ชายชาวรัสเซียนาม เฟโอดอร์ โรมาเนนโก ชูแขนขึ้น “เพื่อนร่วมงานที่รัก” เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มซุกซนตามปกติ ก่อนจะพูดต่อเป็นภาษาฝรั่งเศสสำเนียงรัสเซีย “เพื่อนร่วมงานที่รัก” ไม่ใช่วลีภาษาอังกฤษเดียวที่เขารู้ แต่เห็นได้ชัดว่า นี่คือวลีโปรดที่เขาใช้ดึงความสนใจจากทีมงานหลากเชื้อชาติของเรา เพื่อนร่วมงานที่รัก ผมคิดว่าเราควรปีนขึ้นข้างบนกัน เขาบอกพลางชี้ไปยังเนินหินร่วนๆ ที่ลาดชัน เพื่อนร่วมงานที่รัก เขาคุยโอ่อย่างเริงร่าในที่ประชุมตอนเย็น วันนี้ทีมของผมค้นพบ ห้าสิ่งอัศจรรย์ เป็นบะซอลต์สองชนิด! ตะกอนจากมหายุคมีโซโซอิก! และหลักฐานการละลายละลายหมดไปของ ธารน้ำแข็ง (deglaciation) โรมาเนนโกเป็นนักธรณีสัณฐานวิทยาจากมหาวิทยาลัยมอสโกสเตท แม้จะออกสำรวจชายฝั่ง และหมู่เกาะต่างๆ ในอาร์กติกมาตลอด 28 ฤดูกาล เขาก็ยังกระตือรือร้นแบบเด็กๆ ขณะย่ำไปตามภูมิทัศน์หฤโหดของขั้วโลกเหนือ เขาเปล่งประกายแห่งความสุขที่แผ่ไปถึงคนอื่นในการทำงานภาคสนาม ซึ่งมีทั้งการสังเกตอย่างใกล้ชิด การมองหารูปแบบ และการเก็บข้อมูลที่อาจให้คำตอบเรื่องน้ำแข็งและปริศนาอื่นๆ

...


เรากับโรมาเนนโกขึ้นเหนือมายังเขตอาร์กติกตอนบนของรัสเซีย หรือกลุ่มเกาะฟรานซ์โจเฟซแลนด์ และถึงแม้น้ำแข็งจะไม่ใช่เป้าหมายหลักของเรา แต่คำถามเกี่ยวกับน้ำแข็งเป็นพื้นฐานของสิ่งที่เราตั้งใจมาศึกษา ซึ่งสรุปได้สามข้อ นั่นคือ ทำไมน้ำแข็งคงตัวจึงละลาย จะละลายมากแค่ไหน และจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างไรบ้าง การส่งทีมสำรวจทางชีววิทยามาศึกษาพื้นที่ตอนในใกล้ขั้วโลกทั้งเหนือ (อาร์กติก) และใต้ (แอนตาร์กติก) ในยุคของการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศเช่นนี้ คำถามเรื่องน้ำแข็งจึงมีความสำคัญเสมอไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม

เรากำลังหาคำตอบโดยใช้ทางอ้อม สมาชิกเกือบ 40 คนจากทีมสำรวจทะเลที่ปลอดจากมลพิษ (Pristine Seas Expedition) เมื่อปี 2013 ขึ้นเหนือจากเมืองมูร์มันสค์โดยข้ามทะเลแบเร็นตส์เพื่อมาศึกษากลุ่มเกาะอันห่างไกลนี้ผ่านศาสตร์หลากหลาย ทั้งพฤกษศาสตร์ จุลชีววิทยา มีนวิทยา ปักษีวิทยา และอื่นๆ ฟรานซ์โจเซฟแลนด์ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่ 192 เกาะ ในช่วงแรก ที่นี่ไม่มีชุมชนถาวรของมนุษย์อยู่เลยจนกระทั่งสหภาพโซเวียตเปิดสถานีวิจัยและฐานทัพบนเกาะ บางเกาะ ทว่าจำนวนคนก็ลดลงจนแทบไม่เหลือใครในทศวรรษ 1990 มาบัดนี้ การละลายที่เพิ่มขึ้น เส้นทางเดินทะเลใหม่ๆ และศักยภาพทางเศรษฐกิจ ทำให้รัฐบาลรัสเซียหันกลับมาสนใจพื้นที่นี้อีกครั้ง


เราลัดเลาะไปมาในกลุ่มเกาะนี้อยู่ร่วมเดือน แวะที่นั่นที่นี่ตามโอกาสและสภาพอากาศจะเอื้ออำนวย เข้าเทียบฝั่งเมื่อหมีขั้วโลกยินยอม ชื่นชมวอลรัส นางนวลสีงา และวาฬโบว์เฮด พลางเก็บข้อมูลในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งมีการเก็บข้อมูลไว้น้อยนัก


เราอยู่ทางเหนือของเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล 800 ไมล์ทะเล (1,481 กิโลเมตร) เรือ โพลาริส ของเราเป็นเรือท่องเที่ยวดัดแปลงที่เปลี่ยนตู้เสื้อผ้าเป็นห้องปฏิบัติการ มีกล้องจุลทรรศน์บนโต๊ะอาหาร อุปกรณ์ดำน้ำและชุดกันน้ำที่ปกป้องนักดำน้ำในอุณหภูมิลบหนึ่งองศาเซลเซียส กองเต็มห้องนั่งเล่น ทีมงานมีทั้งชาวรัสเซีย อเมริกัน สเปน อังกฤษ ออสเตรเลียหนึ่งและฝรั่งเศสสอง ทุกวันจะมีคนขึ้นฝั่งบนเกาะที่อยู่ใกล้จุดทอดสมอที่สุดเพื่อเดินสำรวจตามแนวตัดขวาง จับนก นับวอลรัส หรือเก็บตัวอย่างพืช ขณะที่บางคนดำน้ำเย็นเยียบเพื่อหาสาหร่าย สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ปลา และจุลชีพในทะเล การเดินสำรวจอาจกินเวลานาน แต่เราจะกลับมาที่เรือก่อนฟ้ามืดเสมอ เพราะฟ้าไม่เคยมืด ดวงตะวันไม่เคยตก ได้แต่วนไปมาอย่างลังเลบนท้องฟ้าขั้วโลกเหนือ การดำน้ำใช้เวลาสั้นๆ แต่หนาวสั่นสะท้าน


โรมาเนนโกสวมหมวกปิดหู เสื้อกั๊กสีเหลื่อมส้ม และกางเกงกันน้ำ เมื่อรวมกับปืนลูกซองในมือ เขาก็ดูเหมือนพรานผู้เป็นมิตรจากเมืองเล็กๆในรัฐมินเนโซตา อุปกรณ์สำคัญอีกอย่างของเขาคือพลั่ว คาเตรีนา คารันคีนา นักศึกษาปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยมอสโกสเตท ช่วยเขาวาดภาพธรณีสัณฐานของหมู่เกาะต่างๆ ไมเคิล เฟย์ นักพฤกษศาสตร์ ติดตามทีมนี้ขึ้นฝั่งเป็นประจำทุกวันเพราะเขาชอบเดินเหมือนโรมาเนนโก หนุ่มใหญ่วัย 58 ผู้นี้อาศัยอยู่ในกระท่อมที่อะแลสกาสลับกับการทำงานอนุรักษ์ให้รัฐบาลกาบอง เขาจะหาจังหวะออกท่องธรรมชาติเสมอๆ พรรณพืชในอาร์กติกเป็นเรื่องใหม่สำหรับเฟย์ก็ว่าได้ แต่บ่ายวันแรกที่ขึ้นฝั่งด้วยกันที่ฟรานซ์โจเฟซแลนด์ ผมเห็นเขาระบุพืชดอกร่วมโหลได้อย่างน้อยก็ในระดับสกุล

...


เก้าวันต่อมาที่เกาะเพเยอร์ เฟย์คุกเข่าลงอีกครั้ง หรี่ตา นับคาร์เพล (ดอกเพศเมีย) และกลีบดอก ถ่ายภาพ เขาจดชนิดพืชที่สำรวจใหม่ได้ 12 ชนิดในตอนที่โรมาเนนโกและการันคีนาเสร็จจากการวัดตะพักทะเล (marine terrace) เก่าแก่ที่ทอดตัวลงสู่ชายหาด

ฟรานซ์โจเฟซแลนด์เกิดการยกตัวหลายครั้งช่วงปลายสมัยไพลสโตซีนและในช่วง 1,000 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ตะพักทะเลในบางจุดของกลุ่มเกาะมีระดับความสูงกว่า 90 เมตร หมู่เกาะซึ่งอยู่ปลายเหนือสุดของแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียอยู่สูงเหนือน้ำขึ้นมา การยกตัวเหล่านั้นเกิดจากแรงธรณีแปรสัณฐาน และบางส่วนก็เกิดจากการที่น้ำแข็งหายไป เมื่อธารน้ำแข็งละลาย มวลของมันจะหายไป ทำให้น้ำหนักลดลง ส่งผลให้ลักษณะภูมิประเทศข้างใต้มีแนวโน้มที่จะดีดกลับเหมือนรอยยุบของเบาะที่คืนตัวยามผู้นั่งลุกขึ้น รูปลักษณ์ของภูมิทัศน์เหล่านี้ส่วนหนึ่งจึงเกิดจากการมีน้ำแข็งหรือไม่มีน้ำแข็ง เช่นเดียวกันกับรูปลักษณ์ของระบบนิเวศที่มันรองรับ

ตั้งแต่มาถึงเกาะเพเยอร์ ผมก็มัวตามดูดอกไม้และบันทึกหวัดๆ ของเฟย์ จนได้ยินเสียงโรมาเนนโกเรียกให้ดูหมี ขั้วโลกตัวใหญ่แข็งแรงที่เป็นเงาดำอยู่บนสันเขาทางตะวันตก มันดูไม่สนใจเรา แต่เรารู้ดีเกินกว่าจะสรุปเช่นนั้น เดนิส เมนนีคอฟ หนุ่มน้อยผู้รักษาความปลอดภัยของเรา ถือปืนลูกซองอัตโนมัติไซกา-12 พร้อมแผงกระสุนยาวเหยียด แต่การใช้อาวุธคือทางเลือกสุดท้ายของเรา น้ำแข็งที่หดหายส่งผลให้พวกหมีหากินลำบากเช่นกัน และนั่นอาจทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าวได้

เพื่อนร่วมงานที่รัก โปรดระวังตัวด้วย.

...

เรื่อง เดวิด ควาเมน ภาพถ่าย คอรี ริชาร์ดส์ นิตยสาร เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก