จากเบสแคมป์...ถึงเอเวอเรสต์.
“นมัสเต”....เป็นคำกล่าวทักทาย (ตรงกับคำว่าสวัสดีของไทย) สำหรับผู้มาเยือน...ดินแดนในอ้อมกอดแห่งเทือกเขาหิมาลัย...เนปาล การเดินทางกว่า 3 ชม.จากประเทศไทยแดนศิวิไลซ์...ถึงสนามบินตรีภูวัน เมืองกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล สนามบินที่ขึ้นชื่อลือชาว่า...“ปราบเซียน” ตั้งอยู่กลางหุบเขาสูงชันของเทือกเขาหิมาลัยอันเลื่องชื่อ เยี่ยมชม “จัตุรัสกาฐมาณฑุ ดูร์บาร์” หรือพระราชวังหนุมานโดก้า เป็นอาคารสไตล์ยุโรปสีขาว มีหอสูง 9 ชั้นเรียกว่า “หอพสันต์ปุร์”... เดิมเป็นสถานที่ที่กษัตริย์เนปาลเสด็จทอดพระเนตรพิธีสวนสนามใน วันเฉลิมฯ ที่หน้าประตูพระราชวังแห่งนี้มีรูปปั้น “หนุมานโธกา” ตั้งตระหง่านอยู่บนแท่นยกสูง ทำหน้าที่ “ทวารบาล” คอยปกปักรักษาพระราชวัง
ในบริเวณพระราชวังแห่งนี้ยังมีสถานที่สำคัญอีกแห่งที่ไม่ควร พลาดไปเยี่ยมชม...“บ้านกุมารี” เป็นตึกไม้สูง 3 ชั้นแกะสลักบานประตูและหน้าต่างอย่างวิจิตรบรรจง “กุมารี” คือเทพสมมติ คัดเลือกเด็กหญิงวัย 3 ขวบจากวรรณะ“ศากยะ” มีคุณสมบัติครบ 4 ประการ คือ ผมดำสนิท ฟันขาวครบเต็ม ปาก ลิ้นสมบูรณ์ และสามารถเลือกหยิบสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวของ “กุมารีคนเก่า” ได้อย่างถูกต้อง “กุมารี” จะอยู่ในตำแหน่งและพำนักอยู่ใน “บ้านกุมารี” จนอายุครบ 13 ปี หรือจนกว่าจะมีประจำเดือน เนื่องจากคนเนปาลมีความเชื่อว่าห้าม “กุมารี” หลั่งเลือดออกจากร่างกาย เพราะหมายถึงความวิบัติและกลียุค หลังพ้นชีวิต “กุมารี” แล้ว เด็กสาวแรกรุ่นอดีตกุมารี (ปัจจุบันมี 13 คน) จะกลับไปชีวิตเป็นอิสระแบบคนธรรมดาสามัญ รวมถึงการมีครอบครัว....แต่ไม่มีหนุ่มๆคนไหนกล้าเสี่ยงขอ “อดีตกุมารี” แต่งงาน เพราะหวาดผวาต่อคำร่ำลือที่ว่า...คนที่เป็นสามีมักจะอายุไม่ ยืน!!!
...
ส่วนการ “ช็อปปิ้ง” (ของโปรดคนไทย) ย่านทาเมล หรือถนนข้าวสาร...เนปาล แหล่งรวมสินค้านานาชนิดจากทุกมุมโลก แต่ที่เป็นพระเอก-นางเอกคือ....เสื้อผ้าเครื่องใช้สำหรับนักเดิน ทางและนักปีนเขาแบรนด์ดังๆแต่ราคาถูก และ “พาสมีน่า” (Pashmina) ผ้าคลุมไหล่ผลิตจากขน “YAK” หรือตัวจามรี ราคาเริ่มตั้งแต่หลักร้อยจนถึงหลักหมื่น (แก่ๆ) ขึ้นอยู่กับว่าผลิตมาจากส่วนไหนของ “เจ้าYAK” คุณสามารถช็อปปิ้งได้ด้วย “เงินบาทไทย” แถมบางร้านยังสามารถพูดคุยภาษาไทยกับคุณได้อย่างฉะฉาน อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 1 บาท ต่อ 2 รูปีเนปาลโดยประมาณ
“เจดีย์พระสวยัมภูวนารถ” หรือที่ชาวเนปาลเรียกว่า “วัดลิง” เป็นเจดีย์สีเหลืองทองอร่ามตั้งอยู่
บนภูเขาแดงเต็มไปด้วยฝูงลิงนับพันตัว (เจดีย์ในเนปาล...จะมีการเขียนตา–คิ้วไว้ทั้ง 4 ด้าน นัยว่าเพื่อปกป้องรักษาทั้ง 4 ทิศ) บริเวณโดยรอบองค์เจดีย์มีการก่อสร้างสถาปัตยกรรมโบราณที่ผสมผสาน กันระหว่างศาสนาพุทธและฮินดูอย่างกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว จากนั้นก็เดินทางต่อไปยัง “เมืองปาทัน” หรือ “ลาลิตปูระ” เมืองโบราณที่ตั้งอยู่เหนือแม่น้ำบัคมาติ เยี่ยมชม...จัตุรัสปาทันตูบาร์สแควร์ สถาปัตยกรรมหินโบราณที่วิจิตรงดงาม สร้างขึ้นในสมัยกษัตริย์ราชวงศ์มัลละที่ 16-18 ถือเป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมของเนปาล ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลก เยี่ยมชม “กฤษณะ มัณฑีร์” วัดแห่งองค์พระกฤษณะ ต้นแบบสถาปัตยกรรมแบบศิขะระ ต่อด้วยการเยี่ยมชม “กุมเภสวอร์” หรือวัดของพระศิวะ มีหลังคาสูง 5 ชั้นลดหลั่นกันลงมา สร้างขึ้นในสมัยกษัตริย์ชัยฐิติมัลละ และ“วัดทอง” วัดสำคัญในพระพุทธศาสนา หลังคาวิหารทำด้วยแผ่นทองแผ่เป็นทางยาวจากยอดหลังคาลงมาถึง พื้นดิน ชาวเนปาลเชื่อว่า...เป็นเส้นทางไปสู่สรวงสวรรค์
“เจดีย์มหาโพธินาถ”มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกโลกไปเมื่อปี 2522 และเป็นแหล่งชุมชนชาวทิเบตที่ใหญ่ที่สุดของเนปาล สำหรับ...“เมืองบัตตาปูร์” หรือภักตปุระ แปลว่า“เมืองแห่งผู้คนที่ภักดีต่อพระผู้เป็นเจ้า” และเป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดในหุบเขากาฐมาณฑุ เป็นที่ตั้งของ... จัตุรัสภักตะปุร์ดูร์บาร์ พระราชวัง 55 พระแกล (ประตูทองคำ) “มณฑปญาฎะโปละ” มณฑปสูง 5 ชั้น...สูงที่สุดในเนปาล สร้างเมื่อปี พ.ศ.2245 สมัยกษัตริย์ภูปตินทรมัลละ ที่สำคัญยังเป็นฉากเด่นในละครสุดฮิต “4 ดวงใจแห่งขุนเขา” ตอน...“ธาราหิมาลัย” ด้วย
และอีก...1 ไฮไลต์สำคัญที่ทุกคนในโลกรู้จักกันเป็นอย่างดีคือ...การไต่ ขึ้นสู่ยอดเขา“เอเวอเรสต์” ยอดเขาที่สูงที่สุดบนผืนปฐพีด้วยความสูงเสียดฟ้า 8,848 เมตรจากระดับน้ำทะเล (คนเนปาลเรียกว่า “สครมาถา” แปลว่า “หน้าผากแห่งท้องฟ้า” ขณะที่คนทิเบตเรียกว่า “โชโมลังมา” แปลว่า “มารดาแห่งสวรรค์”) บทท้าทายและพิสูจน์ความเป็น“ยอดคนผู้พิชิต” พรมแดนตามธรรมชาติที่แบ่งกั้น “เนปาลกับทิเบต” ออกจากกัน หนึ่งในความใฝ่ฝันของคนไทยหลายๆ คนที่ต้องการเป็นผู้พิชิต “เอเวอเรสต์” โดยในปีนี้ “เครื่องดื่มตราช้าง” โดยบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จัดโครงการ... “Thai Everest 2011 Live Your Dream....คิดใหญ่ กล้าใช้ชีวิต” สนับสนุน...ณัฐพล ทรัพย์มนู นักธุรกิจหนุ่มวัย 35 ปี ผู้รักการผจญภัย ทำความฝันให้เป็นความจริง แม้ว่าจะไม่ประสบความสำเร็จถึงจุดสูงสุด เนื่องจากอุปสรรคเรื่องสภาพอากาศที่เลวร้าย จนต้องยุติการปีนเขาเอเวอเรสต์ที่ระดับความสูง 7,500 เมตร แต่นั่นก็ไม่ใช่...บทสรุปสุดท้าย หากแต่เป็น...จุดเริ่มต้นและแรงบันดาลใจให้คนไทยอีกหลายๆคน กล้า...ที่จะก้าวเดินตามรอยเท้า!!!
...