สายการบินเอทิฮัด ประเดิมเที่ยวบินแรกระหว่างกรุงอาบู ดาบี และสนามบินเจเอฟเค กรุงนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ ด้วยเครื่องบิน เอ380 เป็นครั้งแรก เอาใจนักเดินทางเน้นหรูหราด้วย 'เดอะ เรสสิเดนซ์' ห้องโดยสารระดับโรงแรม 5 ดาว...

สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เฉลิมฉลองการบริการด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ380 ณ ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี้ (JFK) แห่งนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นที่คาดหวังรอคอยเป็นอย่างยิ่ง พร้อมได้ต้อนรับผู้โดยสารที่เดินทางบนเที่ยวบินแรกระหว่างสองเมืองที่ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำของโลก

การเปิดตัวบริการสุดพิเศษด้วย เอ380 ในสหรัฐฯ ครั้งนี้ของสายการบินฯ รวมถึงการให้บริการด้วยชั้นโดยสาร เดอะ เรสสิเดนซ์ บาย เอทิฮัด ที่เป็นชั้นโดยสารเชิงพาณิชย์เดียวที่จัดเป็นห้องสวีตแบบ 3 ห้องบนฟากฟ้า ชั้นโดยสารที่หรูหราอย่าง เฟิสต์ อพาร์ตเมนต์ ชั้นโดยสารบิสิเนส สตูดิโอ อันแสนสะดวกสบาย และชั้นโดยสารอีโคโนมี สมาร์ทซีท โดย เอ380 นี้จะให้บริการบนเที่ยวบิน 1 ใน 2 เที่ยวบินรายวันระหว่างกรุงอาบู ดาบี และนครนิวยอร์ก

นายเจมส์ โฮแกน ประธานและกรรมการบริหารของสายการบินเอทิฮัด กล่าวว่า การเริ่มให้บริการด้วย เอ380 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี้นั้น เป็นก้าวที่สำคัญสำหรับสายการบินเอทิฮัด โดยเอทิฮัดได้ตอบสนองกับความต้องการในการเดินทางที่เพิ่มขึ้นของผู้โดยสารของ เราระหว่างกรุงอาบู ดาบี และนครนิวยอร์ก และสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของสายการบินฯ ภายในเวลาเพียง 12 ปีของการดำเนินงาน สายการบินเอทิฮัด ได้ก้าวล้ำหน้าการแข่งขัน โดยมอบทั้งความหรูหรา ความสะดวกสบาย และอัธยาศัยอันอบอุ่นให้แก่ผู้โดยสารของเราตามที่พวกเขาได้คาดหมายไว้เมื่อเดินทางกับเรา และเรายังคงมุ่งเน้นที่จะยกระดับประสบการณ์การเดินทางทางอากาศในทุกๆ ชั้นของการให้บริการ

...

 
ประธานและกรรมการบริหารของสายการบินเอทิฮัด กล่าวต่อว่า ผลิตภัณฑ์ที่ปฏิวัติโฉมบนฝูงบิน เอ380 ของสายการบินเอทิฮัดนั้น ได้เปลี่ยนรูปแบบมาตรฐานของการบินพาณิชย์ไปอย่างสิ้นเชิง และเราภูมิใจที่ได้นำสิ่งเรานี้มาให้บริการแก่ผู้โดยสารของเราที่เดินทาง ระหว่างสหรัฐฯ และกรุงอาบู ดาบี

การเปิดให้บริการประสบการณ์การเดินทางอันเป็นสัญลักษณ์ของสายการบินด้วย เอ380 นี้พร้อมบริการทันเวลาในช่วงเทศกาลการเดินทางท่องเที่ยวนี้ ในขณะเดียวกันก็ให้บริการแก่ผู้โดยสารที่จะเดินทางไปชมการแข่งขันรถ ฟอร์มูล่าวันเอทิฮัด แอร์เวย์ส อาบู ดาบี กรังด์ปรีซ์ ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา สำหรับเที่ยวบินปฐมฤกษ์ด้วย เอ380 จากกรุงอาบู ดาบีไปนิวยอร์ก เที่ยวบิน EY103 ลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ในวันจันทร์ ส่วนเที่ยวบินขากลับจากเจเอฟเค ไปยังกรุงอาบู ดาบีนั้น เดินทางมาถึงกรุงอาบู ดาบี ในตอนบ่ายตามเวลาท้องถิ่น

 
ผู้โดยสารในชั้นโดยสาร เดอะ เรสสิเดนซ์ บาย เอทิฮัด จะได้เพลิดเพลินไปกับสุดยอดความหรูหราในการเดินทางทั้งบนพื้นดินและในอากาศ ตั้งแต่บริการรถลีมูซีนรับส่ง บริการพนักงานต้อนรับ พร้อมพื้นที่เช็กอินส่วนตัวที่สนามบิน ซึ่งในทุกๆ ขั้นตอนของการเดินทางนั้นจะได้สัมผัสกับประสบการณ์อันราบรื่นและมีรสนิยม ผู้โดยสารใน เดอะ เรสสิเดนซ์ ยังสามารถเพลิดเพลินกับห้องรับรองเฟิสต์คลาสและบิสิเนสคลาสของสายการบินที่ เพิ่งเปิดให้บริการใหม่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี้ ซึ่งจะจัดพื้นที่พิเศษไว้ให้บริการโดยเฉพาะ

ห้องโดยสารเดอะ เรสสิเดนซ์ ซึ่งอยู่ที่ชั้นบนด้านหน้าของเครื่องบินเอ 380 ในเส้นทางระหว่างกรุงอาบู ดาบี และนครนิวยอร์กนั้น มีราคาอยู่ที่ 32,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 1.15 ล้านบาทต่อเที่ยว สำหรับผู้โดยสาร 1 หรือ 2 คน ห้องโดยสารที่มีความเป็นส่วนตัวสูงสุดแบบห้องสวีต 3 ห้องนั้น มีห้องนั่งเล่นที่มีจอ LCD ขนาด 32 นิ้ว ห้องนอนเตียงคู่ และห้องน้ำที่มีห้องอาบน้ำในตัวแยกต่างหาก พร้อมบัตเลอร์ที่ได้รับจากฝึกฝนจากสถาบันซาวอย (Savoy Academy) ใน กรุงลอนดอนที่จะดูแลความต้องการต่างๆ ของผู้โดยสารพิเศษโดยเฉพาะ นอกจานนี้ ห้องโดยสารที่ให้ประสบการณ์ครั้งใหม่เช่นนี้ยังมีเชฟส่วนตัวที่พร้อมจะรังสรรค์เมนูให้ตามที่ผู้โดยสารต้องการ

ห้องโดยสารเฟิสต์ อพาร์ตเมนต์จำนวน 9 ที่นั่งในชั้นโดยสารชั้นหนึ่งนั้นถือเป็นพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งมีเก้าอี้เลานจ์หนังโพลโทรน่า ฟราว ที่สามารถปรับเอนได้ และเก้าอี้ออตโตมัน พร้อมที่พักเท้า ซึ่งสามารถปรับแยกมาเป็นเตียงราบขนาด 80.5 นิ้ว  ซึ่งจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 74 จากห้องโดยสารชั้นหนึ่งแบบสวีตในปัจจุบันที่ได้รับรางวัลของสายการบินเอทิฮัด แต่ละห้องอพาร์ตเมนต์มีโทรทัศน์จอแบนขนาด 24 นิ้ว ตู้แช่มินิบาร์ส่วนตัว โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า รวมถึงห้องอาบน้ำที่มีอุปกรณ์ครบครันมีให้บริการสำหรับผู้โดยสารชั้นหนึ่ง โดยเฉพาะ

บิสิเนสสตูดิโอมีจำนวนทั้งหมด 70 ที่นั่ง ในห้องโดยสารจัดเรียงแบบ 1-2-1 ซึ่งอยู่ชั้นบนของเครื่องบิน เอ380 ทุกที่นั่งอยู่ติดทางเดิน และปรับเป็นเตียงราบขนาด 80.5 นิ้ว และมีพื้นที่ส่วนตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 20

เดอะ ล็อบบี้ ห้องรับรองหรูตั้งอยู่ระหว่างห้องโดยสารชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ มีโซฟาหนังสองตัว และบาร์ที่มีพนักงานคอยบริการเครื่องดื่มและอาหารว่างหลากหลาย เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการผ่อนคลายและการสังสรรค์

ห้องโดยสารหลักประกอบด้วยที่นั่งอีโคโนมี สมาร์ทซีทจำนวน 415 ที่นั่ง มีที่พักศีรษะที่ถูกหลักสรีระอันเป็นเอกลักษณ์แบบฟิกซ์วิง พนักพิงที่รองรับช่วงเอว และจอส่วนตัวความละเอียดสูงขนาด 11 นิ้ว ซึ่งผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับภาพยนตร์และซีรีส์ตามความต้องการได้กว่า 750 ชั่วโมง พร้อมเกมที่ได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น และรายการโทรทัศน์ถ่ายทอดสด ผ่านระบบความบันเทิง พานาโซนิค อีเอ็กซ์ 3 ที่ทันสมัย

เดอะ เรสสิเดนซ์ บาย เอทิฮัด เป็นบริการพิเศษเฉพาะบนฝูงบิน เอ380 ของสายการบินเอทิฮัด ซึ่งปัจจุบันให้บริการในเส้นทาง ซิดนีย์ ลอนดอน ฮีทโธรว์ และนิวยอร์ก เจเอฟเค โดยการบริการไปยังมุมไบ และเมลเบิร์นนั้นมีกำหนดจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 พฤษภาคม และ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ตามลำดับ และฝูงบิน เอ380 ของสายการบินฯ จะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นทั้งหมด 10 ลำ
ผู้โดยสารบนเที่ยวบินของสายการบินเอทิฮัด จากท่าอากาศยานนานาชาติอาบู ดาบี ไปยังจุดหมายปลายทางของสายการบินทั้ง 6 แห่งในสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคนเนดี้ จะต้องผ่านด่านตรวจศุลกากรและตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ล่วงหน้า ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรของสหรัฐได้ ตั้งแต่ที่กรุงอาบู ดาบี และเดินทางไปถึงจุดหมายปลายทางในสหรัฐฯ เสมือนหนึ่งเป็นผู้โดยสารในประเทศ ส่วนสนามบินอื่นๆ ในสหรัฐฯ ที่สายการบินเอทิฮัดให้บริการได้แก่ ชิคาโก (ORD) ดัลลัส-ฟอร์ทเวิร์ธ (DFW) ลอสแอนเจลิส (LAX) ซานฟรานซิสโก (SFO) และวอชิงตัน ดี.ซี. (IAD).

...