การมาของยุคเอไอทำให้ผู้สมัครงานหลายคนสงสัยว่าใบสมัครงานของพวกเขาถูกตรวจสอบโดยมนุษย์หรือปัญญาประดิษฐ์กันแน่ ทางด้านบริษัทใหญ่อย่างกูเกิลยังคงใช้มนุษย์ในการตัดสินใจเป็นหลัก

บิสซิเนส อินไซเดอร์ได้เขียนบทความที่มีชื่อว่า Is your job application being rejected by AI? We asked 7 big companies. เพื่อตั้งคำถามว่าใบสมัครงานของคุณถูกปฏิเสธโดยเอไอหรือไม่ โดยได้มีการสอบถามไปยัง 7 บริษัทชั้นนำของโลก ซึ่งพบว่าบทบาทของเอไอในกระบวนการจ้างงานนั้นแตกต่างกันอย่างมาก

มาร์ก กริมวูด รองประธานอาวุโสฝ่ายสรรหาบุคลากรของเซลฟอร์สเปิดเผยว่าในไตรมาสแรกของปีนี้มีผู้ให้ความสนใจสมัครงานหลายหมื่นฉบับ โดยเซลฟอร์สได้ใช้เครื่องมือเอไอที่มีชื่อว่า Agentforce เข้ามาช่วยสแกนหาทักษะสำคัญเพื่อระบุตัวผู้สมัครที่มีแววและตรงกับการทำงานของบริษัท 

กริมวูดกล่าวว่าเอไอช่วยให้ทีมทำงานได้มีประสิทธิภาพขึ้น แต่ยอมรับว่าด้วยปริมาณใบสมัครที่มหาศาลทำให้ใบสมัครบางส่วนไม่ได้ถูกตรวจสอบโดยมนุษย์

อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวสวนทางกับบริษัทเทคโนโลยีและบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำอีกหลายแห่งที่ยังคงให้ความสำคัญกับการตรวจสอบโดยมนุษย์ บริษัทอย่าง Google, Allstate, Kraft Heinz และ Exelon ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่สรรหาบุคลากรยังคงตรวจสอบทุกใบสมัครและเป็นผู้ตัดสินใจในขั้นตอนสุดท้าย ทั้งนี้โฆษกของกูเกิลระบุว่าเอไอถูกใช้เพื่อแนะนำผู้สมัครที่เหมาะสมเท่านั้น เพื่อให้ทีมงานมีเวลาไปสร้างความสัมพันธ์กับผู้สมัครมากขึ้น

เช่นเดียวกับ Allstate ที่ใช้เทคโนโลยีเอไอเพื่อระบุตัวผู้สมัครที่โดดเด่นจากผู้สมัครจำนวนมาก และช่วยลดระยะเวลาในกระบวนการจ้างงานลงจาก 22 วันเหลือเพียง 11 วัน แต่ยังคงให้มนุษย์เป็นผู้ตรวจสอบและตัดสินใจ นอกจากนี้ บริษัทยังใช้เอไอเพื่อกลับไปพิจารณาผู้สมัครเก่าที่ไม่ผ่านการคัดเลือกสำหรับตำแหน่งงานอื่น จนสามารถจ้างงานได้แล้วกว่า 100 คน

...

แม้ว่าจะมีหลายบริษัทนำเอไอเข้ามาใช้งานเพื่อคัดกรองผู้สมัครบ้างแล้ว แต่แบลร์ ซิซิล พาร์ทเนอร์ของแมคคินเซย์ ยืนยันว่าบริษัทไม่ใช้เอไอในการประเมินจดหมายสมัครงาน โดยใบสมัครทั้งหมดจะถูกตรวจสอบโดยทีมงานที่เป็นมนุษย์เท่านั้น 

ส่วนสปริง เลซี รองประธานของเวอไรซอน กล่าวว่าบริษัทยังไม่ใช้เอไอในการคัดกรองใบสมัคร เพราะต้องการความมั่นใจว่าเครื่องมือที่ใช้นั้นมีความยุติธรรม ปราศจากอคติ และสามารถคัดกรองคุณสมบัติได้อย่างเท่าเทียม

ที่มา: Business Insider