สำหรับบางคนที่ไม่ได้หยุดยาวเหมือนคนอื่น ฟังทางนี้ ถ้าเป็นขาเที่ยวตัวจริงล่ะก็ ยังไงก็แพลนวันว่างไปเที่ยวได้แน่นอน ยิ่งถ้ามีวันพักร้อนเยอะๆ แนะนำว่าให้รีบเอามาใช้ในช่วงนี้เลยนะ เพราะคุณจะได้เที่ยวในราคาที่ถูกกว่าใครๆ

งานนี้นักเดินทางตัวยง อย่าง จ๊อบ นิธิ สมุทรโคจร ออกมาการันตีว่า วันธรรมดาน่าเที่ยวยิ่งกว่าวันหยุดเสียอีก นอกจากจะไม่ต้องหงุดหงิดไปกับการจราจรที่ติดขัดแล้ว ค่าใช้จ่ายในการเที่ยววันธรรมดา ก็ถูกแสนถูก ทั้งที่พัก ค่าอาหาร หรือค่าเดินทางต่างๆ ก็ลดลงเกือบครึ่ง

ไหนๆ ก็ได้มาเจอ 'จ๊อบ นิธิ' ขาบู๊นักเดินทางรอบโลกทั้งที ไทยรัฐออนไลน์ ขออัพเดตไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของพิธีกรคนเก่งกันสักหน่อย ชวนพูดคุยถึงการจัดการการท่องเที่ยวของต่างประเทศ ที่ได้ไปพบเห็นมา รวมถึงแนะนำเส้นทางท่องเที่ยว 3 รูท ที่น่าสนใจสำหรับช่วงนี้ด้วย อย่ารอช้า ตามมาอ่านกันเลย

Q : การเที่ยวในวันธรรมดา มีข้อดียังไงบ้าง

ข้อดีอย่างแรกเลย ผมว่ามันเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่งแน่นอน ทำให้รายได้กระจายสู่ที่ต่างๆ มากขึ้น เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศ ส่วนในแง่ของความคุ้มค่าของนักท่องเที่ยวเอง ก็มีข้อดีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่าที่พักที่ราคาถูกกว่า การเดินทางที่ประหยัดได้มากกว่า ประหยัดทั้งเวลาทั้งน้ำมัน (เพราะรถไม่ติดมากเหมือนวันหยุด) ราคาการท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ ก็ถูกกว่าเช่นกัน

...

แน่นอนว่า ถ้าคุณไปในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ราคาของการท่องเที่ยวมมักจะสูง แต่ถ้าคุณไปวันธรรมดา ราคาทุกอย่างถูกลงมาก ช่วยประหยัดไปได้ถึง 30% หรือมากกว่านั้น ก็ถือว่าเป็นการดีสำหรับนักท่องเที่ยวเอง และดีต่อผู้ที่ทำธุรกิจท่องเที่ยวด้วย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจรถเช่า เรือเช่าต่างๆ นานา

ที่ผมพูดได้ชัดเจนขนาดนี้ เพราะผมเองทำทั้งรายการท่องเที่ยว ทำธุรกิจพาเที่ยว ทำธุรกิจโรงแรม คือเราก็อยู่ในแวดวงธุรกิจท่องเที่ยวมานาน ก็เลยเห็นภาพชัด แคมเปญนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดี เพราะเห็นได้เลยว่า โรงแรมขนาดใหญ่ในวันธรรมดาเขาอยู่ได้ด้วยลูกค้ากลุ่มสัมมนาเท่านั้น กลุ่มท่องเที่ยวแทบจะไม่มีเลย การที่เกิดแคมเปญแบบนี้ขึ้นมา ก็ทำให้โรงแรมสามารถรับรองนักท่องเที่ยวขาจรได้ ก็เท่ากับว่า มีลูกค้าเพิ่มเข้ามาให้เขาในวันธรรมดาได้อีกทาง และที่สำคัญคือ ยังสามารถกระตุ้นวิถีชีวิตของคนในชุมชนได้ด้วย

Q : ที่บอกว่าช่วยกระตุ้นวิถีชีวิตชุมชน ช่วยได้ยังไงบ้าง

อันนี้เด่นมาก ความที่ผมทำรายการท่องเที่ยว ผมก็มีโอกาสได้เจาะลึกเข้าไปในชุมชนในแต่ละพื้นที่ บางครั้งไปเจอคุณยายมานั่งร้อยโน่น นั่น นี่ มาทำของขายให้เราเห็นทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะว่าแกรู้ว่าวันเสาร์-อาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวเข้ามาดู แต่วันธรรมดาแกก็นั่งทำอยู่ที่บ้าน ไม่เกิดรายได้อะไร แต่ถ้าเราไปเที่ยววันธรรมดา แกสามารถมานั่งทำของขายแบบนี้ได้หลายวัน ก็มีรายได้มากขึ้น รวมถึงได้นำเสนอวิถีชุมชนแบบนี้ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นมากขึ้น คนในชุมชนก็เกิดการตระหนักรู้และอยากอนุรักษ์วิถีชุมชนแบบนี้เอาไว้

ร้านอาหารต่างๆ ก็เหมือนกัน ไม่ใช่แค่ช่วยให้เขาขายดีที่หน้าร้าน แต่หลังร้านมันโยงไปถึงคนทำประมงชุมชน แม่ครัว เด็กเสิร์ฟ จากเดิมที่พวกเขาอาจจะทำแค่พาร์ทไทม์ เสาร์-อาทิตย์ แต่ถ้าเราไปเที่ยววันธรรมดาด้วย พวกเขาก็อาจจะขยับขึ้นมาเป็นพนักงานประจำ มีรายได้ที่แน่นอนมากขึ้น

Q : เห็นเดินทางบ่อยๆ เพื่อทำรายการท่องเที่ยว จริงๆ แล้วชอบการเดินทางมาตั้งแต่เมื่อไหร่

...

จริงๆ ส่วนตัวผมชอบเดินทางท่องเที่ยวมาตั้งแต่สมัยเรียนเลย เที่ยวตั้งแต่มัธยมฯ ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ พอเข้ามหาวิทยาลัย ผมมีโอกาสดีกว่าคนอื่นเล็กน้อย ก็คือได้เดินทางไปต่างประเทศ ก็เลยได้มีโอกาสไปรู้จักการท่องเที่ยวแบบฝรั่ง ซึ่งเป็นอีกสไตล์หนึ่ง ก็ไปเองคนเดียว ลองสัมผัสการเดินทางด้วยตัวเอง มันก็ทำให้รู้จักอีกมุมมองหนึ่งของการท่องเที่ยว

จนมาเริ่มทำงานอย่างจริงจัง งานหนึ่งที่ชอบ ก็คือ การเป็นพิธีกรท่องเที่ยว เคยรับจ้างเป็นพิธีกรท่องเที่ยวหลายๆ รายการ ตั้งแต่เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว จนวันหนึ่งมีโอกาสได้ทำรายการท่องเที่ยวเป็นของตัวเอง ก็คือ สมุทรโคจร เป็นรายการท่องเที่ยวที่มีอายุมา 10 กว่าปีแล้ว ในทุกๆ เดือนเราต้องเดินทางไปถ่ายรายการ คือไปที่ไหนก็ได้ในโลกใบนี้ มันก็เลยได้ไปเห็นมาเยอะ ผมทำรายการนี้ไม่ได้ต้องการชักชวนคนไทยให้ไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ผมอยากให้เห็นว่า ที่ต่างประเทศเขามีอะไรดี แล้วเอามาบอกต่อ และสามารถพูดได้ว่า เราได้ไปเห็นมาแล้วจริงๆ คือได้เห็นทั้งในแง่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแปลกตา ทั้งในแง่ของการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวของต่างประเทศ

...

Q : แล้วในต่างประเทศเขาบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวอย่างไร

อย่างเช่น ประเทศลาว ข้างๆ บ้านเรานี่เอง รู้มั้ยว่าเขามีการจัดการระบบการท่องเที่ยวดีขนาดไหน นี่เป็นสิ่งที่ผมมีโอกาสไปเห็นแล้วชื่นชมเขาว่า ดูสิครับนี่คือประเทศเพื่อนบ้านเรา เขามีการจัดการที่ดีแบบนี้ เราก็ควรเอาตัวอย่างนี้มาพัฒนาของบ้านเราบ้าง เช่น น้ำตก ไม่มีร้านขายของ ไม่มีขยะวางเกะกะ เขามีพื้นที่จัดเป็นสัดส่วน คุณมานั่งเล่นน้ำตกได้ แต่ไม่ใช่ว่าจะมานั่งกินเหล้าที่น้ำตก แบบนี้ไม่ถูกต้อง นี่คือเขามีระบบการจัดการที่ดี การที่ผมไปทำรายการคือ ต้องการอยากจะบอกกับคนไทยแบบนี้

...

Q : แล้วมองว่าแหล่งท่องเที่ยวในบ้านเรามีการจัดการเป็นอย่างไร

เราชวนคนมาเที่ยว แต่เราไม่ได้ดูแลรักษาแหล่งท่องเที่ยว เพื่อให้คนมาเที่ยวแล้วเขาประทับใจ ถ้าเรายอมรับกันตรงนี้ได้นะ เราบอกว่ามาเที่ยวสิ เมืองไทยมีอะไรดีเยอะแยะมากมาย แต่พอเขามาเที่ยวกันแล้วเขาประทับใจหรือเปล่า เขาอยากจะกลับมาอีกเป็นครั้งที่ 2 มั้ย ลองรีเช็กเขาดูสิ แล้วแหล่งท่องเที่ยวที่บูมขึ้นมาแล้วตายไป มันเป็นอย่างไร

ผมขออนุญาตเอ่ยถึงบางแหล่งท่องเที่ยวที่เคยบูมในอดีต สมมติว่าผมพูดถึงปายขึ้นมา วันนี้บูมมั้ยก็ยังบูมอยู่ แต่เกรดของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเป็นอย่างไร เราจะปล่อยให้แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เป็นแบบนี้เหรอ เรายังอยากจะให้พื้นที่ชุมชนที่เป็นของคนในพื้นที่นั้นๆ มีร้านสะดวกซื้อมากมาย มีร้านเหล้าเยอะๆ แบบนี้ จริงๆ หรือเปล่า

ฉะนั้น ก็คือมันอยู่ที่การจัดการของบ้านเรา ต้องถามตัวเองว่าเราจะดูแลรักษาแหล่งท่องเที่ยวที่เรามีอยู่อย่างไร วิถีชุมชนที่มีอยู่จะทำอย่างไร ให้เขาคงเอกลักษณ์ของเขาเอาไว้ได้ ไม่ใช่ว่าปล่อยให้เขาเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวอย่างเดียว วันหนึ่งเขาก็ไม่สามารถอยู่กับชุมชนของเขาได้ เขาต้องออกไป เขาต้องปล่อยบ้านที่มีเสน่ห์อันนี้ให้ฝรั่งมาเช่า แล้วฝรั่งก็ทำเป็นบาร์เบียร์

Q : ถ้าอย่างนั้น มันน่าจะเริ่มแก้ไขจากตรงไหนดี

ถ้าพูดอย่างตรงไปตรงมา อันดับแรกเลยคือ อย่าปล่อยให้เกิดขึ้น เขาไม่มีสิทธิ์ทำ แต่บ้านเราไม่มีใครกระตุ้น แล้วบอกเขาว่าทำอย่างนี้ไม่ได้ คือวิถีชุมชนก็ต้องให้อยู่อย่างวิถีชุมชนสิครับ นี่เป็นโซนชุมชน คุณอยากจะทำร้านประเภทนี้ หรือจะทำร้านสะดวกซื้อใดๆ ก็ทำได้ ผมไม่ได้แอนตี้ใครทั้งสิ้น แต่คุณก็ต้องมีโซนที่อยู่ของคุณแยกต่างหาก คุณไม่สามารถเข้าไปตั้งในเขตชุมชนได้ แต่บางพื้นที่ท่องเที่ยวก็ยังเห็นว่า ปล่อยให้มีการรุกพื้นที่ชุมชนอยู่ เราปล่อยให้มันเป็นไปแล้วก็รอให้มันผุผัง แล้วก็หาแหล่งท่องเที่ยวอื่นมานำเสนอใหม่ ซึ่งผมว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่น่าถูกต้องเท่าไหร่ในมุมของผมนะครับ ผมพูดจากสิ่งที่ได้เห็นมาจากการเดินทางครับ

Q : ในฐานะนักเดินทางที่ไปเที่ยวมาเยอะ มองว่าการท่องเที่ยวให้อะไรกับตัวเองบ้าง

การเดินทางให้ประสบการณ์ครับ การเดินทางให้เพื่อน และได้เรียนรู้เรื่องราวของสถานที่นั้นๆ นี่คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดนะ ต่อให้คุณอ่านหนังสือการเดินทางเป็นร้อยๆ เล่ม คุณก็ไม่มีวันเข้าใจสถานที่แห่งนั้นๆ เท่ากับคุณได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง เผอิญผมเป็นคนชอบเดินทางแบบมีเรื่องราว เวลาจะไปถ่ายรายการที่ไหน ก็ต้องทำการบ้านก่อน ต้องรู้ประวัติศาสตร์ของที่นั่น รู้ที่มาที่ไป พอเวลาไปเที่ยวจริงๆ มันจะสนุกขึ้นเยอะเลย เช่น คุณไปเที่ยวน้ำตก เที่ยวทะเล มันจะไม่ใช่แค่ไปเล่นน้ำ แต่คุณจะสามารถต่อยอดไปยังชุมชนใกล้เคียงได้ มันจะทำให้ได้รับรู้เรื่องราวอีกมากมาย และเที่ยวได้ไม่รู้จบ

เอาล่ะ ก็ได้อัพเดตชีวิตการเดินทาง และได้เห็นมุมมองการท่องเที่ยวของนักเดินทางคนนี้กันพอสมควรแล้ว นอกจากนี้ พิธีกรหนุ่มยังได้แนะนำแหล่งท่องเที่ยวใน 3 เส้นทาง ที่น่าสนใจมาฝากให้ขาเที่ยวอีกด้วย จะมีที่ไหนบ้าง ตามมาดูกันต่อเลย

1. เพชรบูรณ์ - เลย

ผมพูดถึงเขาค้ออยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะถ้ารู้จักกิจกรรมที่ผมทำร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คือผมทำเส้นทางท่องเที่ยวเขาค้อ อยากนำเสนอที่นี่ เพราะว่าเป็นสถานที่ที่มีอากาศดีตลอดทั้งปี มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ มีเสน่ห์ในเรื่องของพืชพรรณต่างๆ และอาหารการกิน นี่คือพื้นที่ที่ผมได้เข้าไปทำ มีเสน่ห์หลายๆ อย่างที่น่าไปสัมผัสด้วยตัวเอง

ผมเลือกที่จะเล่าเรื่องเขาค้อ โดยผ่านมุมมองของ คุณตั๊ก บริบูรณ์ ผมได้ขึ้นไปเขาค้อกับตั๊กครั้งแรกเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ไปเที่ยวด้วยกัน ได้ไปใช้ชีวิตอยู่บนเขาด้วยกัน ได้ประสบการณ์อะไรหลายๆ อย่างกลับมา ผมก็เชื่อว่า ตั๊กมีเรื่องราวอยากเล่าเกี่ยวกับเขาค้อในมุมมองของเขา ก็เลยให้เขามาเป็นวิทยากรให้สำหรับรูทท่องเที่ยวนี้ ไปเที่ยวผาซ่อนแก้ว ไปไหว้พระธาตุต่างๆ นานา ตั๊กเขาไปเที่ยวเขาค้อมาหลายสิบครั้ง ผมว่านอกจากมุมที่เป็นคนตลกเฮฮาแล้ว เขายังมีมุมของนักเดินทางที่น่าสนใจด้วย

2. จันทบุรี - ตราด

ผมพาคุณน็อต วรฤทธิ์ เข้ามาร่วมเที่ยวด้วยกัน เพราะผมกับครอบครัวเขาก็รู้จักกันมานาน อย่างอาตุ่ม (ชลิต เฟื่องอารมย์) คุณพ่อของคุณน็อต ก็คุ้นเคยกันมานาน และอาตุ่มก็อยู่ที่จันทบุรี ตราด ละแวกนั้น ผมก็เคยไปเที่ยวไปอยู่ไปกินที่บ้านอาตุ่มมานาน ไปไหนด้วยกันมาเยอะแยะมากมายกับน็อตกับแนน ตั้งแต่สมัยนู้น เราก็มองว่าน็อตเขาคุ้นเคยถิ่นนั้นดี เราก็เลยดึงเขาเข้ามาเป็นวิทยากรในรูทนี้ เพื่อนำเสนอมุมมองที่น่าเที่ยวของเมืองจันทบุรี ก็เป็นเส้นทางท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์เหมือนกัน จะได้ไปดูชุมชนเก่าแก่ริมน้ำจันทบูร เที่ยวชมแหล่งผลิตพลอย และยังมีที่ท่องเที่ยวสวยๆ อีกมากมาย

3. ภูเก็ต-พังงา

เป็นอีก 2 จังหวัดที่น่าสนใจทางภาคใต้ ผมให้ เป๊ก เปรมณัช มาเป็นวิทยากร มุมเสน่ห์ที่อยากนำเสนอสำหรับรูทนี้ ผมเน้นที่อำเภอตะกั่วป่า เน้นลิตเติ้ลอะเมซอน เน้นความเป็นชิโนโปรตุกีส ซึ่งอันนี้เชื่อว่าคนไทยรู้จักกันดีอยู่แล้ว แล้วก็อยากจะแนะนำให้รู้จักประเพณีบาบ๋า ย่าย๋า มันคือวัฒนธรรมชุมชนที่ผสมผสานระหว่างมาเลย์กับจีน ที่นี่ยังคงมีอยู่อย่างเหนียวแน่น ผมเชื่อว่าคนไทยส่วนหนึ่งเท่านั้นที่รู้เรื่องเหล่านี้ แต่อีกส่วนอาจจะยังไม่เคยรู้มาก่อน ผมก็เลยอยากพามาเที่ยวที่นี่

เส้นทางที่ผมแนะนำนี้ ผมดูจาก 1. มันไม่ยากเกินไปสำหรับการเดินทาง 2. คนเริ่มรู้จักแล้ว แต่ยังรู้จักได้ไม่ดีเท่าที่ควร และ 3. กับประสบการณ์การเดินทางของผม ผมก็คิดว่าการมีวิทยากรทั้ง 3 คนมาเติมเต็ม จะช่วยให้คุณได้รู้จักอีกหนึ่งมุมมองของ 3 รูทนี้ ก็อาจจะเป็น 3 รูทที่น่าสนใจและน่าสนุกมากขึ้นกว่าทุกครั้งที่คุณเคยได้สัมผัสมาครับ


*ล้อมกรอบ*

งานวันธรรมดาน่าเที่ยว จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14 - 17 พฤษภาคม 2558 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายในงานพบกับบูธจากผู้ประกอบการโรงแรม ที่พัก สายการบิน บริษัทนำเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยวเข้าร่วมกว่า 400 แห่ง มอบส่วนลดสุดพิเศษลดราคาให้กับการเที่ยวในวันธรรมดากว่า 50% โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 5 โซน ได้แก่ โซนราคา 1,000 บาท, โซนราคา 2,000 บาท, โซนราคา 3,000 บาท, โซนราคา 4,000 บาท และโซนลักชูรี่

และมีโปรโมชั่นพิเศษ 'ร้อยเดียวก็เที่ยวได้' สำหรับผู้ที่ซื้อสินค้าท่องเที่ยวในงานครบ 5,000 บาท รับสิทธิ์แลกซื้อ Gift Voucher ในราคาเพียง 100 บาทเท่านั้น สามารถนำบัตร 100 บาทนี้ไปแลกที่พัก โรงแรม รีสอร์ต ระดับ 6 ดาว ได้มากมายหลายแห่ง รวมถึงตั๋วเครื่องบิน และบัตรเติมน้ำมันบางจากอีกด้วย

ขอบคุณภาพบางส่วนจาก : romkaraveak.khaokhoTatRayongOfficeชุมชนย่านเมืองเก่าภูเก็ตTourismPhuketศูนย์ประสานงานท่องเที่ยวพังงา