จุดเริ่มต้นของพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต.
นับ เป็นโอกาสดีๆ อีกครั้งที่สำนักงานประสานงานโครงการในพระราชดำริ (กปร.) จัด กิจกรรมในโครงการ “สื่อศิลปิน รวมใจ ถวายในหลวง” ครั้งที่ 1/2554
นำ คณะสื่อมวลชน ศิลปินดารานักร้องนักแสดงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานในโครงการอัน เนื่องมาจากพระราชดำริ พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และลำปาง ที่มีกิจกรรมนิทรรศการสัญจร ภายใต้แนวคิด 84 พรรษา ประโยชน์สุขสู่ปวงประชา ควบคู่กันไปด้วย ณ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ในมหามงคลสมัยการเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา ซึ่งพสกนิกรชาวไทยจะได้ร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ ทรงอุทิศพระองค์บำเพ็ญพระราชกรณียกิจ เพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทยทุกคน ตลอดจนให้ชาวต่างชาติได้ชื่นชมพระอัจฉริยภาพของพระมหา กษัตริย์ไทย อีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์โครงการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ดิน น้ำ ลม ไฟ ป่าไม้ อาชีพ และคุณภาพชีวิต ตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งนำเสนอผลงานจากการปฏิบัติจริงของราษฎรในพื้นที่ มาจัดแสดงให้ผู้เข้าชมงานได้ศึกษาเรียนรู้ โดยมีการคัดกลุ่มที่ถือว่าเป็นไฮไลต์มาแสดง 19 เรื่อง ครอบคลุมการศึกษาป่าไม้แหล่งน้ำ พัฒนาดิน ปศุสัตว์ ประมง และไม้ดอกไม้ประดับ
...
ในเมื่อมาไกลถึงศูนย์ฯ ห้วยฮ่องไคร้ นอก จากนิทรรศการสัญจรฯ ที่จะสัญจรไปจัดแสดงทั่วประเทศกันตลอดทั้งปีนี้แล้ว ภายในศูนย์ฯ ห้วยฮ่องไคร้ ที่กินพื้นที่กว้าง ขวางประมาณ 8,500 ไร่ยังมีส่วนน่าสนใจเข้าไปเที่ยวชม นั่นคือการจำลองเอาศูนย์ศึกษาการพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้ง 6 แห่งทั่วประเทศมาไว้ที่เดียวกัน บนเนื้อที่หลายสิบไร่ ทำให้ เรียกขานพื้นที่บริเวณดังกล่าวว่า สวนหกศูนย์ฯ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราช กระแสรับสั่งว่าจะให้ศูนย์ทั้งหกเป็น “พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” เป็นศูนย์รวมที่เกษตรกรจะเข้าไป ดูงานทุกอย่างได้โดยไม่ต้องไปไหนอีก
ภายในสวนหกศูนย์ฯ นี้ จึงมีการจัดแบ่งพื้นที่ มีการสาธิตและจำลองการทำงาน จุดประสงค์และจุดเด่นของแต่ละ ศูนย์ศึกษาฯ ซึ่งมีความแตกต่างกันไปตามลักษณะพื้นที่จริงของแต่ละศูนย์ โดยเริ่มจาก ศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส เป็นศูนย์ที่มีเป้าหมายในด้านการศึกษาวิจัยดินพรุ ให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรมให้ได้มากที่สุด จุดเด่นของศูนย์นี้อยู่ที่เรือนไทยภาคใต้ แล้วมีพื้นที่แปลงเกษตรจำลองโดยรอบ ต่อด้วย ศูนย์ศึกษาการพัฒนา ภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัด สกลนคร โดดเด่นด้วยเรือนไทยภาคอีสาน เป็นศูนย์ที่มีเป้าหมายในด้านพัฒนาอาชีพต่างๆทั้งทางเกษตร อุตสาหกรรมในครัวเรือน และการพัฒนาหมู่บ้าน ตัวอย่าง
ใกล้ๆ กันเป็น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดจันทบุรี เป็นศูนย์ที่มีเป้าหมายในการศึกษา ค้นคว้าเพื่อพัฒนา ปรับปรุง สภาพแวดล้อมด้านประมงชายฝั่ง เพื่อให้เกษตรกรสามารถเพิ่มผลผลิตเพื่อการพึ่งตนเองในระยะยาว ถัดไปอีกนิดเป็น ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ งานหลักของศูนย์คือ การศึกษา ค้นคว้าเกี่ยวกับรูปแบบที่เหมาะสมของการพัฒนาพื้นที่ต้นน้ำ ลำธาร เพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจ รวมทั้งรูปแบบการพัฒนาต่างๆ ที่ทำให้เกษตรกรพึ่งตนเองได้โดยไม่ทำลายสภาพแวดล้อม
ต่อ ด้วย ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี มุ่งเน้นการศึกษาแนวทาง วิธีการที่จะพัฒนาฟื้นฟูสภาพป่าเสื่อมโทรม โดยพยายามหาวิธีการจะให้เกษตรกรมีส่วนในการปลูก ปรับปรุง และ รักษาสภาพป่าพร้อมกับมีรายได้ และผลประโยชน์จากป่าด้วยในขณะเดียวกัน และสุดท้าย ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดฉะเชิงเทรา งานหลักคือการค้นคว้า ทดลอง สาธิตเกี่ยวกับการพัฒนาที่ทำกินของราษฎรให้มีความอุดมสมบูรณ์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของพืชหลาย ชนิด
...
สนใจเข้าชม “สวนหกศูนย์ฯ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต” ที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมา จากพระราชดำริ จังหวัดเชียงใหม่ สามารถถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0-5324-8004 จะมาเดี่ยวหรือเป็นหมู่คณะได้ทั้งนั้น ที่สำคัญคือ มาที่เดียว ดูได้ครบทั้ง 6 ศูนย์ฯ แล้วอาจได้ไอเดียแจ่มๆ จากสิ่งที่เห็น เอาไปหัดลองทำเองบ้าง ขอบอกไม่ต้องถึงกับเป็นเกษตรกรเต็มขั้น แต่ถ้าตั้งใจก็ทำได้ เพราะของบางอย่างอยู่ใกล้ตัว เพียงแต่ต้องลงมือทำ...รับรองไม่มีวันอดตาย.
...