ปฏิเสธไม่ได้ว่า “สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย” นั้นเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตของนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างชาติ เพราะนอกจากจะมีวิวสวยๆ ให้ชมแล้ว ยังมีทั้งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อาหารท้องถิ่นรสเด็ด สามารถสัมผัสวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ได้ง่ายๆ อีกทั้งบางสถานที่ท่องเที่ยวยังเดินสะดวก ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ได้พักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดแล้ว
บทความนี้ ไทยรัฐออนไลน์คัด 20 สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยยอดฮิตครบทุกภาคมาฝาก ไม่ว่าจะเที่ยวกับแก๊งเพื่อน ครอบครัว หรือกับหวานใจ ทริปไหนก็สนุก
20 สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย 2568 สวย เที่ยวสนุก ห้ามพลาด
1. พระบรมมหาราชวังและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร
เริ่มต้นด้วยสถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานครยอดฮิตอย่าง “วัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง” นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ รวมไปถึงได้ชมสถาปัตยกรรมอันสวยงามอีกด้วย สำหรับคนไทยที่สนใจเข้าชม เพียงแสดงบัตรประชาชนสามารถเข้าชมได้ฟรี ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคิดค่าเข้าชม 500 บาท ทั้งนี้ แนะนำให้แต่งกายอย่างสุภาพ
2. เยาวราช กรุงเทพมหานคร
หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานครยามค่ำคืน เยาวราชก็อาจจะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่อยู่ในใจของใครหลายๆ คน ด้วยเสน่ห์ของวิถีชีวิตชุมชนชาวจีน แสง สี และสตรีทฟู้ดรสเด็ดหลากหลายเมนู เพียงเท่านี้ก็กลายเป็นอีกหนึ่งพิกัดที่เที่ยวของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ
3. ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่
“ดอยอินทนนท์” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ยอดฮิต ซึ่งนับเป็นยอดเขาสูงสุดของประเทศไทย สูงจากน้ำทะเลกว่า 2,565 เมตร ซึ่งนอกจากจะชมวิวสวยๆ บนยอดดอยแล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็นกิ่วแม่ปาน ผาแง่ม ไร่ชา ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย หรือห้วยกุ๊บกั๊บ ก็สัมผัสธรรมชาติฟินๆ ได้ไม่แพ้กัน
...

4. วัดพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่
วัดพระธาตุดอยสุเทพสร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.1926 สมัยของพระญากือนามหาราช โดยมีการอัญเชิญพระธาตุมาประดิษฐานไว้ จากนั้นสร้างองค์เจดีย์ครอบ พร้อมกับสร้างอุโบสถ และบันไดนาค กลายเป็นอีกหนึ่งวัดดังที่หลายๆ คนเดินทางมากราบไหว้ขอพร
5. เมืองพัทยา จ.ชลบุรี
“เมืองพัทยา” เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว จ.ชลบุรี ที่ได้รับความนิยมตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นการนั่งชมวิวริมทะเล เที่ยวและเรียนรู้พันธุ์ปลาในอควาเรียม ชมสถาปัตยกรรมที่งดงามในปราสาทสัจธรรม เอาใจเด็กๆ ให้ผจญภัยในสวนนงนุชพัทยา สามารถเลือกเที่ยวได้รับรองว่าสนุกครบทุกรูปแบบ
6. บางแสน จ.ชลบุรี
หากใครมีเวลาน้อย แต่ต้องการพักผ่อนหย่อนชิลๆ แนะนำที่เที่ยวบางแสน เนื่องจากอยู่ไม่ไกลเมืองกรุงมากนัก เดินทางง่าย ที่สำคัญมีที่เที่ยวหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำบางแสน นั่งจิบเครื่องดื่มที่คาเฟ่ ชิมและช็อปของฝากที่ตลาดหนองมน หรือจะนั่งชมวิวชิลๆ ริมชายหาดก็ฟินไม่แพ้กัน
7. สะพานข้ามแม่น้ำแคว จ.กาญจนบุรี
กาญจนบุรีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่หลายๆ คนชื่นชอบ เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายรูปแบบ โดยหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิต ได้แก่ สะพานข้ามแม่น้ำแคว เนื่องจากเป็นสะพานเก่าแก่ สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความสวยงามของวิวรอบข้าง ไม่ว่านักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติก็ต้องมาเยือนสักครั้ง

8. พิพิธภัณฑ์สิรินธร จ.กาฬสินธุ์
ต่อเนื่องกันกับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยทางฝั่งภาคอีสาน อย่าง “พิพิธภัณฑ์สิรินธร” ที่เป็นศูนย์วิจัยและศึกษาเกี่ยวกับไดโนเสาร์ โดยมีการพบโครงกระดูกไดโนเสาร์มากกว่า 7 ตัว จำนวนกระดูกมากกว่า 700 ชิ้น ปัจจุบันได้เปิดบริการให้เข้าชมได้เกี่ยวกับไดโนเสาร์ วิวัฒนาการของมนุษย์ และอื่นๆ แบบเต็มรูปแบบ
9. แหลมพรหมเทพ จ.ภูเก็ต
“แหลมพรหมเทพ” นับเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง นักท่องเที่ยวสามารถนั่งชมวิวพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในบรรยากาศยามเย็นได้แบบสุดลูกหูลูกตา ส่วนใครที่อยากเดินสำรวจ ก็สามารถเดินไปได้ถึงปลายแหลมไปจนถึงบริเวณด้านล่าง
...
10. ตึกชิโนโปรตุกีส เมืองเก่าภูเก็ต จ.ภูเก็ต
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว จ.ภูเก็ตยอดฮิต คือ ตึกเมืองเก่าที่กลายเป็นเสมือนแลนด์มาร์คให้ถ่ายรูป เก็บภาพความประทับใจ และย้อนรอยประวัติศาสตร์ผ่านสถาปัตยกรรมแบบชิโน-ยูโรเปียน ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมจีนและยุโรป อายุกว่า 100 ปีเลยทีเดียว
11. ไร่ชาฉุยฟง จ.เชียงราย
ไร่ชาฉุยฟงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในประเทศไทยในภาคเหนือ นักท่องเที่ยวสามารถเก็บชาท่ามกลางบรรยากาศดีๆ รายล้อมไปด้วยภูเขาลูกน้อยใหญ่ และไร่ชาเป็นแนวยาว นอกจากจะได้ถ่ายภาพสวยๆ แล้ว ยังแวะจิบชาพร้อมชมวิวบริเวณคาเฟ่ใกล้ๆ ได้อีกด้วย

12. น้ำตกเอราวัณ จ.กาญจนบุรี
ฤดูร้อนนี้หากใครยังไม่มีแพลนไปไหน แนะนำที่เที่ยวใกล้กรุงอย่าง “น้ำตกเอราวัณ” ให้นักท่องเที่ยวได้มาเล่นน้ำ นั่งปิกนิกรับไอเย็นกันได้ โดยน้ำตกที่นี่มีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นก็มีจุดเด่นและความงามแตกต่างกันออกไป โดยบริเวณอุทยานฯ ยังสามารถกางเต็นท์ค้างคืนได้อีกด้วย
...
13. เกาะกูด จ.ตราด
หากพูดถึงเกาะที่มีความสวยงาม และเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ก็อาจจะมีชื่อเกาะกูดติดอันดับอยู่บ้าง เพราะที่นี่มีจุดเด่นคือ หาดทรายสีขาวสะอาด น้ำทะเลใส เหมาะแก่การมาพักผ่อนหย่อนใจชิลๆ ท่ามกลางธรรมชาติ
14. เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
เขาค้อ เป็นอำเภอหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ ตั้งอยู่บนเขาสูงและได้รับอิทธิพลจากมรสุมทางตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี ที่สำคัญมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นพระตำหนักเขาค้อ วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ทุ่งกังหันลม หรือพิพิธภัณฑ์อาวุธ นักท่องเที่ยวหลายๆ คนจึงเดินทางมาเที่ยวกันอย่างไม่ขาดสาย
15. เชียงคาน จ.เลย
หากใครที่ชื่นชอบการเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ สัมผัสวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ แนะนำ อ.เชียงคาน จ.เลย เนื่องจากที่นี่เต็มไปด้วยที่เที่ยวชิลๆ เช่น ถนนคนเดินเชียงคาน สกายวอล์คเชียงคาน แก่งคุดคู้ รวมไปถึงที่เที่ยวธรรมชาติชื่อดังอย่างภูทอก นอกจากจะได้เพลิดเพลินไปกับวิถีชีวิตคนเชียงคาน ยังได้ชมวิวธรรมชาติสวยๆ อีกด้วย

...
16. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ถึง 4 จังหวัด เป็นหนึ่งในพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ และอุทยานมรดกแห่งอาเซียน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ สัตว์ป่าหลากชนิด รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตที่หายาก นอกจากนี้ยังมีน้ำตกและวิวธรรมชาติสวยๆ รอให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัสอีกด้วย
17. หมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราช
หมู่บ้านคีรีวง ตั้งอยู่ใน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช จุดเด่นของสถานที่แห่งนี้คือ ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม อากาศที่บริสุทธิ์ และวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของคนในพื้นที่ ใครที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ แนะนำให้มาเช็กอินที่หมู่บ้านคีรีวง รับรองว่าจะติดใจ
18. บางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เมืองกรุงฯ ที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากที่นี่เป็นพื้นที่สีเขียวจนกลายเป็นแหล่งผลิตโอโซนระดับโลก ล้อมรอบไปด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา อีกทั้งยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเดินเที่ยวตลาดบางน้ำผึ้ง นั่งจิบกาแฟชิลๆ หรือไหว้พระขอพรหลวงพ่อใหญ่ วัดบางน้ำผึ้งนอก

19. สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
สวนผึ้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ได้รับความนิยมทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่นี่ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ บรรยากาศเย็นสบาย อีกทั้งมีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบให้เลือกทำ เช่น แคมป์ปิ้งที่เขากระโจม เรียนรู้การทำเทียนที่บ้านเทียนหอม หรือจะเดินช็อป ชิมอาหารพื้นเมืองที่ตลาดโอ๊ะป่อยก็สนุกไม่แพ้กัน
20. หินสามวาฬ จ.บึงกาฬ
ปิดท้ายที่เที่ยวสวยๆ กับหินสามวาฬ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อนุรักษ์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู จ.บึงกาฬ ในบริเวณนี้จะมีก้อนหินรูปทรงต่างๆ อยู่ทั่วพื้นที่ โดยไฮไลท์เด็ดคือ หินขนาดใหญ่ติดหน้าผาสูง 3 ก้อนลักษณะคล้ายวาฬ นักท่องเที่ยวสามาถชมวิวธรรมชาติได้อย่างจุใจ
20 สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยในข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ในประเทศไทยยังมีที่เที่ยวสวยๆ อีกหลายแห่ง หากใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ แนะนำให้จากไลฟ์สไตล์ของตนเองหรือเพื่อนร่วมทริป รับรองว่าสนุก ฟิน ไม่ผิดหวังแน่นอน