ปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับฟุตบอลโลก 2018 โดยแชมป์ตกเป็นของ "ทีมชาติฝรั่งเศส"
หากพูดถึงประเทศฝรั่งเศส นอกจากจะนึกถึงแฟชั่น น้ำหอม และความวินเทจแล้ว ที่นี่ยังเป็นประเทศที่แสนจะโรแมนติก อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะและความรัก จึงไม่แปลกที่คู่รักหลายคู่จะเดินทางมาเยี่ยมเยียนประเทศนี้ พร้อมมุ่งหน้าไปยังหอไอเฟลเพื่อให้คำมั่นสัญญาในความรักระหว่างกันและกัน
เพื่อเฉลิมฉลองร่วมกับประเทศฝรั่งเศสที่ได้แชมป์ วันนี้ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จะขอมานำเสนอ 5 สถานที่เที่ยวในประเทศฝรั่งเศสที่คุณไม่ควรพลาด เริ่มต้นกันที่
1. หอไอเฟล (Tour Eiffel)
...
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนไม่ควรพลาดหากมาปารีส เพราะที่นี่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส ออกแบบโดย Alexandre Gustave Eiffel เพื่อเปิดงาน World’s Fair ของปี 1889 จนกลายเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีความสูงมากที่สุดในประเทศ ที่สำคัญคือ...คู่รักหลายคู่มักจะเลือกที่นี่เป็นสถานที่บอกรัก ขอแต่งงาน หรือถ่ายรูปพรีเวดดิ้งอีกด้วย
2. พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Musée du Louvre)
ภาพเขียนชื่อก้องโลกอย่าง โมนาลิซา จากปลายพู่กันของเลโอนาร์โด ดา วินซี ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ในสมัยก่อน ลูฟร์ เคยเป็นพระราชวังของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 จากนั้นพระองค์ทรงย้ายไปประทับที่พระราชวังแวร์ซายส์ ปัจจุบัน ลูฟร์ถูกจัดให้เป็นสถานที่จัดแสดงและเก็บรักษาผลงานทางศิลปะที่ทรงคุณค่าระดับโลก
3. โรงละครปาเลส์การ์นิเย่ (Palais Garnier)
...
โรงละครเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใจกลางมหานครปารีส เป็นโรงละครโอเปร่าแห่งชาติที่สามารถจุคนได้กว่า 2,000 คน ภายในโรงละครออกแบบได้อย่างสวยงามและวิจิตรตระการตาเป็นอย่างมาก จนได้รับสมญานามว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของยุค
...
4. ดิสนีย์แลนด์ ปารีส(Disneyland Paris)
สถานที่แห่งความทรงจำ เป็นศูนย์รวมจินตนาการที่สุดแสนจะวิเศษโลกแห่งเทพนิยาย ที่คุณจะตกหลุมรักซ้ำๆ ตั้งแต่ก้าวผ่านประตูเข้ามา ดิสนีย์แลนด์ ปารีส ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองปารีสประมาณ 30 กิโลเมตร ภายในแบ่งเป็น 2 โซน ได้แก่ โซน Disney Studio ที่ภายในตกแต่งราวกับคุณกำลังอยู่ในเทพนิยายของดิสนีย์ และโซนสวนสนุก Disneyland Park
...
5. พระราชวังแวร์ซาย (Versailles Palace)
สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศฝรั่งเศส เดิมทีเป็นที่พักอาศัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ปัจจุบันพระราชวังแวร์ซายได้รับจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลก ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 3 เมื่อปี พ.ศ.2522 หรือเป็นมรดกโลกมาถึง 39 ปีแล้ว ด้วยว่ามีความงามเป็นเลิศทางศิลปะยุคศตวรรษที่ 18 อีกทั้งเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคปัจจุบันอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม หากใครได้ไปเยือนฝรั่งเศส อาจเพียงแค่ไม่กี่วันก็ตาม แต่มนต์เสน่ห์แห่งประเทศนี้จะยังคงอยู่ในหัวใจของคุณไปชั่วนิรันดร์.