สำหรับคนที่เป็นนักท่องเที่ยวสายลุย และชอบท่องเที่ยวในที่แปลกใหม่แบบ Unseen ไม่ซ้ำใคร ขอแนะนำ “ถ้ำพุงช้าง” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดพังงา ที่ถูกใจคนชอบการท่องเที่ยวแบบผจญภัย โดยเฉพาะ ไม่เพียงแค่ความสนุกสนานเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมกับตำนานที่น่าสนใจอีกด้วย
ตำนานถ้ำพุงช้าง
ย้อนไปเมื่อกว่า 20 ปีก่อน “ถ้ำพุงช้าง” เป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวสายลุย เพราะเป็นถ้ำที่เพิ่งถูกค้นพบใหม่ในปี 2544 โดยตั้งอยู่ที่ใจกลางภูเขาช้าง วัดถ้ำพุงช้าง (วัดประพาสประจิมเขต) อำเภอเมือง จังหวัดพังงา เป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีความยาวประมาณ 1,200 เมตร ภายในถ้ำประกอบด้วยหินงอกหินย้อยจำนวนมาก ปากทางเข้าถ้ำมีสองทาง ด้านหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกและอีกด้านหนึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของเขาช้าง
...
ถ้ำแห่งนี้มีตำนานเล่าว่า สมัยก่อนมีชายคนหนึ่งชื่อ “ตายมดึง” เป็นคนร่อนเร่พเนจรขออาศัยอยู่กับ “ตาโจงโดง” ผู้มีลูกสาวสวย ตายมดึงขยัน ช่วยทำงานบ้านทุกอย่าง ต่อมาตาโจงโดง จึงยกลูกสาวให้ สองสามีภรรยาจึงออกมาตั้งครอบครัวสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยการทำสวนทำไร่ ในขณะที่ไร่นาออกผลงอกงามใกล้วันเก็บเกี่ยว กลับมีช้างป่าโขลงหนึ่งมาเหยียบย่ำทำลายพืชไร่เสียหายหมด ตายมดึงเสียใจและโกรธมาก จึงคว้าหอกตามล่าโขลงช้างนั้น แต่กลับไปพบช้างของตางุ้ม ตายมดึงคิดว่าเป็นช้างป่า จึงฆ่าช้างนั้นตายด้วยความโกรธแค้นโดยใช้หอกแทงที่ท้อง นำตับไตไส้พุงมาทำอาหารกินแล้วตัดงาออกมาด้วย โดยหารู้ไม่ว่าช้างเชือกนั้นไร้ความผิด ช้างนั้นเมื่อตายแล้วจึงกลายเป็น “เขาช้าง” ส่วนแผลที่หอกทะลวงท้องก็กลายเป็น “ถ้ำพุงช้าง”
เสน่ห์ของถ้ำพุงช้าง นักท่องเที่ยวสายลุยห้ามพลาด
สิ่งที่ทำให้ถ้ำพุงช้างมีเสน่ห์แตกต่างไปจากถ้ำอื่นๆ จนเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand ก็คือวิธีการเข้าชมที่เริ่มต้นด้วยการนั่งแพไม้ไผ่ล่องเข้าไปชมความสวยงาม ของหินงอกหินย้อยรูปร่างต่างๆ ผ่านเข้าไปตามช่องทางของโขดหินน้อยใหญ่ เพื่อชื่นชมหินที่มีลวดลายแปลกตาสวยงาม โดยมีหินรูปช้างพันเชือกที่ก่อตัวเรียงกันเหมือนเจดีย์ช้างเป็นตัวชูโรง เมื่อล่องแพมาได้สักระยะ จะต้องลงเดินเท้าเพื่อไปสัมผัสบรรยากาศเย็นสบายภายในถ้ำ โดยเดินไปตามทางน้ำที่มีระดับความลึกต่างกันไป ตั้งแต่สูงระดับข้อเท้าจนถึงสูงระดับน่อง
ในระหว่างทางเดินจะได้เพลิดเพลินไปกับประติมากรรมหินที่สวยงามตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น บ่อน้ำมนต์รูปหัวช้าง หินรูปไดโนเสาร์ รูปเต่ายักษ์ ส่วนหินงอกหินย้อยที่จัดว่าเป็นไฮไลต์ของถ้ำพุงช้างเลยนั้น คือ หินรูปช้างเผือกสีขาวนวล มีดวงตา มีใบหู มีขาหน้า และมีงวงยื่นออกมาเหมือนช้างจริงๆ แล้วยังมีหินสีแดงปกคลุมเฉพาะตัวช้างอีกต่างหาก ทำให้จินตนาการแล้วคล้ายกับช้างที่มีเศวตฉัตรปกคลุมอยู่เหนือเศียรของช้าง เรียกได้ว่าเป็นความสวยงามที่น่ามหัศจรรย์ของธรรมชาติให้เราได้พบเห็น
...
ทั้งนี้ก่อนเข้าไปเที่ยวชมภายในถ้ำพุงช้าง เจ้าหน้าที่จะแนะนำให้ไปสักการะ พ่อตาเขาช้าง ที่ศาลพ่อตาเขาช้างซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับปากทางเข้า โดยพ่อตาเขาช้างเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัดพังงาที่มักจะมีผู้คนนำช้างจำลองมาแก้บนกันเป็นจำนวนมาก เพื่อเสริมสร้างสิริมงคล
...
คืนชีวิต ถ้ำพุงช้าง Unseen Thailand ที่ถูกลืม
“ถ้ำพุงช้าง” เคยเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชอบความท้าทายและผจญภัย แต่หลังจากที่เจอกับการแพร่ระบาดของโควิดก็ทำให้การเข้าชมถ้ำพุงช้างปิดตัวลงและเพิ่งเปิดให้เข้าชมได้เมื่อตอนต้นปี 2565 ที่ผ่านมา แต่ก็ยังค่อนข้างเงียบเหงาอยู่ ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีไม่มากเหมือนที่ผ่านมา ดังนั้นใครที่ชอบการท่องเที่ยวแบบสายลุย และชอบไปที่แปลกใหม่ไม่จำเจสไตล์ Unseen Thailand บอกเลยว่าถ้ำพุงช้างตอบโจทย์แน่นอน
แม้ว่าระยะทางของถ้ำพุงช้างจะมีความยาวถึง 1,200 เมตร แต่สำหรับการเข้าชมจะเปิดให้ชมได้ในระยะทาง 750 เมตรเท่านั้น เนื่องจากการเดินเข้าถ้ำจนไปทะลุอีกฝั่งจะค่อนข้างลำบากและถ้าหากมีฝนตกจนน้ำในถ้ำสูงขึ้นอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยวได้ โดยการเข้าชมจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง และมีผู้เชี่ยวชาญคอยนำทางตลอดการเข้าชมถ้ำพุงช้าง มีค่าบริการเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 200 บาท และเด็ก 100 บาท
...
และด้วยการเข้าชมถ้ำพุงช้างที่ค่อนข้างสมบุกสมบัน แนะนำว่าควรสวมกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ หรือรองเท้าพลาสติกรัดส้น เพื่อความทะมัดทะแมงและสะดวกในการเที่ยวถ้ำพุงช้างได้อย่างสบายใจไร้กังวล ขณะเดียวกันผู้ป่วยโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ผู้กลัวความมืดหรือที่แคบ อาจไม่เหมาะกับการเข้าชมถ้ำพุงช้างเท่าใดนัก
ใครที่มาเที่ยวจังหวัดพังงาแล้วอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากการชมทะเลอันดามัน มาเที่ยวชมถ้ำพุงช้างก็สร้างสีสันและความประทับใจในอีกรูปแบบหนึ่งได้ดีไม่น้อย โดยเปิดให้เข้าชมได้ทั้งปียกเว้นช่วงมรสุม เพราะระดับน้ำในถ้ำจะสูงขึ้นจนอาจเป็นอันตรายได้
ข้อมูลอ้างอิง: สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพังงา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)