ปราสาทกรุงปรากและสะพานชาร์ลส์มองจากแม่น้ำวัลตาวา.

หากเมืองหลายเมืองที่แสนสวยงามในโลกนี้  เปรียบเหมือนดั่งสวรรค์บนดิน “กรุงปราก” เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ก ก็เป็น 1 ในสวรรค์บนดินอีกแห่งที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกใฝ่ฝันที่จะต้องเดินทางไปเยือนให้ได้สักครั้งหนึ่งในชีวิต

เพราะความงดงามเกินบรรยายของกรุงปราก เมืองแห่งปราสาทร้อยยอด เมืองแห่งทองคำ จึงเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้ผู้คนหลงใหล ว่ากันว่า “ปราก” เป็นเมืองที่สวยงามและโรแมนติกที่สุดเมืองหนึ่งของยุโรป เปรียบเสมือนอัญมณีเม็ดงาม มีอารยธรรมที่สุดยอด มีความเก่าแก่จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก ใครได้มาเยือนกรุงปรากแล้วจะลืมไม่ลงและต้องจดจำความสวยงามของเมืองนี้ไว้ในความทรงจำตลอดไป


ไกด์ที่พาเราเที่ยวปรากแบบเจาะลึกถึงแก่น ไม่เหมือนเที่ยวกับทัวร์ทั่วไป คือ “น้องหริ่น–เนตรนภา แก้วแสงธรรม ยาเนซโกวา” สาวไทยที่มาปักหลักตั้งรกรากอยู่ที่เช็ก ด้วยการแต่งงานกับหนุ่มปรากและตั้งบริษัททัวร์เล็กๆ ทำงานอย่างมีความสุขและสนุกกับอาชีพ บอกว่า โจทย์บังคับเมื่อไปถึง “ปราก” คือการท่องเที่ยวในสถานที่ที่พลาดไม่ได้ 3 แห่ง เริ่มจากอันดับแรก ปราสาทกรุงปราก ที่กว้างขวางใหญ่โต สวยงามดุจภาพฝัน มีอาคารศิลปะหลากหลายแบบเรียงราย มีการวางผังเมืองได้สวย ตรงกลางเป็นมหาวิหารนักบุญวิตุส ที่ถือเป็นสะดือเมือง รอบๆคือวังของประมุขประเทศ ปัจจุบันคือสถานที่พำนักอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสาธารณรัฐเช็ก


ที่หน้าปราสาทกรุงปราก ถือเป็นหน้าพระลานที่มีวังสวยๆมากมาย แต่ยังมีพื้นที่ที่ถูกซุกซ่อนเป็นพื้นที่ที่มีเสน่ห์ไม่น้อย เรียกกันว่า “New World” เป็นโซนบ้านหลากสีสันหลังเล็กๆ ที่เงียบสงบในตรอกทองคำ ที่มีบ้านหลังคาต่ำๆ เป็นที่อยู่ของทหารยามในอดีต และยังมีบ้านหลังที่เล็กที่สุดในปรากตั้งอยู่ในนี้ เป็นบ้านสีชมพูหลังคาเท่าหัวคนอยู่หัวมุมถนน เป็นบ้านที่มีแต่หน้าต่างไม่มีประตู ถ้าจะเข้าบ้านต้องไปขอเข้าที่ประตูข้างๆบ้านแล้วเดินเชื่อมมา


น้องหริ่นพาเราชมปราสาทกรุงปรากจนหนำใจแล้วก็พาเดินไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็ถึงสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตสุดๆ ที่เป็นโจทย์บังคับแห่งที่ 2 คือ “สะพานชาร์ลส์” ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 1357 แทนที่สะพานจูดิธซึ่งสร้างมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ปัจจุบัน สะพานแห่งนี้เป็นจุดท่อง เที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งในกรุงปราก สวยโดดเด่นไม่ว่าจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน มีบรรดาพ่อค้าและเหล่านักแสดงอยู่ประปราย ทัศนียภาพของสะพานนี้จะสวยงามยิ่งขึ้นในช่วงเช้าตรู่และยามตะวันตกดิน มีรูปปั้นนักบุญยืนสง่ากว่า 30 องค์ ตรงกลางสะพาน ใครที่อยากกลับมาเยือนปรากอีก ควรที่จะไปเข้าคิวอธิษฐานขอจากรูปปั้นนักบุญเช็ก “เนโปมุก” แล้วจะได้กลับมาจริงๆ แต่ที่อันซีนกว่านั้น คือต้องไปแตะที่รูปไม้กางเขนตรงสะพานอธิษฐานขอพร แล้วคุณจะได้ทุกสิ่งที่คิด ทุกอย่างที่หวังดังใจปรารถนา


โจทย์บังคับแห่งที่ 3 คือการย่ำเดินชม “เมืองเก่า” อยู่ติดกับสะพานชาร์ลส์ ที่นี่ถือเป็นเขตมรดกโลกแวดล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมบารอค กอธิค และรอคโคโคที่อลังการ บ้านโบราณหลากสีสันหวานแหวว มองดูแสนโรแมนติกยิ่งนักสมดังคำร่ำลือ อีกที่ที่ควรไป คือ จัตุรัสกลางเมืองเก่า ที่ตรงกลางมีรูปปั้นยันฮุส

นักปฏิรูปศาสนาที่ถูกเผาสิ้นชีพที่นี่ นอกจากนี้ยังมีศาลาว่าการกรุงเก่า ที่ตั้งของนาฬิกาโบราณอายุกว่า 600 ปี ที่ไม่เคยหยุดทำงานเลยแม้แต่วินาทีเดียว  ทุกชั่วโมงนาฬิกาจะตีเสียงดังสนั่นเมืองและมีตัวตุ๊กตาออกมาเต้นรำโชว์  เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้ดี


ชมตึกรามอาคารโบราณต่างๆมามากแล้ว น้องหริ่นเปลี่ยนบรรยากาศพาไปชมสวนพรูโฮยิสเซ่ ที่อยู่ชานเมืองปราก เป็นสวนที่จัดแบบธรรมชาติ เน้นต้นไม้ท้องถิ่น มีทั้งไม้พุ่ม ไม้ยืนต้น ตรงกลางเป็นทะเลสาบ มีปราสาทขนาดเล็กตั้งอยู่ แทบไม่เชื่อสายตาเลยว่าที่นี่คือสวนบนโลกมนุษย์ เพราะงดงามเหมือนดั่งแดนดินถิ่นสวรรค์จริงๆ

ออกจากกรุงปรากมุ่งตรงไปยังเมือง “คาร์ลโลวี วารี” ที่อยู่ห่างประมาณ 120 กม.ใช้เวลาเดินทางถึง 2 ชั่วโมง ไปชิมน้ำแร่เพื่อสุขภาพที่โรงดื่มน้ำแร่ ที่ว่าดีต่อคนที่เป็นโรคตับ ไทรอยด์ โรคผิวหนัง โรคเกาต์ กระดูกและข้อต่อ โรคหัวใจ ที่นี่จะมีคนที่ป่วยโรคตับจากทั่วโลก แห่มาเปิดโรงแรมนอนเพื่อดื่มน้ำแร่บำบัดโรค อีกเมืองที่ผู้คนนิยมไปเที่ยวเพื่อดื่มน้ำแร่รักษาสุขภาพ คือเมือง “มาเรียนสแก ลาซเน่” ซึ่งเป็นเมืองน้ำแร่อันดับสองของเช็ก  ตึกรามบ้านช่องทาสีเหลืองหลากหลายเฉดแลดูกลมกลืนสวยงามไปอีกแบบ เมืองนี้เป็นเมืองที่สร้างใหม่เพื่อรองรับการเป็นเมืองดื่มน้ำแร่โดยเฉพาะ เพราะน้ำแร่ที่นี่รสชาติอร่อยกว่า เมืองคาร์ลโลวี แต่มีข้อแม้ว่าให้ดื่มที่นี่ได้ฟรีแต่ห้ามใส่ขวดกลับบ้าน


จากเมือง มาเรียนสแก ลาซเน่ เราเดินทางต่อไปถึงเมือง เชสกี้ ครุมลอฟ ทางตอนใต้ของกรุงปราก ห่างประมาณ 200 กม. เมืองมรดกโลกที่แสนโรแมนซ์และเป็นเมืองโบราณคล้ายกับอยุธยาบ้านเรา เมืองนี้แม้เป็นเมืองเล็กๆ แต่มีอะไรให้ชื่นชมเยอะ เหมือนหลุดเข้าไปในยุคโบราณ สร้างบรรยากาศให้อยากใส่ชุดสุ่ม ถือร่มลายลูกไม้เดินกรีดกรายชมเมือง ซึ่งหลากสีสัน มีแต่บ้านโบราณ มีแม่น้ำล้อมรอบ มีปราสาทเชสกี้ ครุมลอฟ ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนยอดเขา มองดูคล้ายดั่งปราสาทในเทพนิยายที่แสนงดงาม

ปัจจุบันมีคนไทยมาเปิดบริษัททัวร์ที่ปรากหลายบริษัท รับทัวร์กลุ่มเล็กๆ แค่ 4-7 คน พาเที่ยวแบบส่วนตัวและเจาะลึกจริงๆ หากสนใจที่จะเที่ยวกรุงปรากในลักษณะนี้ ดูรายละเอียดได้ที่ www.netnapa.net แล้วลองเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าไปเที่ยว “กรุงปราก” ดูสักครั้ง แล้วคุณจะหลงรัก “ปราก” อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว...!!!

...