“ญี่ปุ่นไปกี่รอบก็ประทับใจ ประโยคนี้มีอยู่จริง” เรียกได้ว่าเป็นความประทับใจไม่รู้ลืม สำหรับการไปเยือนประเทศญี่ปุ่น ครั้งนี้เราได้มีโอกาสไปร่วมทริปในโครงการ “ลดเมืองร้อน ด้วยมือเรา ปีที่ 13 ภายใต้โครงการโตโยต้าเมืองสีเขียว” ซึ่งได้จัดทัศนศึกษาต่อยอดองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นเพื่อพาคณะครู เยาวชน ตัวแทนชุมชน ที่มีผลงานดีเด่น จากการรณรงค์การลดภาวะโลกร้อน 

...

กิจกรรมนี้เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เปิดโลกให้กับเราเลยก็ว่าได้ทั้งในเรื่องธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ในเรื่องด้านการจัดการต่างๆ ที่สามารถนำมาขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นเมืองสีเขียวได้ และวันนี้ ไลฟ์ไตล์ไทยรัฐ ขอเลือกหนึ่งสถานที่ในทริปนี้พาทุกคนไปเทียวกันที่ เมืองมรดกโลก ชิราคาวาโก (Shirakawa-go)

เมืองที่ทุกคนต้องไปเยือน

เราเชื่อว่าสถานที่แห่งนี้เป็นอีกหนึ่งเมืองที่ทุกคนต้องไปเยือนอย่างแน่นอน เรามักเห็นภาพสวยๆ ได้อยู่บ่อยครั้งในช่วงที่หิมะปกคลุมหนาแน่นไปทั่วหลังคา หมู่บ้านชิราคาวาโก แค่เห็นในรูปก็งดงามจนเราใฝ่ฝันว่าสักครั้งหนึ่งต้องมีโอกาสได้มาเยือนหมู่บ้านแห่งนี้ ซึ่งทริปจากโตโยต้าได้สานฝันให้กับเราแล้ว

รักแรกพบ 'จุดชมวิว'

วินาทีแรกที่รถคณะทัวร์ของเรามาถึงที่นี่เราเดินไปยังจุดชมวิวด้านบน ซึ่งมองลงไปแล้วเห็นเรือนหลังคามุงหญ้าที่มีความลาดชันในแบบฉบับสถาปัตยกรรมกัชโช (Gassho) โบราณของญี่ปุ่น ทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ชาวญี่ปุ่นมาร์กจุดให้เราได้ถ่ายรูป พร้อมทั้งสร้างรอยยิ้มและความประทับใจให้กับเราได้ไม่น้อย เพราะเจ้าหน้าที่หนุ่มชักชวนให้เราถ่ายรูปเป็นภาษาไทย

งดงามแบบดั้งเดิมหนึ่งในเมืองมรดกโลก 

หลังจากชมวิวจากมุมสูงแล้วก็พร้อมที่จะเดินเที่ยวเล่นซึมซับบรรยากาศของที่นี่สักที เราเดินข้ามสะพานที่ทอดยาวเพื่อข้ามแม่น้ำ ไปยังหมู่บ้านมรดกโลก หมู่บ้านชิราคาวาโก งดงามที่สุดในประเทศทางตะวันออกเหนือสุดของเขตปกครองจังหวัดกิฟุ (Gifu) หมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นถิ่นพำนักของกลุ่มชนชาวไฮคิ ที่อพยพจากเกียวโตมา หมู่บ้านชิราคาวาโก ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยยูเนสโกเมื่อปี คศ.1995 หมู่บ้านแห่งนี้เป็นแบบญี่ปุ่นแท้ดั้งเดิม เต็มไปด้วยบรรยากาศของหมู่บ้านชาวนาเก่าแก่ เรียกได้ว่าถ้าใครอยากเห้นความดั้งเดิมของญี่ปุ่นต้องมาที่แห่งนี้เลย บางหลังมีอายุยาวนานกว่า 250 ปี ที่สำคัยหมู่บ้านแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวเพราะบางหลังบังมีชาวบ้านอาศัยอยู่จริง

...

เที่ยวฤดูไหนก็สวย

และถึงแม้ช่วงที่เราไปนั้นจะไม่ใช่ช่วงฮิตของนักท่องเที่ยว ฤดูหนาวหิมะขาวโพลน แต่ก็เป็นอีกหนึ่งช่วงที่งดงามไม่แพ้กัน อากาศกำลังดีไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป เดินชมหมู่บ้านสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติแดดอุ่นๆ มีลมปะทะกับหน้าให้เราได้ชื่นใจ ไกด์บอกกับเราว่า ช่วงที่เราไป (เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม) เป็นช่วงที่คนญี่ปุ่นออกมาเที่ยวกันเยอะ เพราะเดินได้สบายๆ ไม่หนาวมานัก แต่ช่วงที่พีคที่สุดนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกันนั่นก็คือช่วงหน้าหนาว (เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์) หรือถ้าใครจะมาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน (เดือนมิถุนายนถึงสิงหาคม) ก็สามารถเดินได้อย่างสบายๆ สรุปแล้วจะเยือน หมู่บ้านชาวนา ‘ชิราคาวาโก’ ฤดูไหนก็ความประทับใจก็มีเหมือนกัน

...

โรงเรียนธรรมชาติ สถาบันสิ่งแวดล้อมโตโยต้าชิราคาวาโก (Toyota Shirakawa-go Institute) 

นอกจากเราจะไปชมความงดงามของหมู่บ้านชิราคาวาโกแล้ว เรายังมีโอกาสได้ไปทำกิจกรรมและค้างคืนกันที่สถาบันสิ่งแวดล้อมโตโยต้าชิราคาวาโก ซึ่งเป็นสถานที่ที่ได้รับขนานนามจากแรงบันดาลใจที่ได้รับจากชื่อหมู่บ้าน เป็นโรงเรียนเพื่อศึกษาถึงธรรมชาติอันงดงาม เราได้ฟังบรรยายถึงิจกรรมต่างๆ ของสถาบันแห่งนี้ ทั้งยังได้เรียนรู้ธรรมชาติของป่าแห่งนี้ไปพร้อมๆ กับ เยาวชน ตัวแทนชุมชน ที่ได้มาทัศนศึกษาในครั้งนี้ เราได้ฟังบรรยาย ทั้งยังได้เดินป่าโดยมีผู้เชี่ยวชาญเป็นคนนำทาง ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราประทับใจ เพราะมีโอกาสน้อยนักที่เราจะได้เดินป่าในญี่ปุ่น เรียนรู้ประสบการณ์ในการปลูกต้นไม้ ปลูกป่า ทั้งเรียนรู้โปรแกรมผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานน้ำ เดินสำรวจป่าในกลางคืน กระตุ้นให้เกิดจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งทั้งหมดที่เราได้ร่วมถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่ากับเรามากที่อยากให้หลายคนได้มากัน 

.