เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด (Dark Sky Park) คืออะไร มีผลดีอย่างไรต่อระบบนิเวศ และในประเทศไทยมีพื้นที่ไหนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดบ้าง

เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด คืออะไร

เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด (Dark Sky Park) คือ พื้นที่สาธารณะ หรือพื้นที่ส่วนบุคคลที่มีความมืดของท้องฟ้าในเวลากลางคืนอยู่ในระดับที่สามารถสังเกตเห็นวัตถุบนท้องฟ้า เช่น ดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ กลุ่มดาว หรือทางช้างเผือกได้ด้วยตาเปล่า โดยการใช้แสงสว่างอย่างเหมาะสม ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะทางแสง (Light Pollution) ที่ส่งผลต่อระบบนิเวศ และการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์

ผลกระทบจากมลภาวะทางแสง 

มลภาวะทางแสง (Light Pollution) เป็นแสงสว่างที่ปรากฏให้เห็นในเวลากลางคืนซึ่งเป็นผลจากการติดตั้งแหล่งกำเนิดแสงโดยไม่ได้ควบคุมปริมาณ และทิศทางให้เหมาะสมกับการใช้งาน แสงเหล่านี้จึงส่องไปบนท้องฟ้าแทนที่จะเจาะจงไปยังบริเวณที่ต้องการ ทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนไม่มืดสนิทอย่างที่ควรจะเป็น เกิดความสิ้นเปลืองพลังงาน และส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของการดำรงชีวิตต่างๆ

ในช่วงแรกมลภาวะทางแสงสร้างความเดือดร้อนกับนักดาราศาสตร์ เพราะทำให้การดูดาวเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่เมื่อมีการขยายตัวของเมืองมากขึ้น ทำให้มลภาวะทางแสงเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อหลายชีวิตบนโลกทั้งมนุษย์ และสัตว์ เช่น พฤติกรรมการหากิน อพยพ และผสมพันธุ์ของสัตว์เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงทำให้นาฬิกาชีวิตของมนุษย์คลาดเคลื่อนไปจากปกติ ส่งผลต่อระบบต่างๆ ภายในร่างกายอีกด้วย

เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รณรงค์ให้ประชาชนใช้แสงสว่างให้เกิดประโยชน์สูงสุดและส่งผลเสียน้อยที่สุด เพื่ออนุรักษ์ท้องฟ้ายามค่ำคืนภายใต้ชื่อ “Dark Sky in Thailand” หรือ “เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย” โดยมีเงื่อนไขว่าสถานที่นั้นต้องสามารถสังเกตเห็นดวงดาวในเวลากลางคืนได้อย่างชัดเจน ซึ่งในประเทศไทยมีทั้งอุทยานท้องฟ้ามืด ชุมชนอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ส่วนบุคคล เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในพื้นที่ชานเมือง โดยสามารถจัดบริการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ กิจกรรมดาราศาสตร์ และการให้ความรู้ด้านการอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด ทำให้เกิดการจ้างงาน และเพิ่มรายได้ให้กับคนในชุมชน

...

เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดทำให้สามารถมองเห็นทางช้างเผือกที่มีดาวสว่างบนท้องฟ้าสีครามในเวลากลางคืนที่อุทยานแห่งชาติจังหวัดชัยภูมิ ภาพจาก iStock
เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดทำให้สามารถมองเห็นทางช้างเผือกที่มีดาวสว่างบนท้องฟ้าสีครามในเวลากลางคืนที่อุทยานแห่งชาติจังหวัดชัยภูมิ ภาพจาก iStock

ในปี 2565 ที่ผ่านมา มีสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย จำนวน 12 แห่ง ประกอบด้วย

  1. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่ ประเภท อุทยานท้องฟ้ามืด
  2. อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี ประเภท อุทยานท้องฟ้ามืด
  3. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว-ทุ่งกระมัง จังหวัดชัยภูมิ ประเภท อุทยานท้องฟ้ามืด
  4. อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ ประเภท อุทยานท้องฟ้ามืด
  5. อุทยานแห่งชาติภูแลนคา จังหวัดชัยภูมิ ประเภท อุทยานท้องฟ้ามืด
  6. ชุมชนออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ประเภท ชุมชนอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด
  7. ไร่องุ่นไวน์ อัลซิดินี่ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ประเภท เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล
  8. โรงแรมเรนทรี เรซิเดนซ์ เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ประเภท เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล
  9. สนามมวกเหล็ก เอทีวี อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ประเภท เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล
  10. บ้านไร่ยายชะพลู อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ประเภท เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล
  11. เดอะเปียโน รีสอร์ท อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ประเภท เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล
  12. ไร่องุ่นไวน์กราน-มอนเต้ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ประเภท เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดส่วนบุคคล

สำหรับปี 2566 จะมีสถานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดเพิ่มเป็น 18 แห่ง ซึ่งจะประกาศในวันที่ 18 ก.ค. 2566 ว่ามีที่ใดบ้าง

ปัจจุบัน การอนุรักษ์ความมืดของท้องฟ้าอาจจะยังไม่เป็นกระแสมากนัก เนื่องจากผลกระทบจากการมีแสงสว่างมากเกินไปยังไม่มีผลกระทบที่ให้เห็นชัดเจนหรือสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อสังคม ดังนั้นสิ่งที่เราจะทำได้เพื่อลดมลภาวะของแสง และอนุรักษ์ความมืดของท้องฟ้าเป็นเรื่องง่ายๆ ที่เริ่มต้นด้วยตัวเอง คือ การเลือกติดตั้งอุปกรณ์ที่สามารถควบคุมปริมาณ หรือเวลาเปิดปิดแสงสว่างได้ ปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น ทั้งช่วยประหยัดพลังงาน และช่วยอนุรักษ์ความมืด เพื่อไม่ให้มลภาวะทางแสงทวีความรุนแรงไปมากกว่าเดิม

ข้อมูลอ้างอิง: สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)