เที่ยวงานวันลอยกระทง ที่ไอคอนสยาม ในปี 2566 นี้ มีไฮไลต์ที่น่าสนใจ คือ งานนิทรรศการกระทงนานาชาติ ภายใต้แนวคิด “Eternity in Bloom” กระทงรักษ์โลก ที่นอกจากทำจากวัสดุรีไซเคิล และทำจากธรรมชาติแล้ว ยังมีความหมายของแต่ละประเทศที่น่าสนใจอีกด้วย


การจัดงานลอยกระทง 2566 ที่ไอคอนสยาม ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ ไอคอนสยามได้ร่วมกับสถานเอกอัครราชทูต 16 ประเทศ นำเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมของแต่ละประเทศมาสร้างสรรค์ภายใต้แนวคิด “Eternity in Bloom” หรือความเบ่งบานไม่มีที่สิ้นสุด โดยนำกระทงที่ประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ เป็นความงดงามอย่างยั่งยืนและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ประดิษฐ์ขึ้นมาจากวัสดุรีไซเคิลและวัสดุธรรมชาติที่สามารถย่อยสลายได้ เช่น กระดาษที่ทำจากชานอ้อย เปลือกข้าวโพด ลำต้นของผักตบชวา และพลาสติกชีวภาพที่ทำจากผลผลิตทางการเกษตร มาแสดงให้ชมอย่างสวยงาม 

กระทงเหล่านี้เป็นผลงานของนักศึกษาจาก 7 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาลัยเพาะช่าง โดยมีรายละเอียดลวดลาย และความหมายจากแต่ละประเทศที่น่าสนใจ ดังนี้ 

...

  • กระทง “มังกรจี้เซียง” จากสาธารณรัฐประชาชนจีน สื่อความหมายความเป็นสิริมงคล ซึ่ง “มังกรจี้เซียง” เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจอันทรงพลัง โชคลาภและสิริมงคลควบคู่กับ ดอกโบตั๋น “ราชาแห่งมวลบุปผา” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเกียรติยศ ความมั่งคั่ง และชนชั้นสูง ตลอดจนความรัก ความเสน่หา และความงดงามของสตรีเพศ เป็นตัวแทนของความปรารถนาดี  

  • กระทง “เมืองแห่งแสงสว่าง” จากประเทศฝรั่งเศส สะท้อนถึงมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่ปารีส 2024 ที่เน้นพิธีเปิดบริเวณริมแม่น้ำแซน เริ่มต้นที่มหาวิหารน็อทร์-ดาม และยังมีสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของปารีสหลายแห่ง เช่น หอไอเฟล สะพานอเล็กซานเดอร์ที่ 3  

  • กระทง “นกยูง” จากประเทศอินเดีย แสดงความถึงความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณอันลึกซึ้งระหว่างประเทศอินเดียและประเทศไทย ซึ่งทั้งสองวัฒนธรรมมีการแสดงความเคารพต่อแม่น้ำและแหล่งน้ำเพื่อการดำรงชีวิต ซึ่งนกยูงเป็นสัญลักษณ์การตื่นรู้ทางจิตวิญญาณ เกี่ยวข้องกับความศักดิ์สิทธิ์ เฉดสีอันเจิดจ้าของขนนกยูงเป็นการแสดงความเคารพต่อจิตวิญญาณของ “เทศกาลโฮลี” ซึ่งเป็นเทศกาลแห่งสีสันตั้งอยู่บน Rangoli หรือ “แถวของสี” ที่วาดกันในช่วงเทศกาลดิวาลี เพื่อต้อนรับเทพีแห่งความเจริญรุ่งเรือง ปกติแล้วช่วงเวลานี้ของปีเป็นช่วงเวลาที่ทั้งสองวัฒนธรรมต่างแสดงความเคารพต่อบรรพบุรุษ และสุดท้ายคือดอกทิวลิปเป็นตัวแทนของการต่ออายุและต่อเนื่องของชีวิต  

  • กระทงที่จำลอง “วิหาร อูลุน ดานู เบอราตัน (ปูรา บราตัน)” อินโดนีเซีย เป็นวัดในศาสนาฮินดูแห่งไศวนิกายที่สำคัญในบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลสาบบราตันในภูเขาใกล้กับพื้นที่ภูเขาทะเลสาบเบดูกุล ใช้สำหรับถวายเครื่องสักการะและพิธีกรรมที่อุทิศให้กับเทพเจ้า Dewi Danu หรือเทพเจ้าแห่งแม่น้ำ ทะเลสาบ และแม่น้ำบาหลี และทะเลสาบบราตัน ทำหน้าที่เป็นแหล่งชลประทานหลักในเกาะบาหลีตอนกลาง ช่วยให้นาข้าวและสวน ทั่วทั้งหมู่บ้านเบดูกุล มีความอุดมสมบูรณ์  

...

  • กระทงที่แสดงถึง “แก่นแท้ของเวนิส” อิตาลี การผสมผสานองค์ประกอบต่างๆ เข้าด้วยกันอย่างประณีตเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ เกี่ยวกับการออกแบบทางด้านอุตสาหกรรมอันน่าทึ่ง และเพื่อแสดงแก่นแท้ของเวนิส ซึ่งถ่ายทอดออกมาผ่านดอกไม้และเก้าอี้นีโม ที่มีรูปร่างเหมือนหน้ากากเวนิสอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศอิตาลีองค์ประกอบการออกแบบเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงการแสดงออกทางศิลปะเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของ Italia Geniale ซึ่งเป็นอัจฉริยะด้านการสร้างสรรค์ของอิตาลี  

...

  • กระทง กระเรียนกระดาษ (โอริสุรุ) และสันติภาพ ประเทศญี่ปุ่น เป็นหนึ่งรูปแบบในการพับกระดาษโอริงามิวัฒนธรรมประเพณีดั้งเดิมของญี่ปุ่น การพับนกกระเรียนจำนวนหนึ่งแล้วนำมาร้อยเรียงกันเรียกว่า “นกกระเรียนพันตัว (เซมบะสุรุ)” ซึ่งจะทำขึ้นเมื่อต้องการขอพรในเรื่องต่างๆ โดยแนวคิดการออกแบบกระทงโอริงามินกกระเรียน 2 ตัวนี้ แสดงถึงมิตรภาพความสัมพันธ์ไทย-ญี่ปุ่นและสันติภาพโลก  

  • พระโพธิสัตว์ในท่านั่งครุ่นคิด ประเทศเกาหลี นำความเชื่อทางด้านพระพุทธศาสนามาประยุกต์ในการประดิษฐ์กระทง โดยนำท่วงท่าจากพระโพธิสัตว์ในท่านั่งครุ่นคิด มีต้นกำเนิดมาจากรูปภาพของเจ้าชายสิทธัตถะนั่งสมาธิเกี่ยวกับธรรมชาติของชีวิตมนุษย์ก่อนจะเสด็จออกจากวัง 

...

  • กระทงจากเม็กซิโก อันเป็นประเพณีที่ถูกจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่ผู้วายชนม์ แท่นบูชานี้มีจุดประสงค์เพื่อต้อนรับการกลับมาอีกครั้งของผู้วายชนม์อันเป็นที่รัก โดยมีสิ่งของสำคัญ 8 อย่างที่ใช้ในการจัดแท่นบูชา เกลือ น้ำ เทียน ดอกไม้ ขนมปังแห่งความตาย กระดาษฉลุลาย อาหาร ภาพถ่ายหรือภาพเหมือน  

  • กระทงที่สะท้อนถึงประเทศเนเธอร์แลนด์ เมืองที่ดีต่อสุขภาพเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บอกเล่าเรื่องราวผ่านวิสัยทัศน์ของสภาพแวดล้อมในประเทศ เช่น การปั่นจักรยานเป็นนวัตกรรมที่เป็นมากกว่ารูปแบบการเดินทาง เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตในเมือง ทั้งยังเป็นมิตรกับโลกใบนี้และบรรดาผู้คน  

  • กระทงที่แสดงถึง “ความร่ำรวยทางวัฒนธรรม” ของประเทศเปรู โดยรวบรวมเอกลักษณ์สำคัญ ได้แก่ ดอกเรตามา สัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และการฟื้นฟูที่เจริญรุ่งเรือง เรตาบโล งานฝีมืออันน่าทึ่งของช่างฝีมือที่ประดิษฐ์กล่องอย่าง ชำนาญ ทั้งฉากทางศาสนา การเต้นรำแบบดั้งเดิม การเฉลิมฉลอง ชีวิตประจำวัน รวมทั้งฉากงานเกษตรกรรม และยังมี โตริโต เด ปูการ่า ซึ่งเป็นวัวกระทิงเซรามิกอันเป็นเอกลักษณ์ แสดงการปกปักรักษา ความอุดมสมบูรณ์ และความสุข การรวมสิ่งเหล่านี้ไว้ในกระทง แสดงถึงความปรารถนาอันแรงกล้าในการสร้างอนาคตอันรุ่งโรจน์และความสามัคคี เพื่อกระชับความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนระหว่างเปรูและไทย  

  • กระทงสะท้อนเอกลักษณ์ของประเทศโปรตุเกส รวบรวมองค์ประกอบต่างๆ ที่สะท้อนถึงรูปแบบศิลปะและความหมาย โดยมีองค์ประกอบที่สร้างสรรค์อยู่บนกระทงไว้ดังนี้ 

- The Portuguese guitar เป็นเครื่องสาย มีความหมายว่าโชคชะตา

- The Heart of Viana เป็นอัญมณีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งมีความงดงามเป็นพิเศษ และเหนือกาลเวลา 

- Andorinhas เป็นนกนางแอ่นเซรามิก สัญลักษณ์ของความโชคดี ความรัก และความซื่อสัตย์ 

- Azulejo คือ แผ่นเซรามิกที่มีรูปร่างเป็นสีเหลี่ยมจัตุรัส 

- Portuguese pavement เป็นทางเท้าแบบดั้งเดิมมีลักษณะหินแบนเล็กๆ เรียงกันเป็นลวดลายหรือรูปภาพ คล้ายโมเสก 

- Lencos dos Namorados ผ้าเช็ดหน้าคู่รัก Pena Palace พระราชวังเปนา ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก 

- Red carnation คือ ดอกไม้ที่สะท้อนถึงเหตุการณ์ปฏิวัติคาร์เนชั่น เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการปฏิวัติเพื่อสันติ 

  • กระทง “สุสานของบุตรแห่งคูซา” ซาอุดีอาระเบีย หรือ ปราสาทแห่งความเดียวดาย เป็นสุสานหินที่สลักจากภูเขาหินทรายทั้งลูก โดดเด่นตั้งตระหง่านอยู่ ณ เมืองโบราณ เฮกรา โดยการสร้างสุสานนี้ใช้เทคนิคการสกัดจากหินจากบนล่าง เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมของประเทศที่เป็นแลนด์มาร์กการท่องเที่ยว ได้รับการรับรองจากยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งแรกในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย 
  • กระทงที่สื่อถึง ความร่วมมือของไทยและสวิตเซอร์แลนด์ผ่าน E-Bus Switzerland เป็นการผสมผสานรถบัสไฟฟ้า E-Bus สีน้ำเงินที่มีชื่อเสียงของกรุงเทพฯ กำลังเคลื่อนที่ในภูมิประเทศของสวิสเซอร์แลนด์ถัดจาก “Postauto” แบบดั้งเดิมของสวิตเซอร์แลนด์มันอยู่บนถนนที่คดเคี้ยวท่ามกลางเทือกเขาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในรูปแบบที่ยั่งยืน และเป็นนวัตกรรม ทำหน้าที่ในเชิงสัญลักษณ์ถึงความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม พร้อมแสดงให้เห็นว่าทั้ง 2 ประเทศเล็งเห็นถึงความห่วงใยและใส่ใจสภาพภูมิอากาศ  

  • กระทงสัญลักษณ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แห่งสหราชอาณาจักร เป็นการนำตราสัญลักษณ์ ที่รวบรวมดอกไม้ประจำชาติจาก 4 ชาติ ของสหราชอาณาจักรเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ ดอกกุหลาบของอังกฤษ ดอกทริสเติลของสกอตแลนด์ ดอกแดฟโฟดิลของเวลส์ และแซมรอคจากนอร์ทเทิร์น ไอร์แลนด์ ร้อยเรียงเป็นหนึ่งภายใต้มงกุฎเซนต์เอ็ดเวิร์ด อันเป็นมงกุฎที่ทรงสวมระหว่างพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  

  • กระทงแห่งการ “ขอบคุณ” ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องในโอกาสวันขอบคุณพระเจ้าและครบรอบ 190 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย  

  • การเต้นรำโคม Luc Cung Hoa Dang คือการออกแบบกระทงของประเทศเวียดนาม เป็นท่าเต้นของราชวงศ์ Nha Nhac ที่ UNESCO ประกาศให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และถือเป็นผลงานชิ้นเอกของประเพณีมุขปาฐะ ของมนุษยชาติ (2003)                                     

งานนิทรรศการกระทงนานาชาติ 16 ประเทศนี้ เปิดให้ชมความงามในช่วงเทศกาลลอยกระทงตั้งแต่วันที่ 22-27 พฤศจิกายน 2566