติความเป็นด่าง คล้ายกับสระมรกตที่ จ.กระบี่
...
6. บ่อผุด 4 ชั้น ลดหลั่นสวยงาม
น้ำของบ่อผุดบ้านท่าช้างก็ใสแจ๋วไม่แพ้แห่งอื่นๆ เลย แต่ความโดดเด่นของที่นี่คือ จะมีบ่อ หรือชั้นลดหลั่นกันลงไป มีประมาณ 4 สระ หรือ 4 ชั้นเชื่อมต่อกัน มีการสร้างฝายกันน้ำ เป็นน้ำตกสามารถลงเล่นน้ำได้
ยกเว้นบริเวณที่เป็นตาน้ำจะไม่อนุญาตให้ลงเล่น โดยมีถนนทางเดินเล็กๆ เดินเข้าไป มีสะพานข้ามไปฝั่งตรงข้าม ทัศนียภาพรอบบ่อน้ำล้อมรอบไปด้วยต้นไม้เป็นร่มเงา เขียวขจี เหมาะสำหรับมาเที่ยวเล่นน้ำ พักผ่อน สดชื่นดีจริงๆ ขอบอก!
...
7. บ่อน้ำผุดป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด, จ.สุราษฎร์ธานี
ปิดท้ายกันที่บ่อน้ำผุดธรรมชาติแห่งที่ 3 ว่ากันว่าเป็นแหล่งน้ำจากใต้ดินที่ใสที่สุดในเมืองไทย นั่นคือ 'ป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด' เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่กำลังมาแรงมากๆ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 4 บ้านน้ำราด ต.บ้านทำเนียบ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ทุกคนก็จะได้พบกับต้นน้ำลำธารขนาดเล็ก น้ำใสมากถึงมากที่สุด
8. บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ใสราวกระจก
ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงามมาก โดยมี 'ตาน้ำ' เป็นหัวใจหลักของป่าต้นน้ำแห่งนี้ น้ำที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินนั้นไหลลอดใต้ภูเขา ผ่านออกมายังจุดที่เรียกว่าตาน้ำ ซึ่งเป็นน้ำที่ใสบริสุทธิ์และชาวบ้านก็เชื่อว่าเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีลักษณะเป็นน้ำจืดสีฟ้าอมเขียว ใสราวกับกระจก ลึกประมาณ 1 เมตร มีปลา ปู ตัวเล็กๆ อาศัยอยู่มากมาย
พื้นของบ่อน้ำจะเป็นพื้นทรายตะกอนหินปูน จึงทำให้น้ำไม่ขุ่น มีความใสอยู่ตลอด น้ำที่ผุดขึ้นมาจากใต้ดินก็จะไหลลงไปยังคลองมะเลาะ ไปสู่น้ำตกน้ำราดธารทอง แล้วจึงไหลไปยังพื้นที่ของหมู่บ้านบ้านน้ำราดและบ้านย่านยาว
9. เล่นน้ำใสๆ แถมมีเรือให้เช่า
ทางชุมชนบ้านน้ำราด ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเที่ยวชม และสามารถลงเล่นน้ำได้ โดยทำแนวกั้นแบ่งบ่อน้ำไว้เป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ห้ามลงเล่น เพราะเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านจะนำน้ำส่วนนี้ไปใช้ในการดื่มกินและประกอบพิธีกรรมสำคัญต่างๆ และอีกส่วนหนึ่ง กั้นขึ้นมาเพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นน้ำได้
นอกจากลงเล่นน้ำในบ่อผุดได้แล้ว ก็ยังมีบริการเรือให้เช่า นักท่องเที่ยวสามารถพายเล่นในลำคลองมะเลาะ เพื่อชมความสวยงามของป่าพุที่อุดมสมบูรณ์อีกด้วย โดยมีค่าบริการ 50 บาท/ชั่วโมง สามารถนั่งได้ 3 ท่าน
การเข้าไปเที่ยวชมป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมใดๆ แต่อยากให้นักท่องเที่ยวช่วยกันรักษากฎระเบียบในการเข้าชม เช่น ไม่ทิ้งขยะลงน้ำ ห้ามสิ่งผิดกฎหมาย ห้ามเครื่องดื่มมึนเมา เป็นต้น
10. การเดินทางไปบ่อน้ำผุด ทั้ง 3 แห่ง
น้ำออกฮู แม่แจ่ม : จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 108 (เส้นทางไปดอยอินทนนท์) ขับผ่าน อ.หางดง อ.สันป่าตอง อ.ดอยหล่อ และพอถึง อ.จอมทอง ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 1009 เลี้ยวขวาเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ขับมาถึงด่านตรวจที่ 2 ก่อนขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ ให้เลี้ยวซ้ายถนนหมายเลข 1192 ไปเรื่อยๆ เข้าสู่อำเภอแม่แจ่ม ระยะทางประมาณ 22 กิโลเมตร พอถึงที่ว่าการอำเภอแม่แจ่ม ก็เลี้ยวขวาไปถนน 1088 จากนั้นจะมีป้ายบอกไปน้ำตกออกฮู สังเกตทางขวามือ
บ่อน้ำผุดบ้านท่าช้าง เขาใหญ่ : จากแยกมิตรภาพ-ธนรัชต์ ผ่าน The Smoke House มุ่งหน้าไปทาง Palio, อช.เขาใหญ่ ขับไปประมาณ 15 กิโลเมตร ซ้ายมือจะมีป้ายน้ำพุธรรมชาติ (กม.ที่ 15) ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปในซอย แล้ววิ่งไปทางซ้าย ขับตรงไปประมาณ 600 เมตร จะเจอที่จอดรถน้ำผุด จอดฟรีไม่เสียเงิน
ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด สุราษฏร์ธานี : จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้ทางหลวงหมายเลข 401 มุ่งหน้าไปยัง อ.คีรีรัฐนิคม ระยะทางประมาณ 70 กม. เมื่อถึงสี่แยกไฟแดงคีรีรัฐนิคม ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ ต.บ้านทำเนียบ มุ่งหน้าไปยังบ้านน้ำราด ระยะทางประมาณ 10 กม. พอถึงบ้านน้ำราดจะมีป้ายบอกทางไปยังจุดเล่นน้ำบ่อน้ำผุดป่าต้นน้ำ แต่ต้องจอดรถก่อน แล้วเดินเท้าเข้าไปอีก ประมาณ 200 เมตร
ที่มา : topchiangmai, น้ำแม่ออกฮู, reviewkorat, gotokhaoyai, Bannamrad
วางแผนท่องเที่ยวเก๋ไก๋สไตล์ไทยก่อนใคร รับส่วนลด traveloka ไปเที่ยวพักผ่อนสบายใจและสบายกระเป๋า