นี่ๆ มีโรงแรมน่านอนมาบอกต่อ! โดยเฉพาะขาเที่ยวที่ชอบเที่ยวทะเลต้องฟินแน่ๆ แต่อาจจะต้องเก็บตังค์สักหน่อย เพราะทริปนี้เราจะชวนไปชิลต่างประเทศง่ายๆ แบบไม่ต้องทำวีซ่าให้ยุ่งยาก
ไทยรัฐออนไลน์ ชวนคุณไปเสาะหาที่พักสุดเริดในต่างประเทศ เอาไว้หลบหนีความวุ่นวาย ปลดปล่อยความเครียดจากการทำงาน พักผ่อนซึมซับบรรยากาศท้องทะเลสวยใส ผืนทรายนุ่มละเอียด เป็นรางวัลให้ตัวเองหน่อยดีกว่า
ที่สำคัญ ไม่ต้องเสียเวลาในการเตรียมเอกสารยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตอีกต่อไป
1. Santa Teresa Hotel RJ MGallery by Sofitel ริโอ เดอ จาเนโร บราซิล
ที่นี่มีโรงแรมหรูน่าพักซ่อนตัวอยู่ นั่นคือ Santa Teresa Hotel RJ MGallery by Sofitel ตั้งอยู่ในเมืองริโอ เดอ จาเนโร คุณจะได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมชาวบราซิลแบบเต็มอิ่ม เหมือนได้ย้อนกลับไปอยู่ใน ค.ศ. 1850 ด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบโดยศิลปินท้องถิ่นในบราซิล แนะนำบริการสปาเพื่อผ่อนคลาย หรือจิบค็อกเทลพร้อมชมวิวอ่าวกัวนาบาร่าในสระว่ายน้ำเอาต์ดอร์สุดหรู ก็ฟังดูน่าสนใจไม่แพ้กัน
ที่เที่ยวน่าสนใจ : เทศกาลคาร์นิวัล เทศกาลประจำปีสุดยิ่งใหญ่ของประเทศบราซิล สตรีทแดนซ์และการเฉลิมฉลองที่ครึกครื้น การเต้นแซมบ้า กีฬาฟุตบอล และวัฒนธรรมการกินบาร์บีคิว ศิลปะท้องถิ่นวิจิตรงดงาม ป่าฝนเขตร้อน ชายทะเล และน้ำตก
...
2. Belmond Hotel Monasterio คุสโก เปรู
รู้หรือไม่? ไปเปรูก็ไม่ต้องใช้วีซ่านะ! ถ้าคุณวางแผนไปเที่ยวที่นี่แนะนำโรงแรม The Belmond Hotel Monestario เขามีความสวยเก๋เฉพาะตัว โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ดัดแปลงมาจากสถาปัตยกรรมสมัยเก่า นำมารีโนเวตให้โมเดิร์นมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นห้องพักขนาดกะทัดรัด หรือรอยัลสวีต ทางโรงแรมก็มีข้อเสนอสุดพิเศษมอบให้ด้วย
ที่เที่ยวน่าสนใจ : เที่ยวในเมืองชมศิลปะวัฒนธรรม ดูงานศิลปะที่ใช้สีสันสดใส สตรีทฟู้ดแสนอร่อย มีมรดกทางวัฒนธรรมระดับโลกอย่าง ‘มาชูปิกชู’ อีกด้วย
3. Mont Rochelle Hotel & Vineyard เมืองฟรานโชก แอฟริกาใต้
ชอบดื่มไวน์มั้ย? ถ้าชอบเราแนะนำให้ไปพักผ่อนที่รีสอร์ต Mont Rochelle Hotel & Vineyard ในเมืองฟรานโชก ที่นี่เขามีอาณาจักรกว้างใหญ่ถึง 39 เฮกตาร์ ผู้เข้าพักสามารถเดินสำรวจขุมทรัพย์ภายในโรงกลั่นไวน์ชั้นเลิศ คุณจะได้ลิ้มรสอาหารและไวน์แสนอร่อย เพราะโรงแรมแห่งนี้ซ่อนความลับแห่งศิลปะการผลิตไวน์เอาไว้
ที่เที่ยวน่าสนใจ : เที่ยวแบบผจญภัย สัมผัสวิถีชีวิตสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในซาฟารีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้ชมสิงโต แรด เสือดาว และม้าลายที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติจริงๆ
...
4. Como Maalifushi มัลดีฟส์
อย่างที่รู้กันว่า เกาะมัลดีฟส์ มีระดับพื้นดินที่สูงที่สุดเพียง 2.4 เมตรจากระดับน้ำทะเลเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ จึงมีการคาดเดาว่า เกาะเล็กๆ แห่งนี้อาจจะจมหายไปในมหาสมุทรอินเดีย ดังนั้นก็ต้องรีบไปเที่ยวตอนนี้แหละ ก่อนที่มันจะไม่มีให้เที่ยว (ใครบางคนคิดอย่างนั้น) เอาล่ะ...ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ ถ้าอยากจะไปเที่ยวที่นี่ เราแนะนำโรงแรม Como Maalifushi ผู้เข้าพักจะได้เพลิดเพลินไปกับความงามที่แท้ทรูจากธรรมชาติ ชมปะการังหลากสีสัน เพียงแค่ยื่นหน้าออกมาจากวิลล่าส่วนตัว
ที่เที่ยวน่าสนใจ : เดินเล่นเลือกซื้อเครื่องประดับและเสื้อผ้าสไตล์ท้องถิ่น และชมพระอาทิตย์ตกในทะเลที่งดงามที่สุด มัลดีฟส์ เป็นสถานที่พักผ่อนที่เหมาะสำหรับการหลบหนีจากโลกภายนอกที่แสนวุ่นวาย ให้คุณได้ผ่อนคลายหลังจากการสำรวจธรรมชาติอย่างเต็มที่
...
5. The Likuliku Lagoon Resort เกาะมาโลโล ประเทศฟิจิ
ที่นี่เราแนะนำที่พักน่านอนอย่าง Likuliku Lagoon Resort ตั้งอยู่บนเกาะมาโลโล ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความงดงามดั่งสวรรค์บนดินของชาวฟิจิ เป็นดินแดนแห่งธรรมชาติ และยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวฟิจิ ตัวโรงแรมมีสระว่ายนำ้สวยๆ อาหารพื้นเมืองแสนอร่อย
ที่เที่ยวน่าสนใจ : เที่ยวชมภูมิทัศน์สวยงามแปลกตาได้โดยรอบ การดำน้ำสำรวจสิ่งมีชีวิตแปลกใหม่ แช่อ่างโคลนอันอุดมไปด้วยประโยชน์ด้านความงาม เที่ยวชมมรดกทางวัฒนธรรมอย่างวัดฮินดูที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้
...
ที่มา : Hotels.com