สายลมเย็นๆ ของฤดูหนาว ช่วยบรรเทาความร้อนของแสงแดดเจิดจ้ากลางทุ่งได้เป็นอย่างดี ช่างเหมาะเจาะกับการเดินทางแบบชิลๆ ไปเยือนทุ่งทานตะวันที่บานสะพรั่ง ท้าสายลมและแสงแดด ที่ อ.แก่งคอย สระบุรี...
ช่วงเวลาแห่งการรอคอยสิ้นสุดแล้ว!!! เมื่อดอกทานตะวันนับพัน นับหมื่น บานสะพรั่ง เหลืองอร่ามทั่วทั้งทุ่งให้ได้เชยชม ทุ่งทานตะวันเหลืองอร่ามนี้ตั้งอยู่กลางหุบเขาแห่งการผจญภัย อ.แก่งคอย
เมื่อก้าวสู่เขตรั้วของทุ่ง คุณจะสัมผัสได้ว่า ธรรมชาติได้มอบความสุขสุดวิเศษ เพื่อเป็นของขวัญต้อนรับเทศกาลปีใหม่ ดอกทานตะวันสีเหลืองสด และใหญ่กว่าฝ่ามือ พร้อมใจผลิบานทั้งทุ่งกลางหุบเขา ราวกับว่าดินแดนแห่งนี้ ไม่เคยพบเจอกับคำว่า โศกเศร้า เหงาหงอย ก็ว่าได้ ทั้งอากาศที่สดชื่นรื่นรมย์ และรอยยิ้มของผู้คนที่คอยต้อนรับอย่างอบอุ่น ช่างทำให้การเดินทางครั้งนี้น่าประทับใจยิ่งนัก
...
เที่ยวนี้ทีมข่าว "ไทยรัฐออนไลน์" เลือกโดยสารไปกับรถไฟไทยอีกครั้ง เราออกเดินทางจากหัวลำโพง ยังไม่ 7 โมงดี 3 ชั่วโมงพอดิบพอดี กิจกรรมบนรถทำให้เราไม่เหงา เพราะงานนี้ทาง จ.สระบุรี จำลองบรรยากาศแบบคันทรี ด้วยการแต่งตัวสไตล์คาวบอย มีดนตรีสดขับกล่อมตลอดเส้นทา
คณะทัวร์ให้เวลาเก็บภาพ 30 นาที ที่ทุ่งทานตะวัน แชะ แชะ แชะ!!! กัน จนหนำใจ แวะดื่มน้ำ ทานของว่าง OTOP สินค้าคุณภาพดี มีให้เลือกสรรมากมาย ในราคาที่รับได้ ทั้งเมล็ดทานตะวันคั่วเกลือ น้ำผึ้งทานตะวัน และอีกมากมาย
เวลา 30 นาทีผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว รถไฟขบวนพิเศษส่งเสียงหวูดเรียกให้ผู้โดยสารขึ้นรถ เพื่อเดินทางสู่ดินแดนต่อไป...ผู้โดยสารบางคนเคยมาแล้ว ด้วยความประทับใจอยากจะมาอีกครั้ง และในครั้งนี้ก็พิเศษกว่าครั้งก่อนๆ เพราะเป็นการเดินทางที่ รฟท. จัดขบวนรถพิเศษนี้เป็นครั้งแรก แถมจะได้สัมผัสกับอ่างเก็บน้ำผืนใหญ่อีกด้วย
คุณธัญลักษณ์ แสงแก้ว (ผู้โดยสาร) บอกว่า "ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ที่ได้เดินทางไปดูทุ่งทานตะวัน แต่ถือเป็นครั้งแรกที่เดินทางโดยรถไฟ ที่เลือกการเดินทางด้วยรถไฟครั้งนี้ เพราะอยากสัมผัสกับความรู้สึกตอนรถไฟจอดกลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์" เช่นเดียวกันกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่ร่วมเดินทางมากับขบวนรถไฟพิเศษเที่ยวนี้ เพราะอยากจะเห็นว่า รถไฟลอยน้ำนั้นเป็นอย่างไร
ระหว่างทางลัดเลาะผ่านผืนน้ำ และป่าเขา คุณจะพบเจอนกนานาชนิดที่คอยต้อนรับอยู่เป็นระยะ ให้คุณเพลิดเพลินจนลืมว่า เวลาได้ล่วงเลยมา 40 นาที
และแล้วภาพเบื้องหน้าที่สะดุดตา คือ ผืนน้ำขนาดใหญ่ที่ยาวไกลสุดลูกหูลูกตา แน่นอนว่า ถ้าพูดถึงเขื่อนน้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ต้องยกให้ อ่างเก็บน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ด้วยทิวทัศน์อันงดงาม ทำให้เจ้าหน้าที่ รฟท. ได้ส่งสัญญาณให้คนขับรถไฟหยุดขบวนรถกลางเขื่อน เสียงปรบมือได้ดังทั่วโบกี้ เพราะภาพที่ทุกคนบนขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษนี้เห็น คือ รถไฟกำลังจอดอยู่บนเขื่อนราวกับ "รถไฟลอยน้ำ" สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเด็กๆ ส่วนผู้ใหญ่ก็คว้ากล้องเพื่อบันทึกภาพที่แสนวิเศษนี้เอาไว้ ที่พิเศษยิ่งกว่านั้น คือ เส้นทางนี้มาได้เฉพาะทางรถไฟเท่านั้น ไม่มีทางให้รถยนต์วิ่งผ่านได้
...
จากนั้นขบวนรถไฟได้พาผู้โดยสารมาพักผ่อนรับประทานอาหาร ที่สถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ก่อนที่จะนำทุกคนเดินทางกลับ ในเวลา 14.20น. เย็นๆ ก็ถึงกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ เป็นอันจบอีกหนึ่งความประทับใจ!!
สำหรับผู้ที่สนใจอยากจะสัมผัสกับทิวทัศน์ในดินแดนมหัศจรรย์ จ.สระบุรี รีบจับจองได้แล้ว เพราะขบวนรถไฟเที่ยวพิเศษทุ่งทานตะวัน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์นี้ จะเหลือเพียง 5 เที่ยว เปิดให้บริการ ในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์นี้ ออกเดินทางจากสถานีหัวลำโพง สู่สถานีทิวทัศน์มหัศจรรย์ คิดค่าโดยสารคนละ 270 บาทเท่านั้น.
...