เมื่อการเดินทางท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้ง Gother แพลตฟอร์มจองทริปท่องเที่ยวออนไลน์ หรือ OTA (Online Travel Agent) ก็กลับมาทวีความดุเดือดอีกรอบ เมื่อผู้เล่นระดับโลกต่างทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดในประเทศไทย ท่ามกลางการแข่งขันนี้ กลับมีแพลตฟอร์มสัญชาติไทยอย่าง Gother (โกเธอร์) ที่ขอท้าชนยักษ์ใหญ่ด้วยอาวุธสำคัญที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง นั่นคือ ‘Service Mind’ ที่เข้าใจและเข้าถึงหัวใจของคนไทยอย่างแท้จริง Gother ได้นำเสนอตัวเองเป็นคำตอบสำหรับนักเดินทางที่มองหาบริการที่เข้าใจง่ายและเข้าถึงได้จริง

สมรภูมิ OTA ที่ยักษ์ใหญ่ครองตลาด แต่ช่องว่างสำหรับคนไทยยังคงอยู่

ตลาด OTA ในประเทศไทยเปรียบเสมือนสมรภูมิรบที่ดุเดือด ซึ่งผู้เล่นรายใหญ่ระดับโลกได้เข้ามาใช้ความได้เปรียบเพื่อครองส่วนแบ่งตลาด แต่ท่ามกลางการแข่งขันที่มุ่งเน้นสเกลขนาดใหญ่นี้เอง กลับเกิด ‘ช่องว่าง’ ที่สำคัญขึ้น เมื่อบริการบางอย่างไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการที่แท้จริงของคนไทย

ภาพรวมการแข่งขันที่ดุเดือดของตลาด OTA ในประเทศไทย

ความดุเดือดนี้สะท้อนผ่านการทุ่มงบประมาณมหาศาลด้านการตลาด การทำสงครามราคาด้วยโปรโมชันและส่วนลดอย่างต่อเนื่อง และการนำเสนอตัวเลือกบริการที่ครอบคลุมทั่วโลก สิ่งเหล่านี้สร้างมาตรฐานที่สูงและเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับผู้เล่นรายอื่น อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ที่เน้นปริมาณและเทคโนโลยีเหล่านี้ กลับเป็นดาบสองคมที่ก่อให้เกิดปัญหาตามมาสำหรับผู้ใช้งานชาวไทย

Pain Point ของเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าสวนทางกับบริการที่เข้าถึงยาก

แม้เทคโนโลยีจะช่วยให้การจองทุกอย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นจริง ๆ ประสบการณ์ของผู้ใช้กลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด นี่คือ Pain Point สำคัญที่นักท่องเที่ยวไทยต้องเผชิญ

  • กำแพงภาษาและการสื่อสาร : ปัญหาใหญ่ที่สุดคือการติดต่อฝ่ายบริการลูกค้า เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น การยกเลิกเที่ยวบิน หรือปัญหาการเข้าพัก ผู้ใช้มักต้องสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษ หรือต้องรอสายนานเพื่อคุยกับพนักงานที่อาจไม่เข้าใจบริบทของปัญหาอย่างลึกซึ้ง
  • การบริการด้วย Bot : แพลตฟอร์มจำนวนมากหันมาใช้ Chatbot เพื่อลดต้นทุน แต่บ่อยครั้งที่ Bot ไม่สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้งและไม่ได้รับการใส่ใจเท่าที่ควร
  • โปรโมชันที่ซับซ้อนและใช้ไม่ได้จริง : “ส่วนลด 10%” อาจฟังดูน่าสนใจ แต่กลับมีเงื่อนไขซ่อนอยู่มากมาย หรือมีโค้ดส่วนลดในจำนวนจำกัดเพียงไม่กี่สิทธิ์ สร้างความผิดหวังและทำลายความไว้วางใจของผู้บริโภค

ช่องว่างเหล่านี้เองที่ Gother มองเห็นและมุ่งมั่นที่จะเข้ามาเติมเต็ม ด้วยความเข้าใจในวัฒนธรรมและพฤติกรรมของคนไทยอย่างลึกซึ้ง

Gother คำตอบของ OTA ที่ ‘พูดภาษาเดียวกัน’ กับคนไทย

Gother ไม่ได้วางตำแหน่งตัวเองเป็นเพียงแพลตฟอร์ม OTA อีกรายในตลาด แต่คือ ‘เพื่อนร่วมทาง’ ที่พร้อมจะดูแลและแก้ไขปัญหาให้คนไทยในทุกทริปการเดินทาง ด้วยบริการที่โดดเด่นและแตกต่างแต่เข้าใจนักท่องเที่ยว

ทำไมการมีพนักงานคนไทยคอยช่วยเหลือ 24 ชม. จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ

หัวใจสำคัญที่ทำให้ Gother แตกต่างคือ การมีฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์คนไทยที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลก หรือเกิดปัญหาขึ้นในเวลาใด Gother รับประกันได้ว่าจะมี ‘คน’ ที่พูดภาษาเดียวกัน คอยรับฟังและประสานงานแก้ไขปัญหาให้อย่างทันท่วงที สิ่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่บริการเสริม แต่เป็นจุดเปลี่ยนที่สร้างความอุ่นใจและความเชื่อมั่นให้กับนักเดินทางชาวไทยได้อย่างอุ่นใจ เพราะการท่องเที่ยวควรจะเป็นเรื่องของการพักผ่อน ไม่ใช่การต้องมานั่งกังวลกับปัญหาที่ไม่มีใครช่วยแก้ไข

Gother ไม่ใช่แค่แก้ปัญหา แต่สร้างความเชื่อมั่น (Trust) ด้วยความโปร่งใส

นอกจากการบริการที่เข้าถึงง่าย Gother ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความไว้วางใจ (Trust) ผ่านความโปร่งใสและจริงใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในสมรภูมิ OTA ที่เต็มไปด้วยการแข่งขันด้านราคา

ทลายภาพจำแบบเดิมกับ ‘โค้ดส่วนลดที่ใช้ได้จริง’ และมีแจกอย่างต่อเนื่อง

Gother เข้าใจถึงความผิดหวังของผู้บริโภคที่ต้องเจอกับโปรโมชันซับซ้อน จึงสร้างมาตรฐานใหม่ที่เน้นความโปร่งใสและจริงใจ เริ่มตั้งแต่การนำเสนอราคาที่ดี ไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง ไปจนถึงโปรโมชันที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การเดินทาง และที่สำคัญที่สุดคือการทลายภาพจำเดิม ๆ ด้วย ‘โค้ดส่วนลดที่ใช้ได้จริง’ เพื่อมอบความคุ้มค่าเพิ่มเติมจากราคาที่ดีอยู่แล้ว ให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดในทุกการเดินทาง

กลยุทธ์เติบโตที่แตกต่างในการเข้าไปอยู่ Ecosystem ของธนาคารชั้นนำ

Gother ไม่ได้เติบโตอย่างโดดเดี่ยว แต่เลือกที่จะสร้างความแข็งแกร่งผ่านการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งใน Ecosystem ของธนาคารชั้นนำของประเทศ โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้ลงทุนรายใหญ่อย่าง บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล (บีคอน วีซี) และกรุงไทย เวนเจอร์ส (Krungthai Ventures)

การร่วมมือนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและจองบริการของ Gother ได้โดยตรงผ่านแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งที่คุ้นเคยอย่าง K PLUS, Krungthai NEXT และเป๋าตัง ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการชำระเงิน แต่ยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือที่แข็งแกร่ง และมอบส่วนลดพิเศษที่มากกว่าการจองผ่านช่องทางปกติอีกด้วย

ก้าวต่อไปของ Gother ในการเป็น ‘OTA ที่รู้ใจคนไทยมากที่สุด’

เมื่อเทียบกับปีก่อน Gother เติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยยอดการจองผ่านแพลตฟอร์มที่เพิ่มขึ้นถึง 579% และจำนวนผู้ใช้งานที่ขยายตัวกว่า 514% ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าแนวทางที่มุ่งเน้น ความเข้าใจผู้บริโภคชาวไทย ของ Gother นั้นเดินมาถูกทางแล้ว

สำหรับก้าวต่อไป Gother ตั้งเป้าที่จะยกระดับสู่การเป็น 1 ใน 3 แพลตฟอร์มบริการท่องเที่ยวชั้นนำของประเทศไทยภายในปี 2570 พร้อมตั้งเป้าสร้างยอดจองรวมกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตไปอีกขั้น

โดยจะขับเคลื่อนผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก คือ

  • พัฒนาช่องทางบริการที่หลากหลาย : ครอบคลุมทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และบนแพลตฟอร์มของพาร์ทเนอร์ธนาคาร
  • ใช้เทคโนโลยี AI : เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและนำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคลให้ดียิ่งขึ้น
  • ขยายเครือข่ายพันธมิตร : เพิ่มความหลากหลายของบริการ ทั้งตั๋วเครื่องบิน ที่พัก กิจกรรม รถเช่า และแพ็กเกจทัวร์ในราคาที่เข้าถึงได้

Gother พิสูจน์แล้วว่าในสมรภูมิ OTA ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี หัวใจสำคัญที่สุดคือ ‘Service Mind’ ที่เข้าใจคนไทยอย่างแท้จริง Gother จึงไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มสัญชาติไทยที่เข้ามาแข่งขัน แต่ได้สร้างมาตรฐานใหม่ด้วยหัวใจของบริการที่เข้าใจคนไทยอย่างแท้จริง ทั้งการมีคนคอยช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง และความโปร่งใสที่จับต้องได้ นี่จึงไม่ใช่แค่แอปพลิเคชันสำหรับจองการเดินทาง แต่คือเพื่อนร่วมทางที่พร้อมมอบความอุ่นใจ เพื่อให้ทุกทริปของคนไทยเป็นการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง