ใกล้ถึงวันหยุดแล้ว! อดใจอีกแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ได้พักผ่อนช่วงสุดสัปดาห์สักทีเนอะ ใครว่างๆ อยู่ ไปหาที่เที่ยวเล่นใกล้กรุงเทพฯ กันดีกว่า คราวที่แล้วเราไปลุยเดี่ยวกับทริปปั่นจักรยาน

คราวนี้ I TOUR ALONE กับฮัมมิ่งเบิร์ด เลยจะชวนเที่ยวต่อที่ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง ซึ่งอยู่ในย่านเดียวกัน พอปั่นจักรยานในช่วงเช้า กลับมาคืนจักรยานที่ร้านเช่าก็เที่ยงพอดี มื้อเช้าย่อยไปอย่างรวดเร็วด้วยสองขาที่ปั่นเอาๆ เกือบ 2 ชั่วโมง ท้องเริ่มร้องจ๊อกๆ แล้วสิ งั้นเราไปเดินหาของกินอร่อยๆ เติมพลังกันที่ ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง กันดีกว่า

ตลาดน้ำแห่งนี้ยังคงรักษาเสน่ห์ของตลาดชุมชนเก่าแก่ไว้เป็นอย่างดี แม้ปัจจุบันจะมีพ่อค้าแม่ค้าที่เป็นคนนอกพื้นที่เข้ามาเช่าแผงค้าขายมากกว่ายุคอดีตที่เป็นคนในชุมชน แต่รูปแบบตลาดก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงจนลืมเค้าเดิมไปนัก

แต่บอกก่อนว่า ตลาดน้ำแห่งนี้ไม่ได้มีภาพบรรยากาศแบบเรือขายของตามริมตลิ่งหรอกนะ มีเพียงคลองเล็กๆ ที่ขุดขึ้นเองเพื่อใช้สอยในอดีต (ตอนนี้ก็แทบมองไม่เห็นคลองแล้วด้วย) ใครที่คาดหวังแบบนั้น อาจจะผิดหวังกลับไป แต่ถ้าคุณ Don't care ก็ตามมาเที่ยวต่อเลยจ้า

...

ที่นี่มีร้านก๋วยเตี๋ยว ข้าวหมูแดง ข้าวไก่อบ ข้าวมันไก่ อยู่หลายร้าน เราแวะไปเติมพลังที่ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เจ้าหนึ่งในตลาด รสชาติโอเค ราคา 50 บาท จากนั้นก็เดินหาของทานเล่น มาตลาดต้องเดินเที่ยวและช็อปปิ้ง จริงป่ะ? งั้นมาอัพเดตของอร่อย 5 ร้านเด็ดของตลาดบางน้ำผึ้งดูหน่อยสิ มีอะไรน่าชิมมั่งน๊า?

1. ขนมตุ๊บตั๊บในตำนาน

มาเจอร้านนี้ ก็สะดุดตาตรงที่พ่อค้ากำลังเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือ แผ่นกระดานไม้ ค้อนทุบ กระทะตั้งไฟร้อนๆ เราคิดในใจ "เฮ้ยๆ นี่กำลังจะปรุงของกินสักอย่างแน่ๆ" นี่ก็รีบปรี่เข้าไปเลย สอบถามได้ความว่า ชื่อร้าน ชนม์ณิชา ขายขนมตุ๊บตั๊บและถั่วตัดที่ทำสดใหม่กันหน้าร้านเลยทีเดียว สูตรขนมของทางร้านตกทอดสืบต่อมา 10 ปีแล้ว โห…คือรับรองความหอมอร่อย และก็เป็นตามคาด พอได้ลองชิมแล้ว แหม...มันใช่เลย นุ่มเนียน กรอบผิวด้านนอก หอมถั่ว ไม่เหม็นหืน จัดว่าเด็ด!

2. วุ้นเป็ดแฟนซี

ถัดมาเราเดินไปเจอวุ้นเป็ดเข้า แต่ปกติจะเคยเห็นวุ้นเป็ดที่เป็นวุ้นกะทิสีขาวๆ อย่างเดียว แต่ร้านนี้เขาปรับสูตรเป็นวุ้นเป็ดแฟนซี แต่งแต้มสีสันตัวเป็ดให้น่ารักสดใสมากขึ้น ส่วนรสชาติก็หอม มัน อร่อย ไม่ทิ้งสูตรเดิม นอกจากนี้ยังมีวุ้นผลไม้ในถ้วยเล็ก น่าทานไม่แพ้กัน

3. หอยใหญ่ไข่อร่อย

...

ใกล้ๆ กันเราเจอเข้ากับร้าน หอยทอดครก เห็นพ่อค้ากำลังตั้งหน้าตั้งตาทอดบนเตาขนมครก พร้อมร้องขายด้วยสโลแกน "หอยใหญ่ไข่อร่อย" ติดหูมากอะ พอมองซูมเข้าไปใกล้ๆ เห็ดหอยแมลงภู่ตัวใหญ่พร้อมไข่ไก่ที่ใส่กันไปแบบตู้มๆ คำใหญ่มากอะ เห็นแล้วน้ำลายไหล เลยจัดมา 1 ชุด ชิมปุ๊บคือแบบ...มันเต็มปากเต็มคำมากอะเธอ ทอดกรอบแบบพอดีๆ ยิ่งกินกับน้ำจิ้มยิ่งอร่อยเด็ดไปอีก

4. ขนมหม้อแกงในหม้อดิน

...

อีกอย่างหนึ่งที่ไปเที่ยวตลาดแห่งนี้ทีไร ต้องเจอทุกทีนั่นคือ ขนมหม้อแกง มีอยู่หลายรสชาติให้เลือก เช่น หม้อแกงเผือก หม้อแกงไข่ และหม้อแกงถั่ว และยังมีข้าวเหนียวสังขยาในหม้อดินอีกด้วย มองดูละลานตาน่าทานอะ ซื้อมาลองชิม 1 หม้อเล็ก แอบหวานไปนิดนะ แต่ก็โอเค

5. ตะโก้สารพัดหน้า

มาจบที่ร้านขนมไทยๆ อีกหนึ่งร้าน เราเห็นฝรั่งมายืนรุมเต็มหน้าร้านเลยอะ พอเดินเข้าไปใกล้ๆ อ๋อ…ร้านขายขนมตะโก้ เป็นร้านใหญ่เลย ตะโก้ร้านนี้มีหลายไส้มากๆ ปกติจะเคยเห็นแค่ตะโก้เผือกกับตะโก้ข้าวโพด แต่ที่นี่มีทั้งตะโก้เนื้อสีฟ้าใสไส้มะพร้าวอ่อนโรยหน้าแปะก๊วย ตะโก้ถั่วแดง ตะโก้ธัญพืช ตะโก้ฝอยทอง แปลกดี หน้าตาสวยและรสชาติอร่อยด้วย

...

นอกจากนี้ยังมีหมูสะเต๊ะ ข้าวเกรียบว่าว ข้าวเกรียบปลาทู ปลาทูต้มเค็ม ทอดมันปลาหมึก ขนมไหมฝัน มีโซนขายเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน และโซนตลาดต้นไม้ งานนี้เราสอยต้นมะลิติดมือกลับบ้านไป 1 กระถาง โฮะๆ ฟินอะ...ตามประสาคนชอบต้นไม้

เอาเป็นว่าถ้าว่าง ก็แวะมาเที่ยวตลาดน้ำบางน้ำผึ้งกันได้ เพลินๆ ดี ของกินของใช้ไม่แพงเกินไปนัก ฮัมมิ่งเบิร์ดคอนเฟิร์ม ส่วนการเดินทางก็ไม่ยากเลย ย้อนไปอ่านในทริปปั่นจักรยานดูนะ บอกไว้แล้วเรียบร้อย อ้อ! อีกอย่าง ที่นี่เป็นตลาดเช้า เปิดตั้งแต่ 08.30-14.30 น. โดยประมาณ จริงๆ ช่วงบ่ายตลาดก็เริ่มวายแล้ว

อย่าเผลอมาช่วงเย็นล่ะ…เดี๋ยวอดฟิน!