ยินดีกับ "Zozibini Tunzi" สาวงามจากแอฟริกาใต้ ที่คว้ามง Miss Universe 2019 ไปครองได้ในปีนี้
ไหนๆ ก็ได้นางงามจักรวาลเป็นคนแอฟริกาใต้ ก็เลยจะขอพาไปเที่ยว "แอฟริกาใต้" กันสักหน่อย
แอฟริกาใต้ มันมีอะไรให้เที่ยวนะ มันเป็นเมืองท่องเที่ยวจริงเหรอ ความคิดพรั่งพรูมากๆ เมื่อได้รู้ว่า ต้องไป "แอฟริกาใต้"
พอความคิดมันเตลิด การทำการบ้านก็ต้องมาแล้วมั้ย ทั้งการหาข้อมูลจาก กูเกิล ยูทูบ สารพัดทางที่คิดว่า จะทำให้มีข้อมูลเกี่ยวกับแอฟริกาใต้ติดตัวไว้บ้าง
ถึงวันเดินทาง นั่งเครื่องบิน 6 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ ไปรอต่อเครื่อง 2 ชม. เพื่อใช้เวลาบินอีก 8 ชม. ไปให้ถึงสนามบินโจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ นั่งเครื่องตูดด้านขนาดนี้ ถ้าไม่สวยจริง นี่เคืองมากๆ นะ
แต่ แต่ แต่ ... จุดหมายของเรา ไม่ได้อยู่ที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ที่หลายๆ คนรู้จัก ว่าเป็นที่ตั้งของ จัตุรัส "เนลสัน แมนเดลา" นักเคลื่อนไหวที่ต่อต้านการแบ่งแยกและอดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ แต่หากเป็นอุทยานแห่งชาติครูเกอร์ (Kruger National Park) ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของแอฟริกาใต้ ที่นี่ถือเป็นซาฟารีที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ โดยชื่ออุทยานฯ มีการตั้งเพื่อเป็นเกียรติแก่ "พอล ครูเกอร์" ประธานาธิบดีคนที่ 5 ของแอฟริกาใต้ และเป็นประธานาธิบดีคนแรก หลังจากที่แอฟริกาใต้ พ้นจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ ซึ่งทางเข้าอุทยานฯ จะมีรูปปั้นของ "พอล ครูเกอร์" ตั้งตระหง่านอยู่

...
ซึ่งการเดินทางต่อไปยัง อุทยานแห่งชาติครูเกอร์ ต้องนั่งเครื่องไปอีกประมาณ 45 นาที เพื่อไปลงที่สนามบินเนลสไปร์ต ครูเกอร์ พูมม่าลักกา ที่เมืองเนลสไปร์ต ก่อนจะต่อรถไปยังเขตอุทยานฯ อีกประมาณ 100 กิโลเมตร
แม่เจ้าโว้ยยยยย กว่าจะถึง ... ไม่ได้มากันง่ายๆ จริงๆ
แล้วฉันมาทำอะไร อยากจะหัวเราะ มาส่องสัตว์ไงตัวเธอว์
มาไกลขนาดนี้เพื่ออิหยังวะ ซาฟารีบ้านเราเยอะแยะ สัตว์นานาชนิด อยากถ่ายรูปใกล้ๆ ก็แค่เอาอาหารล่อ ทำไมอิฉันต้องถ่อสังขารมาขนาดนี้ด้วย
เดี๋ยวมีคำตอบให้ว่าทำไม ...
พักผ่อนเต็มที่แล้ว วันต่อมา เรามีนัดกันตั้งแต่เช้าตรู่ นัดเจอกันตั้งแต่ 05.30 น. ซึ่งที่แอฟริกาใต้นี้ ฟ้าสว่างเร็วมาก 6 โมงนิดๆ แดดนี่เปรี้ยงอย่างกับ 9 โมงเช้า แต่ดีหน่อยที่ยังมีลมเย็นๆ มาปะทะร่างกายบ้าง ไม่งั้นเคืองแย่ แต่ดีใจได้ไม่เท่าไหร่ อุณหภูมิความร้อนทวีมากขึ้นเรื่อยๆ ไกด์บอก ร้อนสุดที่นี่ วันนี้น่าจะ 42 องศาฯ ยอมแล้วพ่อเอ๊ย เหมือนซ้อมตกนรกดีๆนี่เอง และเตือนไว้ก่อน ใครจะไปส่องสัตว์ เตรียมอุปกรณ์กันแดด กันฝุ่นให้พร้อม เพราะทางมีทั้งถนนเรียบๆ ไปจนถึงถนนบนดาวอังคาร ที่เต็มไปด้วยฝุ่น

ที่อุทยานแห่งชาติครูเกอร์นี้ นักท่องเที่ยวสามารถขับรถขับไปส่องสัตว์แบบใกล้ชิดด้วยตัวเอง หรือใครไม่มีรถ สามารถติดต่อทางที่พัก ซึ่งส่วนมากก็จะมีบริการพาไปส่องสัตว์อยู่แล้ว ซึ่งกิจกรรมนี้ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "Game Drive" โดยจะมีนายพราน ทำหน้าที่เป็นทั้งไกด์ และคนขับรถแบบเปิดโล่ง พาเราตระเวนไปยังเส้นทางในอุทยานฯ เพื่อตามหา Big Five หรือ 5 พี่ใหญ่ แห่ง Kruger National Park ซึ่งเราจะเห็นสัตว์ป่าแบบใกล้ชิด แบบธรรมชาติจริงๆ
แล้วที่นี่แม้จะถูกนักท่องเที่ยวเรียกว่า ซาฟารี แต่นักท่องเที่ยวไม่สามารถ พกอาหารเข้าไปล่อเสือ ล่อยีราฟ เพื่อถ่ายรูปได้นะจ๊ะ โดยไกด์จะบอกกฎ การส่องสัตว์ของที่นี่ ต้องอยู่ในความสงบ ไม่ยื่นมือออกไปนอกรถ และไม่นำอาหารไปล่อสัตว์ด้วย
แล้วทำไม เราจะต้องตื่นแต่ไก่โห่ขนาดนี้ ไปดูสัตว์ด้วย
ก็เพราะพี่ใหญ่เหล่านี้ จะออกหากินกลางคืน แล้วจะเดินกลับถิ่นในช่วงเช้า ดังนั้น หากเราไปหาพี่เค้าบ่ายๆ เราอาจไม่เจอพี่ๆ Big Five อาจจะได้เจอกับสัตว์อื่นๆ แทน แล้วพี่ใหญ่เหล่านี้ มีใครบ้าง

...
อันดับแรกที่เราเจอ คือ ควายป่า (Buffalo) ควาย ที่มีเขาคล้ายผมทรงโบราณบ้านเรา ลักษณะที่เราเห็น มันดูไม่ดุร้าย แต่อย่าได้ประมาท เพราะก่อนหน้านี้ เคยมีข่าวว่า แม่ควายป่าที่อุทยานฯ แห่งนี้ ต่อสู้กับฝูงสิงโต 14 ตัวอย่างดุเดือด เนื่องจากสิงโตมารุมฆ่าลูกของมัน และพยายามจะกินเนื้อ ด้วยพลังของแม่ แน่นอนว่า มันไล่ฝูงสิงโตได้สำเร็จด้วย
ต่อมาเป็นนักล่า อย่างเสือ (Leopard) บอกตรงๆ ว่าเห็นไกลมาก แวบแรกคือตื่นเต้นสุด เหมือนลุ้นว่า มันจะเข้ามาใกล้เรามากกว่านี้อีกมั้ย แต่อีกใจก็คิด มันเข้ามาใกล้เรา แล้วมันจะกินเรามั้ย ซึ่งไกด์บอกว่า เราโชคดีพอสมควร ที่มาครั้งแรก ก็ได้เจอเสือเลย เพราะคนท้องถิ่นเอง ที่เข้ามาส่องสัตว์บ่อยๆ ก็ยังไม่ค่อยได้เจอ

พี่ใหญ่ต่อมาที่เราเจอคือ ช้าง (Elephant) ซึ่งช้างแอฟริกานี้ มีลักษณะเฉพาะที่ต่างจากช้างบ้านเรา คือ หูของช้าง เค้าบอกว่า หูช้างที่นี่ ลักษณะขะเหมือนแอฟริกาใต้ เคลมกันไปเลย แต่ก็เหมือนจริงๆ แหละ
...
ไปอีกไม่นานนัก ไกด์ประจำรถอย่าง เซนโซ เบรกรถเอี๊ยด เพราะสายตาพลันเหลือบไปเห็น แรด (Rhino) จ้า แรดจริงๆ ไม่ใช่อิฉันแต่อย่างใด มันซ่อนตัวในน้ำ และเพราะเราไม่สามารถลงจากรถได้ เราก็ได้แต่มองดูมันในบ่อน้ำอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ดังนั้น ใครอยากใกล้สัตว์ป่ามากกว่านี้ อาจจะต้องเตรียมกล้องส่องทางไกลติดตัวไปสักหน่อย
แต่เสียดายที่เราไม่สามารถเห็น Big Five ได้ครบทั้ง 5 ตัว เพราะเราไม่เห็นแม้แต่เงาของสิงโต (Lion) แต่ไม่เป็นไร เพราะเราได้เห็นสัตว์อื่นแทน ทั้งยีราฟ ม้าลาย ลิงบาบู อิมพาลา (Impala) สัตว์ตระกูลเดียวกับแพะ แกะ แต่รูปร่างที่เห็นคล้ายกวาง อยู่รวมตัวกันเป็นฝูง และสัตว์แปลกๆ อีกนานาชนิด ทั้งตัวเล็ก ตัวใหญ่

...
ซึ่งตอนที่เจอสัตว์เหล่านี้บอกเลยว่า ตื่นเต้นมาก สายตาที่จ้องมา เดาไม่ออกเลยว่า จะวิ่งเข้าใส่ หรือจะปล่อยมนุษย์พวกนี้ไปดี แต่สุดท้ายก็รอดมาได้ อยู่กันครบทุกคน มันเลยเป็นเสน่ห์อย่างนึง ของการทำกิจกรรม Game Drive ที่อุทยานครูเกอร์แห่งนี้
ยังนะ เสน่ห์ของแอฟริกาใต้ ไม่ได้มีแค่การส่องสัตว์แบบใกล้ชิดที่ทุ่งหญ้าสะวันนา ตอนหน้าจะพาไปเที่ยวต่อที่ Cape Town เมืองตากอากาศเล็กๆ ที่สวยติดอันดับโลก นักท่องเที่ยวยกให้เป็นเมืองที่ต้องมาก่อนตาย
โว๊ะ.. อะไรจะขนาดนั้น
อยากรู้ว่าควรค่าแก่การไปหรือไม่ ต้องติดตาม.






