เที่ยวญี่ปุ่น คือหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่คนไทยจำนวนไม่น้อยปักหมุดไว้เป็นจุดหมายปลายทางหากมีการเปิดประเทศ โดยตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ญี่ปุ่นได้เปิดให้นักท่องเที่ยวจาก 98 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย สามารถเดินทางเข้าไปเที่ยวญี่ปุ่นได้แล้วภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งจะต้องเตรียมตัวและเตรียมเอกสารอะไรบ้าง เช็กลิสต์ได้ที่นี่

เงื่อนไขเที่ยวญี่ปุ่น 2022/2565

  1. นักท่องเที่ยวต้องฉีดวัคซีนป้องกันโควิดอย่างน้อย 3 เข็ม โดยวัคซีน 2 เข็มแรกที่ญี่ปุ่นยอมรับ ได้แก่ Pfizer, AstraZeneca, Moderna, Novavax, Johnson & Johnson (1 เข็มนับเป็น 2 เข็ม) และ COVAXIN ส่วนวัคซีนเข็มที่ 3 ที่รัฐบาลญี่ปุ่นอนุมัติคือ Pfizer, Moderna และ Novavax
  2. เดินทางแบบทัวร์กลุ่มเล็กเท่านั้น พร้อมมีผู้ประกอบการทัวร์จากญี่ปุ่นเป็นผู้ควบคุมดูแล
  3. ยังไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางแบบเที่ยวด้วยตนเองเข้ามา
  4. รูปแบบทัวร์ต้องมีกำหนดการเดินทางไว้ล่วงหน้า และต้องมีผู้นำทัวร์
  5. เดินทางท่องเที่ยวได้เฉพาะพื้นที่ที่ไม่ได้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมถึงพื้นที่ที่จังหวัดต่างๆ ที่ได้ตกลงให้ความร่วมมือ
  6. ต้องซื้อประกันสุขภาพ และก่อนเดินทางต้องตรวจโควิดล่วงหน้าอย่างน้อย 72 ชั่วโมง
  7. ต้องขอวีซ่าเดินทางเข้าญี่ปุ่น แม้ว่าก่อนหน้านี้ประเทศไทยจะไม่ต้องขออนุญาตแล้วก็ตาม แต่เงื่อนไขใหม่นี้จำเป็นต้องทำ

ภาพกราฟิกโดย Sathit Chuephanngam
ภาพกราฟิกโดย Sathit Chuephanngam

...

ขั้นตอนการขอวีซ่าเข้าไปเที่ยวญี่ปุ่น

แม้ว่าจะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นกับบริษัททัวร์ แต่โดยหลักการแล้วผู้เดินทางจะต้องมาเดินเรื่องทำวีซ่าเข้าไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตนเองที่ศูนย์รับยื่นวีซ่าประเทศญี่ปุ่น (JVAC) โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

  1. หนังสือเดินทาง (ในวันยื่นขอวีซ่ามีหน้าว่างที่ไม่มีตราประทับมากกว่า 2 หน้าขึ้นไป หากมีหนังสือเดินทางเล่มเก่า กรุณานำมาแสดงด้วย)
  2. ใบคำร้องขอวีซ่า (ท่านสามารถพิมพ์มาจากโฮมเพจของสถานทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย หรือรับได้ที่ศูนย์ JVAC) 1 ชุด
  3. รูปถ่าย (ขนาด 2 x 1.4 นิ้ว สีหรือขาวดำ ที่มีพื้นหลังเป็นสีอ่อน ไม่มีลวดลาย ไม่มีการแต่งภาพถ่าย จะต้องเป็นรูปถ่ายที่ชัดเจน และถ่ายมาไม่เกิน 6 เดือน พร้อมติดรูปถ่ายลงในใบคำร้อง) 1ใบ
  4. แบบสอบถามเพื่อการยื่นขอวีซ่า (กรุณากรอกโดยเลือกตามวัตถุประสงต์ในการเดินทาง และลงลายเซ็นตามหนังสือเดินทาง) ภาษาอังกฤษ / ภาษาไทย 1 ชุด
  5. ทะเบียนบ้าน ฉบับจริงและสำเนา 1 ชุด
  6. หนังสือรับรองการทำงาน
    ในกรณีที่ผู้ยื่นเป็นพนักงาน หรือข้าราชการ ให้แสดงหนังสือรับรองการทำงานจากหน่วยงานที่สังกัด (ให้ระบุตำแหน่ง วันเริ่มทำงาน อัตราเงินเดือน และระยะเวลาวันลาพักร้อน)
    ในกรณีที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว ให้แสดงหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนการค้าจากกระทรวงพาณิชย์
    ในกรณีนักเรียนนักศึกษาที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป ให้แสดงหนังสือรับรองสถานภาพการเป็นนักเรียนนักศึกษา และหนังสือรับรองการทำงาน หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนการค้าของผู้อุปการะ
    ในกรณีผู้อยู่ภายใต้อุปการะเลี้ยงดู เช่น แม่บ้านที่ไม่ได้ทำงาน ให้แสดงหนังสือรับรองการทำงาน หรือหนังสือรับรองจดทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนการค้าของผู้อุปการะ
    ทั้งนี้เอกสารทุกอย่างจะต้องออกไม่เกิน 3 เดือน ในกรณีที่ผู้ยื่นไม่มีอาชีพ หรือประกอบอาชีพที่ไม่สามารถแสดงหนังสือรับรองการทำงาน หรือหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือทะเบียนการค้าได้ กรุณาทำหนังสืออธิบายอาชีพและรายได้โดยละเอียด ฉบับจริง 1 ชุด
  7. ผู้ที่เดินทางเป็นครั้งแรก หากเคยเปลี่ยนชื่อตัว-สกุล หรือผู้ที่ได้เปลี่ยนชื่อตัว-สกุลหลังจากเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นครั้งที่แล้ว ให้เตรียมเอกสารแสดงการเปลี่ยนชื่อตัว-สกุล เช่น ใบเปลี่ยนชื่อตัว-สกุล ใบสำคัญการสมรส ใบสำคัญการหย่า ฉบับจริงและสำเนา 1 ชุด
  8. สมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร (ของผู้ยื่นคำร้อง หรือผู้อุปการะ) ฉบับจริงและสำเนา (ทุกหน้า) 1 ชุด (ใช้สำหรับยื่นในกรณีที่ผู้ยื่นเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยตัวเอง ยกเว้นสำหรับผู้ยื่นที่เป็นข้าราชการ หรือพนักงานบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ หรือมหาวิทยาลัย เป็นต้น ซึ่งมีอัตราเงินเดือนตั้งแต่ 2 หมื่นบาทขึ้นไป และสามารถตรวจสอบได้จากหนังสือรับรองการทำงาน ไม่ต้องยื่นสมุดบัญชีธนาคาร ทั้งนี้รวมถึงการยื่นสำหรับครอบครัวในความอุปการะของบุคคลดังกล่าวด้วย)
  9. กำหนดการเดินทาง
  10. บุคคลที่สามารถให้มีตัวแทนมาดำเนินการยื่นวีซ่าได้นั้น กรุณาตรวจสอบรายละเอียดคุณสมบัติที่นี่ (https://www.th.emb-japan.go.jp/th/consular/general.htm)
  11. กรณีที่ให้ตัวแทนมาดำเนินการยื่นวีซ่าแทนนั้น ผู้ยื่นจะต้องเขียนหนังสือมอบอำนาจด้วยตนเอง 

ก่อนออกเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น ต้องทำอะไรบ้าง

เมื่อเตรียมขั้นตอนเดินทางทั้งเรื่องบริษัททัวร์ ประกันการเดินทาง และขอวีซ่าเรียบร้อยแล้ว ก่อนวันเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องทำสิ่งเหล่านี้ด้วย

  1. ขอใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบ ที่ทดสอบภำยใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง ซึ่งตรวจโดยโรงพยาบาล และใช้แบบฟอร์มที่กำหนดเท่านั้น (https://www.mofa.go.jp/mofaj/files/100178050.pdf) จากนั้นให้ลงทะเบียนทางแอปฯ MySOS
  2. ติดตั้งแอปพลิเคชัน MySOS แล้วลงทะเบียนขั้นตอนการกักตัวที่สนามบินขาเข้าส่วนหนึ่งทางแอปฯ MySOS เอาไว้ก่อนล่วงหน้ำ (Fast Track) และต้องดำเนินการให้เสร็จอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนกำหนดการที่เที่ยวบินจะลงจอด โดยที่ใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบ และตอบแบบสอบถาม
  3. จากนั้นให้แสดงหน้าจอแสดงผลลงทะเบียนสำเร็จ (หน้าจอสีฟ้า) ที่สนามบินขาเข้า เฉพาะที่สนามบินนานาชาตินาริตะ, สนามบินฮาเนดะ, สนามบินนานาชาติชูบุ, สนามบินนานาชาติคันไซ, และสนามบินฟุกุโอกะ เท่านั้น
  4. ลงทะเบียนล่วงหน้าที่เว็บไซต์ Visit Japan (https://www.digital.go.jp/en/services/visit_japan_web-en/) เป็นระบบที่อนุญาตให้คุณลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อกรอกประวัติการเดินทางเข้าญี่ปุ่น, แบบฟอร์มศุลกากร ฯลฯ ส่วนใบรับรองผลตรวจโควิดเป็นลบให้กดเลือกว่าจะยื่นเป็น “ช่องทาง Fast Track หรือจะยื่นเป็นกระดาษ” จากนั้นไปสู่ขั้นตอนถัดไปได้โดยไม่ต้องอัปโหลดไฟล์

ถึงแม้การเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งนี้จะมีเงื่อนไขมากมาย เพราะยังต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโควิดอยู่ แต่ก็นับว่าเป็นโอกาสดีที่ตอนนี้รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าประเทศได้แล้ว ถ้าหากว่าสถานการณ์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราอาจจะสามารถเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นได้เหมือนปกติอย่างที่ผ่านมาก็เป็นได้

...

อ้างอิงข้อมูล: องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO)

แนะนำกิจกรรมน่าสนใจใน "ญี่ปุ่น"

Klook.com