ถ้าผมกับ 'ฮ่องกง' เป็นแฟนกัน ระยะเวลาเท่านี้เราคงอยู่ในช่วงโรแมนติกมากๆ 

5 ครั้ง คือตัวเลขที่ผมเดินทางมาที่นี่ แต่เชื่อไหม ผมพุ่งชนกับความประทับใจสม่ำเสมอทุกครั้งที่มา คราวนี้เช่นกันนะออเจ้า ที่จริงก่อนตรุษจีนเราเคยคุยกันหลายครั้งหลายคราว ทว่าคลาดไปหลายหน แล้วก็ถึงเวลาบุพเพสันนิวาสเข้าจนได้ เมื่อ อ.คฑา ชินบัญชร ซินแสชื่อดัง และคุณหน่อย เดอะมอลล์ เดินทางมาชวนผมอีกครั้ง ไปร่วมกับทริป M Card ไหว้พระสุดเอ็กซ์คลูซีฟ แก้ชง (ปีมะโรง ปีจอ ปีฉลู และปีมะแม) เสริมบารมีรับ ปีจอ และเสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิต 

คิวเวลา ดวงผมกำลังดีมาก มีหรือผมจะพลาด นอกจากเรื่องไหว้พระที่ว่า มีอีกหลายวัดที่ผมยังไม่เคยไป อยากไปอัพเดตไลฟ์สไตล์ แฟชั่น (สนีกเกอร์) อาหารการกินใหม่ๆ ร้านฮิตใหม่ของคนที่นั่นด้วย  

ยิ่งมีชื่อ 2 คนนี้การันตี ทริปนี้ต้องมีเรื่องดีๆ แน่นอน คนแรกกูรูพิธี เรื่องการไหว้พระ เขาน่าจะเป็นหมอดูอีกคนหนึ่งที่นำทัวร์ไหว้พระไปฮ่องกงมากที่สุดในรอบหลายปีมานี่ อีกคนการันตีความเอ็กซ์คลูซีฟ พี่แหม่ม วรลักษณ์ ตุลากรณ์ ผู้บริหารสุดเก่งแห่งเดอะมอลล์กรุ๊ปเดินทางไปขอบคุณลูกค้าด้วย ซึ่งพิเศษมาก

...

 โจ๋วสั่น ฮ่องกง - โลกใบกลม 

จู๋ สั่น หรือโจ๋ สั่น หรือโจ๋วสั่น (แล้วแต่ออกเสียง) ภาษาจีนกวางตุ้ง แปลเป็นภาษาสากลว่า Good Morning 'สวัสดีฮ่องกง' ผมชอบพูดคำนี้ในใจ ทันทีที่ตัวสัมผัสอากาศระหว่างเดินออกจากเครื่องสู่ภายในตัวสนามบินเช็กแล็บก็อก (Chek Lap Kok Airport) มาคราวนี้แม้อากาศจะผ่านช่วงเวลาหนาวเย็นไปแล้ว แต่ก็ยังพอมีเค้าลางลมเย็นๆ มาชนร่างบ้างประปราย จริงๆ ถ้ามาฮ่องกงผมแนะนำให้มาช่วงปลายปีจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ จะเป็นช่วงเวลาที่อากาศดีที่สุด

ที่นี่มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า เขตบริหารพิเศษ ฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นเขตปกครองตนเองริมฝั่งทางใต้ของประเทศจีน ในทางภูมิศาสตร์มีสามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียงและทะเลจีนใต้โอบรอบ

ปัจจุบันฮ่องกงเป็นที่รู้จักในสกายไลน์ (skyline) ขยาย และท่าเรือธรรมชาติลึก มีเนื้อที่ไม่ใหญ่มาก และจำนวนประชากรกว่าเจ็ดล้านคน เป็นเขตที่มีประชากรอยู่อาศัยหนาแน่นสุดเขตหนึ่งในโลก ฮ่องกงคือ 3-4 ประเทศสำหรับนักเดินทางไปต่างประเทศหน้าใหม่ เพราะใช้เวลาไม่มาก (3 ชม.) แถมค่าเงินไม่แพงมาก (ราว 3.99 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อ 1 บาทไทย) เหมาะกับการกินเที่ยวช็อป เพราะเป็นเกาะที่ปลอดภาษี

โลกกลมผมบอกเขาเพราะเราเจอ อ.คฑา มารับที่สนามบิน เพราะเขาเดินทางไปพาอีกทริปไหว้พระก่อน (แน่นอนกลับหลังเราเพราะมีอีกทริปพาไหว้พระรอเขาอยู่) ขึ้นรถบัสวีไอพีเสร็จสรรพ ความสนุกก็เร่ิมขึ้น จะว่าไปการขับรถที่ฮ่องกงถือว่าน่าเสียวไส้มากกว่าประเทศอื่นๆที่ไปมา เพราะสไตล์ที่นี่คือ ขับจี้ ด้วยความเร็ว แถมไม่เตะเบรก แต่ผิดฟอร์มเล็กๆ คนขับรถคนนี้ไม่ซิ่งมาก ดังนั้นลำไส้ที่พวกเราตระเตรียมมาเกร็งไว้เสียวจึงไม่ต้องใช้มาก 

...

วัดเจ้าแม่กวนอิม (Hung Hom Kwun Yum Temple)

หลังจากปูพื้นเรื่องดวงปีชง (อ่านเพิ่ม : เอาชนะปีแรง! เปิดดวงปีชง 2561) เรื่องวัฒนธรรมของที่นี่ จากหมอดูชื่อดังแล้วก็ถึงจุดหมาย วันนี้ผมเคยมาทำพิธียืมเงินองค์กวนอิมเมื่อปีที่แล้ว ที่นี่เป็นวัดเก่าแก่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1873 เป็นหนึ่งในวัดที่ชาวฮ่องกงเลื่อมใสศรัทธา

"องค์เจ้าแม่กวนอิม ถือเป็นเทพเจ้าแห่งความเมตตา เมื่อใครมีทุกข์ร้อนก็จะนิยมมากราบไหว้ขอพรให้เจ้าแม่กวนอิมช่วยเหลือ วัดเจ้าแม่กวนอิมขึ้นชื่อในเรื่องของการเสี่ยงเซียมซีที่มีความแม่นยำ ผู้คนส่วนใหญ่ที่มาสักการะมาร่วมพิธีขอซองอั่งเปา เพื่อเสริมโชคลาภและสิริมงคล"

ตามความเชื่อของชาวฮ่องกง องค์เจ้าแม่กวนอิมแห่งฮุงฮอมช่วยพลิกฟืนคืนชีวิต พลิกเศรษฐกิจ จากร้ายให้กลายเป็นดี จึงได้เกิดประเพณียืมเงินเจ้าแม่ เพื่อนำมาเป็นทุนสำหรับทำธุรกิจ หลังจากประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรืองแล้วก็จะนำเงินกลับมาคืน ส่งผลให้มีนักธุรกิจทั้งในฮ่องกงและจากทั่วโลกมาสักการะขอพร

...

"ผมพาดารานักธุรกิจมาไหว้หลายคน แล้วก็สมหวังด้วยกันทั้งสิ้น" ซินแสดังกล่าว

วิธีไหว้ : เด่นเรื่องขอเงิน โชคลาภ เคล็ดลับสำคัญคร่าวๆ นอกจากไหว้ฟ้าดิน 4 ทิศด้านหน้าวัดแล้ว ก็นำธูปที่ซื้อมาไปปักตามกระถางตามจุดต่างๆ แล้วนำฮู้ที่พับเป็นเงินจีนไหว้เก็บกลับบ้านเป็นมงคล พร้อมเขียนขอยืมเงินให้ถูกต้อง กำหนดจำนวนเงินที่ต้องการ บางท่านนำฮู้ใส่กระเป๋าแล้วนำกระเป๋ามาเวียนธูป 3 รอบ เพื่อความเป็นมงคล 

...

'ถามเคล็ดลับการไหว้ของผม ก็คือเอาที่สบายๆ ไม่ซีเรียสว่าจุดนั้นจุดนี้เกร็งจนเกินไป เคล็ดผมคือให้ใจเย็นๆ ตั้งใจอธิษฐานก็เพียงพอ' ซินแสบอกผมถึงคนที่เกร็งกลัวจะไหว้ขอพรไม่ถูกต้อง

วัดแชกงหมิว หรือ วัดกังหันลม 

รถพาเรามาที่วัดแชกงหมิว หรือ วัดกังหันลม (Che Kung Temple) ผมเคยมาที่นี่หลายครั้ง และทุกครั้งก็มีความเปลี่ยนแปลงเสมอๆ เปลี่ยนแปลงในแง่คนมามากขึ้น สิ่งอำนวยความสะดวกก็พัฒนาขึ้น ทางเดิน หรือข้างทาง ที่เคยก่อสร้างก็ทำเสร็จเกือบจะเรียบร้อยแล้ว 

วัดแห่งนี้ เป็นวัดหนึ่งที่ประชาชนชาวจีนให้ความเลื่อมใสศรัทธามาเนิ่นนานสร้างขี้น เพื่อระลึกถึงตำนาน แห่งนักรบราชวงศ์ซ่งในสมัยที่จีนยังไม่ได้รวมประเทศเป็นปึกแผ่นเฉกเช่นปัจจุบัน

ประวัติเล่าต่อกันมาว่านักรบเอกชื่อ “แชกง” แม่ทัพปราบศึกทั่วทุกแคว้นแผ่นดินใหญ่ แผ่อำนาจมายังแคว้นอื่นๆ ทุกครั้งที่ออกรบจะใช้สัญลักษณ์รูปกังหัน 4 ใบ พัดติดไว้ด้านหน้ารถศึกนำขบวนในกองทัพ เหล่าทหารกล้ามีความเชื่อว่าเมื่อพกพาสัญลักษณ์รูปกังหันนี้ไปที่ใดๆ กังหันนี้จะะช่วยเสริมสิริมงคล นำพาแต่ความโชคดี ปัดเป่าเคราะห์ ปกป้องกองทัพจากศัตรู มีอำนาจ เข้มแข็งเสริมกำลังใจให้แก่กองทัพทำให้เกียรติประวัติในการนำทัพสู้ศึกของท่าน จวบจนกลายมาเป็นตำนานให้จดจำมาจนถึงปัจจุบัน

ที่จริงมีวัดต้นตำรับของวัดกังหัน คือ วัดแชกงหมิว หรือ วัดกังหันลม แต่เดินทางไกลออกไปนอกเมือง วัดนี้ผมเคยไปอาจจะลำบากแต่ก็ขลังไม่แพ้กัน 

วิธีไหว้ : จุดเด่น ปัดเป่าเคราะห์ ปกป้องดวงชะตา เสริมสิริมงคล เมื่อเข้าไปในศาลและยืนอยู่เบื้องหน้ารูปปั้นขนาดมหึมาของท่านแชกงแล้ว ต้องอธิษฐานขอพรและมองหน้าท่าน อย่างมุ่งมั่น จากนั้นจึงไปทำพิธี "หมุนกังหันแห่งโชคชะตา" โดยหลักการที่ถูกบอกต่อ คือ "มือซ้ายหมุนด้านซ้ายไปขวา ถ้าชีวิตในปีที่ผ่านมาไม่ดี ส่วนถ้าดี อยู่แล้วก็ให้หมุนกังหันกลับจากขวาไปซ้าย (หรือหมุนเอาที่สบายใจ) เสร็จแล้วเดินไปลั่นกลองที่อยู่ด้านหลังเพื่อเป็นการบอกกล่าวกับเทพเจ้าว่ามีคนมาเคารพบูชา การลั่นกลองเป็นธรรมเนียมรับต่อมาจากนักรบ ที่จะลั่นกลองรบเมื่อประสบชัยชนะหลังออกศึกนั่นเอง 

'ถามเคล็ดลับการไหว้ของผม ก็คือเอาที่สบายๆ ไม่ซีเรียสว่าจุดนั่นจุดนี่เกร็งจนเกินไป เคล็ดผมคือให้ใจเย็นๆ ตั้งใจอธิษฐานก็เพียงพอ

วัดกวนไท (Kuan Tai Temple) 

มาถึงวัดที่ 3 นึกในใจอยู่นานว่าเคยมาหรือไม่เคย ถ้าไม่เคยมาทำไมวัดนี่ช่างดูคุ้นเคย กวนไท (Kuan Tai Temple) หรือที่คนไทยนิยมเรียกว่า วัดเทพเจ้ากวนอู สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้ากวนอู ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม จึงเป็นที่ชื่นชอบได้รับการเคารพในฐานะเทพอุปถัมภ์และเทพผู้ปกครองของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ตำรวจ นักการเมือง และนักธุรกิจที่นิยมมากราบไหว้บูชา เพราะเชื่อว่าสามารถปกป้องสิ่งชั่วร้ายต่างๆ และช่วยเสริมอำนาจบารมีในการปกครองและคุ้มครองบริวาร

ผมชอบวัดนี้ หลังจากไหว้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าเคยมาจริงๆ หรือเปล่า แต่เป็นอีกหนึ่งวัดที่ร่มรื่น แม้จะปิดบางส่วนปรับปรุง แต่บรรยากาศฮวงจุ้ยที่ดีทำให้มีความร่มเย็น ผมอธิษฐานเพราะเชื่อว่าสามารถปกป้องสิ่งชั่วร้ายต่างๆ และช่วยเสริม อำนาจบารมีในการปกครองและคุ้มครองบริวารให้ก้าวหน้าและอยู่เย็นเป็นสุข

วิธีการไหว้ : จุดเด่นเสริมอำนาจบารมี คุ้มครองบริวาร สำหรับการไหว้ที่ถูกต้องคงไม่ต้องบอกว่าต้องทำอย่างไร เพราะ อ.คฑา ย้ำคำแม้จะเป็นวัดที่ 3 แล้ว ว่าเอาที่สบายๆ ไม่ซีเรียสว่าจุดนั่นจุดนี่เกร็งจนเกินไป ให้ใจเย็นๆ ตั้งใจอธิษฐานก็เพียงพอ

วันที่ 2  Lady M - วัดเจ้าแม่ทับทิม ทินหัว

เราตื่นจากที่นอนในโรงแรม Marco Polo ที่ผมชื่นชอบมากเพราะอยู่ใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า และสถานที่ช็อปปิ้ง แถมในตึกยังมีเค้กสุดอร่อยอย่าง เลดี้เอ็ม (Lady M) เค้กที่นิวยอร์กเกอร์คลั่งไคล้ ซึ่งถ้าอยากกินต้องเผื่อเวลาต่อแถวที่  นานมากๆ ผมไปรอเกือบ 1 ชั่วโมง กว่าจะได้คิว นี่รอแบบซื้อกลับมากิน แต่ถ้ารอคิวนั่งกินที่ร้านต้องบวกเวลาไปอีกเกือบเท่าตัว จุดเด่นของเค้กร้านนี้ได้ชื่อว่าเป็นราชินีเค้ก รสชาติไม่หวานมาก ทว่าเมื่อเข้าปากมันจะหอมจรุง นุ่มเหมือนปุยก้อนเมฆก็ไม่ปาน

ปีที่แล้วผมไปงานที่อังกฤษแต่ไม่มีโอกาสได้กิน เห็นว่าสิงคโปร์ก็มีแต่ก็ไม่เคยได้ไปต่อแถวเลย แต่มาที่นี่มีอันต้องไปต่อแถวทุกที  

กลับมาที่ วัดเจ้าแม่ทับทิม ทินหัว (Tin Hau Temple) วัดนี้ผมเคยมา เก่าแก่และขึ้นชื่ออีกหนึ่งตั้งอยู่บริเวณย่านเยามาเต (YauMaTei) สร้างตั้งแต่ ค.ศ 1876 ลักษณะอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบวัดจีน

'เล่ากันว่าอดีตฮ่องกงเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมง ประกอบอาชีพชาวประมงเดินเรือ จึงมีความเชื่อถือและบูชาเจ้าแม่ทับทิมซึ่งถือเป็นเทพธิดาแห่งท้องทะเล นอกจากการมาสักการบูชาเจ้าแม่ทับทิมในเรื่องของการเดินทางให้ปลอดภัย ไฮไลต์สำคัญ อีกอย่างหนึ่งของวัดแห่งนี้คือขดธูปสีแดงขนาดใหญ่ ที่แขวนอยู่ตามเพดานด้านในวิหารของวัด ในยามที่มี แสงแดดส่องลงมาจะสามารถมองเห็นลาแสงส่องทะลุ ควัน ธูปดูสวยงามแปลกตา

วิธีการไหว้ : ขอพรให้เดินทางปลอดภัย การไหว้ก็เอาที่สบายใจ ตั้งใจอธิษฐานให้พรสำเร็จ

วัดหวังต้าเซียน (Wong Tai Sin Temple)

ผมมาต้องมาที่นี่ทุกๆ ครั้ง เป็นวัดที่ผมชอบมากที่สุดแห่งนี้เพราะงดงาม แล้วก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมายอยู่ หวังต้าเซียนเป็นวัดขนาดใหญ่อยู่ตอนเหนือของเกาะฮ่องกง เด่นด้วยสถาปัตยกรรมงดงามว่ากันว่า ได้รับอิทธิพลมาทั้งศาสนาพุทธลัทธิเต๋า ขงจื้อ ตัววัดและสิ่งก่อสร้างต่างๆ มีลักษณะคล้ายวัดจีนโบราณ

อีกทั้งยังเด่นในด้านศาสตร์ฮวงจุ้ยที่ครบทั้ง 5 ธาตุ คือ ธาตุโลหะ (ศาลาสำริด) ธาตุ ไม้ (หอเก็บคัมภีร์) ธาตุน้ำ (น้ำพุ) ธาตุไฟ (ศาลเจ้า) และธาตุดิน (กำแพงดิน) อ.คฑาเล่า

นอกจากนี้ยังเป็นวัดที่ประดิษฐานของเทพเจ้าจีนหลายองค์แต่เทพเจ้าที่ชาวจีนนิยม กราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันปีใหมที่สุดคือ องค์ไท้ส่วยเอี๊ย

เชื่อว่าการสักการะองค์ไท้ส่วย ประจำปีนั้นๆ เป็นการขอพรให้ตลอดทั้งปีมีแต่ความโชคดีควบคู่ไปกับการสักการะองค์ไท้ส่วยประจำปีเกิดของตนเอง เพื่อให้เทพค้มครอง มีด้วยกันทั้งหมด 60 องค์ไท้ส่วย มีรูปลักษณ์ แตกต่างกัน ทั้ง บุ๋น บู๊ สุขสำราญ ด้วยท่วงท่าที่แตกต่างกัน มีความโดดเด่นเฉพาะองค์ไท้ส่วยชาวจีน เชื่อว่าองค์ไท้ส่วยเอี๊ย หรือเทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตา มีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตมาก

ฉะนั้นการกราบไหว้บูชาเทพเจ้าผู้คุ้มครองดวงชะตาหรือองค์ไท้ส่วยในทุกๆ ปีจะเป็นการเสริมดวงชะตา โดยเฉพาะคนที่เกิดปีชงจะแคล้วคลาดปลอดภัย

ห้องลับใต้ดิน ไท้ส่วย 60 องค์แก้ชง

ภายในวัดหวังต้าเซียนมี 'ห้องลับใต้ดิน' อยู่ซึ่งเป็นห้องที่นักพรตลงไปประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์ให้กับคนที่เกิดปีชงโดยปี 2561 เป็นปีจอธาตุดิน เทพไท้ส่วยประจำปีนี้ชื่อ 'ขุนพลเกียงบู๊ไต่เจียงกุง' ปีชง 2561 ได้แก่ ปีมะโรง ปีจอ ปีฉลู และปีมะแม

วิธีการไหว้ : แก้ชงคุ้มครองชะตาแคล้วคลาดปลอดภัย การไหว้ให้เขียนปี ค.ศ. เกิดให้กับเจ้าหน้าที่ (เสียค่าเข้า 100 ดอลลาร์ฮ่องกงและจะได้ธูปของมงคลของไหว้) แล้วจึงนำธูปและของมง คลไปไหว้ 1.พระอนุตรธรรมมารดา พระมารดาแห่งดวงดาว 2.ไหว้ไท้ส่วยเอี๊ยประจำปี ปีนี้ 'เกียงบู๊ไต่เจียงกุง' จากนั้นก็ไปไหว้ไท้ส่วยเอี๊ย ประจำปีเกิดของเรา ไหว้ตามลำดับเสร็จสรรพ ก็นำยันต์ ป้ายไท้ส่วยมงคล พกติดบ้าน ห้องนอน ยานพา หนะเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล

"ไหว้ 3 จุดเสร็จสรรพแนะนำให้มายืนอธิษฐานจิตที่วงกลมหยินหยางในยันต์ 8 ทิศ โป๊ยข่วย ด้านบน 60 กลุ่มดาว ด้านล่างยันต์ 8 ทิศ รับพลังดวงดาวรอบข้าง 60 ไท้ส่วย เทพเจ้าประจำปี อธิษฐานจิตขอให้สิ่งไม่ดี สิ่งชั่วร้ายออกไป สิ่งดีๆ เข้ามา"

สำหรับคนที่ชงที่นี่มีบริการแก้ชงด้วยการซื้อจุดของไหว้พิเศษ (ราว 300 ดอลลาร์ฮ่องกง) จากนั้นก็เขียนชื่อแล้วนำไปให้นักพรตสวดแก้ชงเสริมชะตา 

'เทพเจ้าบุพเพสันนิวาส'

อีกหนึ่งจุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ไปไหว้ 'เทพเจ้าบุพเพสันนิวาส' ตั้งอยู่ในวัดแห่งนี้เพื่อขอคู่ ผมเคยมา เห็นว่าศักดิ์สิทธิ์ดี ขอเรื่องคู่ได้คู่เห็นๆ คู่สำหรับผมอาจจะไม่เฉพาะคู่รัก คู่มิตร คู่ค้า หุ้นส่วน หรือคู่เพื่อนฝูง คู่ทำงานก็ได้

วิธีการไหว้ : ให้นำด้ายแดงผูกตามป้ายด้านหน้า พร้อมกับอธิษฐานจิต ผูกด้ายแดงขอพรจาก 'เทพเจ้าบุพเพสันนิวาส' ใครมีแฟนก็ขอพรให้รักยั่งยืนมั่นคง ดุจดังผู้เฒ่าจันทราอยู่คู่ฟากฟ้ากับดวงจันทร์ ใครที่ไม่มีคู่อธิษฐานจิตตามแบบฉบับดั้งเดิม ผูกด้ายแดงให้เทพหาคู่ นำพารักมาให้

อ.คฑาแนะนำคาถาท่องว่า - โอม จันทรา ศศิประภา นะมาฮา ขอพลังแห่งจันทราเทพ ผู้เฒ่าจันทรา ผู้ให้แสงสว่างในยามราตรี ผู้ให้ความอุดมสมบูรณ์ ผู้ให้ความสุขสงบร่มเย็น ได้โปรดประทานพรให้ ข้าพเจ้า...สกุล... มีความรักมั่นคง ยั่งยืน มีความสุข อุดมสมบูรณ์ สดใสสว่างเรืองรองดุจดังดวงจันทร์วันเพ็ญ

โอม จันทรา ศศิประภา นะมาฮา นึกถึงภาพคนที่เรารัก ควรทำในวันข้างขึ้น ดูจากปฏิทินจันทรคติ คนยืนอธิษฐานกันคึกคัก หัวเราะคิกคัก อย่างว่าพูดถึงความรัก+ความหวังจากคำอธิษฐาน มักกระชุ่มกระชวยหัวใจทุกผู้ทุกวัยเสมอ 

เป็นอีกหนึ่งปีที่ได้ไปทำบุญแก้ชงเสริมชะตาที่ฮ่องกง ถ้าฮ่องกงเปรียบเหมือนแฟน ผมว่าเรากำลังดูแล กำลังรัก และใกล้จะขอแต่งงานเต็มที เป็นประเทศที่มีความศักดิ์สิทธิ์ของวัด มีแห่งกินเที่ยวดื่มดีๆ มีแหล่งช็อปปิ้งดีๆ (สนีกเกอร์และโมเดลทอยย์) ซุกซ่อนอยู่มากมาย ผมสัญญากับตัวเองว่าจะมาทุกปี.

ขอบคุณ : ทริปดีๆ M Card เดอะมอลล์