เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาว หลายคนคงจะนึกถึงต่างประเทศ หรือไม่ก็สถานที่บรรยากาศเย็นสบาย รับลมหนาวชิลๆ อย่างจังหวัดทางภาคเหนือ แต่จะดีกว่าไหมถ้าสถานที่เหล่านั้นมีหมอกสีขาวโพลน น้ำค้างเกาะ และทัศนียภาพสวยๆ ให้เราเก็บภาพความประทับใจกลับไปไม่รู้ลืม
วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ต้อนรับหน้าหนาวพาคุณไปสัมผัส สะท้านลมหนาวกันที่ยอดดอยทางเหนือ ซึ่งไม่เพียงแต่คุณจะสัมผัสหมอกจางๆ ในยามเช้า ตื่นตาตื่นใจกับวิวสวยๆ แล้ว แต่ยังได้พักผ่อนจิตใจ คลายสมอง ร่วมทั้งเก็บประสบการณ์ดีๆ ระหว่างทริปกลับไปด้วย
1. ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย
ยอดดอยที่นักท่องเที่ยวใฝ่ฝันจะมาปักหมุดสักครั้งในชีวิต โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาวยามเช้าที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม และหมอกปกคลุมไปทั่วในหุบเขาเบื้องล่าง ที่นี่ไม่เพียงแต่คุณจะได้สัมผัสอากาศหนาวเย็น และความสวยงามของทะเลหมอกแล้ว แต่ยังได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นผ่านพ้นทะเลหมอกแบบใกล้ชิดแค่เอื้อมที่สวยงามราวกับภาพวาดด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ได้มาต่างตื่นเช้าขึ้นมาชมทัศนียภาพ และถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกเป็นความประทับใจกลับไปไม่รู้ลืม ยิ่งถ้าเดินทางมาเที่ยวช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนมีนาคมด้วยแล้ว จะเป็นช่วงเวลาที่ดอกเสี้ยว หรือชงโคป่าจะผลิดอกสีขาวบานสะพรั่งเต็มเชิงเขาเลยล่ะ หากคุณเป็นนักเดินทางตัวยง ชอบถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจไม่ควรพลาด !!!
2. ม่อนกิ่วลม อุทยานแห่งชาติแม่เมย จังหวัดตาก
อีกหนึ่งความสวยงามที่พลาดไม่ได้ในหนาวนี้ ทะเลหมอกสีขาวโพลนอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราว 900 เมตร ด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม กล่าวขานกันปากต่อปากทำให้นักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลขึ้นมาชมไม่ขาดสาย บางคนถึงขนาดกางเต็นท์นอนรอชมพระอาทิตย์ขึ้นกันข้างบนเลยทีเดียว ความพิเศษของ 'ม่อนกิ่วลม' คือคุณสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้ทั้งสองทิศทาง นั่นคือทิศตะวันออกและทิศตะวันตก อีกทั้งยังเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกได้ด้วย ที่สำคัญที่สุดตัดปัญหาเรื่องการเดินทางขึ้นยอดดอยไปได้เลย เพราะที่นี่สามารถนำรถยนต์เข้าไปได้ เพื่อให้สะดวกต่อการเดินทางและปลอดภัยมากขึ้น ทั้งคนสูงอายุและเด็กต่างก็สามารถขึ้นชมความงามได้แบบไม่ต้องห่วงอันตราย
...
บรรยากาศรับลมหนาวแห่งขุนเขา แถมสะดวกในการเดินทางขนาดนี้ ลองไปยลโฉมดูสักครั้ง รับรองไม่ผิดหวัง
3. ดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่าน
ในยามค่ำคืนนั่งนับดาว ส่วนตอนเช้าตรู่ก็รับลมหนาวชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นแบบฟินๆ พอตกตอนเย็นก็มองเห็นพระอาทิตย์ตกใกล้ๆ เห็นทีคงจะไม่มีที่ไหนตอบโจทย์ช่วงวันหยุดยาวปลายปีได้ดีเท่าที่นี่อีกแล้ว แถมคุณยังสามารถลุค อะราวด์บรรยากาศรอบทิศทางได้แบบ 360 องศาด้วย (วิวจะดีอะไรขนาดนั้นนน) คุณจะเห็นวิวทิวทัศน์ทั้งหมดของแม่น้ำน่านที่ทอดยาวในหุบเขา และเห็นยอดผาชู้ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า จนอดไม่ได้ที่จะแชะภาพแชร์ในโซเซียลฯ เลยล่ะ และเชื่อสิ … ถ้าทริปนี้คุณมากับคนรัก คงจะไม่มีที่ไหนแฮปปี้ อบอุ่นปนโรแมนติกไปกว่านี้อีกแล้ว !!
4. ดอยม่อนเงาะ จังหวัดเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ไม่ว่าใครได้มาเป็นต้องประทับใจกับความสวยงามเกินบรรยาย และความอลังการแห่งขุนเขา แลนด์มาร์คของที่นี่คุณสามารถเห็นยอดดอยที่เรียงสลับและลดหลั่นกันไปไกลสุดลูกหูลูกตาได้อย่างชัดเจน โดยทางด้านทิศตะวันตกจะมองเห็นดอยอินทนนท์, ทางด้านทิศเหนือจะเป็นดอยฟ้าห่มปก และถัดมาด้านทิศตะวันออกจะเป็นดอยหลวงเชียงดาว และที่สำคัญในช่วงฤดูหนาวจะมีของขวัญที่สวยงามจากธรรมชาติ อย่างทะเลหมอกสีขาวโพลนลอยแผ่กระจายไปทั่วทั้งบริเวณ ซึ่งนักท่องเที่ยวที่ได้มาสัมผัสต่างการันตีสวยงามไม่แพ้ที่อื่นๆ แน่นอน ถ้าคุณอยากลองท้าทายความหนาว สัมผัสความงดงามราวกับมีช่างฝีมือมาแต่งแต้ม ที่นี่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน …
5. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่
จุดชมวิวที่สวยงาม และมีชื่อเสียงมากติดอันดับในด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะทะเลหมอกอันกว้างใหญ่คล้ายปุยนุ่นเรียงรายเป็นแนวยาว และทิวเขาอันสลับซับซ้อนที่มีดอยหลวงเชียงดาวที่สูงที่สุดอยู่ใจกลาง ความสวยงามอร่ามตาในทุกๆ หน้าหนาวนี้ ไม่ว่าใครได้มาต่างยกนิ้วให้เป็นเดอะเบสท์กันทั้งนั้น
ถ้าคุณอยากสัมผัสความหนาวสะท้านทรวง ขอแนะให้ลองมาในช่วงเดือนพฤศจิกายน - เดือนกุมภาพันธ์ ที่มีอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 9 องศาดูสิ ฟินแน่ !
6. ภูทับเบิก ยอดเขาที่สูงที่สุดใน จ.เพชรบูรณ์
ที่นี่ภาพเล่าเรื่องไทยรัฐออนไลน์ (ความงามในม่านหมอก 360 องศา ที่ภูทับเบิก) เคยพาไปยมความงามและความหนาวเย็น ภูทับเบิกถือเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน จ.เพชรบูรณ์ ระดับความสูง 1,768 จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี หนึ่งในสถานที่อันซีนไทยแลนด์
และทั้งหมดนี้ฤดูหนาวควรไปเยือน.