เสียวหมี่เปิดตัว Xiaomi 15T Series โดยเน้นความเป็นสมาร์ทโฟนจอใหญ่ เลนส์กล้อง Leica มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ Offline Communication สำหรับสื่อสารในพื้นที่ไร้สัญญาณ
เสียวหมี่เปิดตัว Xiaomi 15T และ Xiaomi 15T Pro ในไทยอย่างเป็นทางการ วางตำแหน่งเป็นสมาร์ทโฟนจอใหญ่ 6.83 นิ้ว เน้นงานภาพจากระบบกล้องที่พัฒนาร่วมกับ Leica และใส่ฟีเจอร์สื่อสารนอกเครือข่าย หรือ Offline Communication สำหรับใช้งานในพื้นที่สัญญาณไม่เสถียรเป็นครั้งแรก
...
สเปก Xiaomi 15T และ Xiaomi 15T Pro
หน้าจอทั้งสองรุ่นเป็นพาเนล AMOLED ความละเอียด 1.5K ความสว่างสูงสุด 3,200 nits รองรับอัตรารีเฟรช 120Hz ในรุ่น 15T และขยับเป็นสูงสุด 144Hz ในรุ่น 15T Pro พร้อมเทคโนโลยีปรับแสงแบบถนอมสายตา และอัลกอริทึมช่วยปรับการตอบสนองการสัมผัสด้วย AI ให้แม่นยำขึ้นแม้มือเปียกหรือใส่ถุงมือก็ตาม
ทางด้านกล้อง Xiaomi 15T Pro ใช้เซ็นเซอร์หลัก 50 ล้านพิกเซล (Light Fusion 900) มีเทเลโฟโตแบบ Leica 5x Pro เสริมด้วยเลนส์อัลตราไวด์
ขณะที่ Xiaomi 15T ใช้กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล (Light Fusion 800) พร้อมเทเลโฟโตและอัลตราไวด์เช่นกัน ทั้งสองรุ่นรองรับโหมดภาพบุคคล Master Portrait และ PortraitLM 2.0 ที่ใช้ AI ช่วยในการปรับโบเก้ โทนสีผิว และฉากหลัง รวมถึงวิดีโอ 4K HDR10+ ครบทุกเลนส์ โดยรุ่น Pro รองรับ 4K 120fps ที่กล้องหลัก
ประสิทธิภาพภายในตัวเครื่องจะแยกกันอย่างชัดเจน โดยในรุ่น Xiaomi 15T Pro ใช้ชิป MediaTek Dimensity 9400+ ส่วน Xiaomi 15T ใช้ Dimensity 8400-Ultra ส่วนแบตเตอรี่ให้มาเท่ากัน 5,500mAh แต่กำลังชาร์จต่างกัน คือ 90W แบบสายและ 50W ไร้สายในรุ่น Pro ขณะที่ 15T ชาร์จไว 67W ทั้งคู่มากับ HyperOS เวอร์ชันล่าสุด ระบบระบายความร้อน 3D IceLoop และได้มาตรฐานทนทาน IP68 กระจกหน้า Gorilla Glass 7i
ที่น่าสนใจก็คือ การเพิ่มฟีเจอร์ Xiaomi Astral Communication และ Offline Communication ที่ทำให้เกิดการสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องพึ่งเครือข่ายมือถือ เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือพื้นที่สัญญาณอ่อน
Xiaomi 15T Pro มีสองความจุ ได้แก่ 12GB+512GB ราคา 21,990 บาท และ 12GB+1TB ราคา 24,990 บาท มี 3 สี ก็คือ สีทอง Mocha Gold, สีเทา และสีดำ
...
Xiaomi 15T มี 12GB+256GB ราคา 15,990 บาท และ 12GB+512GB ราคา 17,990 บาท มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ, สีเทา และสีทอง Rose Gold
