กระแสยังคงฮิตไม่เลิก สำหรับออเจ้าทั้งหลายที่อินไปกับเรื่องราวของละครบุพเพสันนิวาส ต่างแห่มาเที่ยวตามรอยแม่หญิงการะเกดและพ่อเดชที่สถานที่สำคัญต่างๆ ในละคร ทั้งวัดไชยวัฒนาราม, ป้อมเพชร, เรือนเจ้าสามพระยา
โดยเฉพาะวัดไชยวัฒนาราม เรียกว่าออเจ้าแต่งชุดไทยมาเที่ยวจนล้นวัด ขนาดวันธรรมดายังมากัน 3,000-4,000 คน ยิ่งเป็นวันเสาร์-อาทิตย์นี่ไม่ต้องสืบ เจ้าหน้าที่บอกว่านักท่องเที่ยวแห่มาตามรอยแม่หญิงการะเกดกันหลักหมื่นคน
I TOUR ALONE กับฮัมมิ่งเบิร์ดสัปดาห์นี้ เราอดไม่ได้จริงๆ ต้องขอตามรอยแม่การะเกดไปพร้อมกับออเจ้าทั้งหลาย ก็ไม่อยากตกเทรนด์อะ อีกอย่างฮัมมิ่งเบิร์ดก็เป็นแฟนละครเรื่องนี้เหมือนกัน ถ้าพลาดไปเที่ยวตามรอยนี่ก็จะอายอยู่ไม่น้อยเลยเจ้าค่ะ
-1-
ช่วงสายของวันพุธที่ผ่านมา ฮัมมิ่งเบิร์ดพอจะมีเวลาว่าง เลยถือโอกาสไปเที่ยวอยุธยาตามรอยละครสุดฮอตอย่าง ‘บุพเพสันนิวาส’ แปลงร่างเป็นแม่การะเกดไปตามหาคุณพี่เดชกับเขาด้วยคน
...
ถ้าจะเอาสถานที่สุดฮิตเข้าว่า...ก็ต้องไปที่ ‘วัดไชยวัฒนาราม’ กันก่อนเลย เพราะที่นี่ถือเป็นโลเคชั่นหลักของละครเรื่องนี้ก็ว่าได้ เป็นวัดที่ผูกพันกับตัวละครเกศสุรางค์และการะเกด อยู่ตลอดหลายตอนที่ผ่านมา
ล่าสุด...ขออัพเดตให้ฟังหน่อยเหอะ! คนแห่ไปเที่ยวคึกคักกันจริงๆ ค่ะออเจ้า นี่ขนาดวันธรรมดากลางสัปดาห์นะเจ้าคะ OMG! มากันเยอะจนแทบจะไม่มีที่จอดรถ ต้องวนหาที่จอดกันนานพอสมควร นอกจากจอดที่ลานจอดรถใกล้วัดแล้ว ยังมีที่รับฝากรถอีกหลายจุดที่สามารถไปใช้บริการได้ แค่ 20 บาท
อีกหนึ่งธุรกิจที่เพิ่งจะเกิดขึ้นมาใหม่เพื่อตอบรับความต้องการของนักท่องเที่ยว นั่นคือ ร้านเช่าชุดไทย มาตั้งบูธให้เช่ากันหน้าวัดเลยจ้า ราคาเช่าชุดละ 250 บาท มีอยู่หลายเจ้าให้เลือก บางเจ้าเพิ่งจะตั้งร้านได้แค่ 3-4 วันก็มี
...
แม่ค้าร้านเช่าชุดไทยส่วนใหญ่บอกว่า เมื่อก่อนที่นี่ค่อนข้างเงียบ นักท่องเที่ยวไม่เยอะ แต่พอมีละครเรื่องนี้มาเท่านั้นแหละ เกิดกระแสเที่ยวตามรอยที่วัดไชยฯ จนตอนนี้คึกคักขึ้นมาทันตาเห็น เม็ดเงินแพร่สะพัดมากขึ้น เป็นโชคดีของชาวบ้านแถวนี้จริงๆ
-2-
สำหรับวัดไชยวัฒนาราม ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2173 โดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นบนที่ที่เป็นบ้านเดิมของพระองค์ เพื่ออุทิศพระราชกุศลถวายพระราชมารดา
...
อีกทั้งยังเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงศพพระบรมวงศานุวงศ์เกือบทุกพระองค์ รู้หรือไม่? เมื่อครั้งที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศสิ้นพระชนม์ก็ได้ถวายพระเพลิงที่วัดนี้เช่นกัน
มาพูดถึงความงดงามกันบ้าง วัดไชยวัฒนารามเป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมการก่อสร้างไม่เหมือนวัดอื่นๆ ในอยุธยา ว่ากันว่าวัดนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือเขมร จึงทำให้มีรูปแบบทางสถาปัตยกรรมส่วนหนึ่งมาจากปราสาทนครวัด รูปแบบของเขมร จุดเด่นเรื่องนี้ในละครบุพเพสันนิวาส เกศสุรางค์ก็พูดถึงอยู่บ่อยๆ
...
ถ้าไปเที่ยววัดนี้ มีอะไรให้ชมบ้าง? เราจะบอกว่าพื้นที่ใหญ่โตโอ่อ่ามากเจ้าค่ะ เดินชมได้เพลินมากๆ มีทั้งพระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ (ปรางค์ประธานของวัด) มีระเบียงคตประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ที่เคยลงรักปิดทองจำนวน 120 องค์ และมีเจดีย์รอบๆ พระปรางค์อีกหลายองค์ด้วยกัน
วัดไชยวัฒนาราม เปิดทุกวัน เวลา 08.00–18.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท
พิกัด : ตั้งอยู่ที่ ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งก็ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทางฝั่งตะวันตกของเกาะเมือง
-3-
อีกหนึ่งสถานที่ในละครที่เราว่าสวยและบรรยากาศดีมากๆ นั่นคือ 'ป้อมเพชร' เป็นป้อมปราการที่นางเอกในเรื่องพูดถึงเช่นกัน พอมาได้เห็นของจริง เฮ้ยแกร! มันอลังการกว่าที่คิด แถมตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา วิวมุมนี้สวยเริดไปอีก!
ป้อมเพชร เป็นป้อมปราการสำคัญแห่งยุคกรุงศรีอยุธยา ที่ยังเหลืออยู่จากเดิมที่มีอยู่ 29 ป้อม รูปทรงป้อมแบบหกเหลี่ยม ผนังก่อด้วยอิฐสลับด้วยศิลาแลง มีช่องเชิงเทินก่อเป็นรูปโค้ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของปืนใหญ่ประจำป้อม
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยารอยต่อแม่น้ำป่าสัก อยู่ตรงข้ามกับวัดพนัญเชิงวรมหาวิหาร และบริเวณนี้ยังเป็นท่าเรือสินค้าที่สำคัญในอดีตอีกด้วย
พิกัด : ถนนอู่ทอง ใกล้กับโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ต.กะมัง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
-4-
ปิดท้ายทริปนี้กับการเดินชมวัตถุโบราณและบ้านเรือนไทยที่ 'พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา' แหล่งรวบรวมโบราณวัตถุเก่าแก่สมัยอยุธยาไว้มากมาย ทั้งพระเก่าจากกรุ เครื่องทอง สำริด นาก และถ้วยชามเครื่องปั้นดินเผาสมัยอยุธยา
นอกจากนี้ ไฮไลต์ที่เราได้ไปเดินเที่ยวชมก็คือ หมู่อาคารเรือนไทย สร้างคร่อมอยู่บนสระน้ำ แสดงรูปแบบเรือนไทยภาคกลางโบราณ มีข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ของผู้คนในอดีต
ภายในเรือนไทยแห่งนี้จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนในเรื่องราวต่างๆ ครั้งนี้ที่เราได้ไปเที่ยว เราได้ชมนิทรรศการเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของในหลวง รัชกาลที่ 9 และอีกห้องก็จัดแสดงประวัติศาสตร์ไทยสมัยอดีต
ภายนอกเรือนไทยมีจุดให้นั่งพักผ่อนรับลมเย็นๆ หลายจุด แม้แดดจะแรงถึงแรงมาก แต่พอได้มานั่งพักรับลมที่นี่แล้ว คลายร้อนไปได้เยอะเชียว นี่แหละข้อดีของเรือนไทยโบราณ ออกแบบให้เข้ากับทิศทางลม ลมโกรกเข้าตัวเรือนได้ดี ไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนบ้านตึกบ้านปูน
ที่นี่เปิดให้เข้าชมวันพุธ-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 150 บาท
พิกัด : ถนนโรจนะ ตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา ตำบลประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
ทริปนี้...จะบอกว่าร้อนมาก แต่ก็สนุกและฟินมากเช่นกัน กับการตามรอยอดีตบรรพบุรุษไทยสมัยอยุธยา ถ้าออเจ้าอยากมา แนะนำให้มาวันธรรมดาแบบนี้แหละ คนจะได้ไม่แน่นมากเหมือนวันหยุดสุดสัปดาห์ ให้พอได้หายใจหายคอบ้างดีกว่านะเจ้าคะ...