ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและอำนวยความสะดวกให้แก่มนุษย์ แต่ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยีนี้กำลังเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์ในหลากหลายอุตสาหกรรมอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดความท้าทายใหม่ที่ทุกภาคส่วนต้องปรับตัว

แม้แต่อาชีพสายเทคฯ ก็สั่นคลอน

อมฤต ฟรานเซน
อมฤต ฟรานเซน

นายอมฤต ฟรานเซน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ชี้ว่า ผลกระทบของ AI เริ่มเห็นชัดในกลุ่มอาชีพสายเทคโนโลยีแล้ว โดยหลายบริษัทเริ่มชะลอการจ้างงานใหม่ในตำแหน่งที่ AI ทดแทนได้ เช่น นักพัฒนา (Developer) เนื่องจาก AI ในปัจจุบันสามารถเรียนรู้และเขียนโค้ดตามคำสั่งที่เป็นภาษามนุษย์ได้ดีขึ้น

สถานการณ์นี้แตกต่างจากในอดีตที่บุคลากรกลุ่มนี้เป็นที่ต้องการและมีค่าตอบแทนสูง สะท้อนเทรนด์เดียวกับที่บริษัทเทคโนโลยีระดับโลกเริ่มทยอยเลิกจ้างพนักงาน อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์นี้อาจมีข้อดีแฝงอยู่ คือการผลักดันให้นักพัฒนาเหล่านี้ผันตัวไปเป็นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพหน้าใหม่ได้

...

พนักงานออฟฟิศและบัณฑิตจบใหม่กระทบเต็มๆ

การมาของ AI กระทบพนักงานออฟฟิศอย่างมาก
การมาของ AI กระทบพนักงานออฟฟิศอย่างมาก

กลุ่มอาชีพที่ได้รับผลกระทบในวงกว้างคือพนักงานออฟฟิศ โดยเฉพาะงานเอกสารและงานธุรการที่ AI สามารถทำแทนได้ ผู้บริหารยุคใหม่สามารถสั่งงาน AI ได้โดยตรงและได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจกว่า โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความรู้สึกเหมือนการทำงานร่วมกับคน

สิ่งนี้ส่งผลโดยตรงให้บัณฑิตจบใหม่หางานได้ยากขึ้น เพราะหัวหน้างานสามารถใช้ AI จัดการงานที่เคยต้องมอบหมายให้พนักงานระดับเริ่มต้นได้ด้วยตนเอง 

นอกจากนี้ AI ยังถูกนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น การติดตั้งในกล้องเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบคุณภาพ (Quality Control) สินค้าเกษตร หรือแม้กระทั่งการนับเพชรที่มีความแม่นยำสูง

สร้างคนให้พร้อมสำหรับโลกยุคใหม่

ปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้สถาบันการศึกษาต้องทบทวนบทบาทและปรับหลักสูตรอย่างเร่งด่วน เพื่อเตรียมความพร้อมให้คนรุ่นใหม่สามารถทำงานในโลกที่ AI กลายเป็นเครื่องมือพื้นฐาน โดยควรเน้นการเรียนการสอนที่สร้างทักษะสำคัญ ได้แก่ 

  • สร้างเสริมประสบการณ์ทำงานจริง - ฝึกฝนการนำความรู้ไปใช้ในสถานการณ์จริง
  • สอนทักษะการตัดสินใจที่ซับซ้อน - พัฒนาวิจารณญาณที่ AI ยังทำไม่ได้
  • ปลูกฝังความเป็นเจ้าของธุรกิจ - สร้างทัศนคติของผู้ประกอบการ
  • สอนให้สามารถตรวจสอบและควบคุม AI - สร้างคนให้เป็นผู้ใช้งานและผู้กำกับดูแลเทคโนโลยี

ทางรอดของมนุษย์ High Touch ทักษะที่ AI ไม่มีวันสู้ได้

ความเป็นมนุษย์เป็นสิ่งที่ AI ยังทำไม่ได้
ความเป็นมนุษย์เป็นสิ่งที่ AI ยังทำไม่ได้

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ทักษะที่ยังคงเป็นจุดแข็งของมนุษย์และเป็นข้อได้เปรียบของประเทศไทยคืองานบริการที่ต้องอาศัย "High Touch" หรือการปฏิสัมพันธ์ที่เข้าถึงอารมณ์ความรู้สึก

AI ไม่สามารถเข้าใจความรู้สึกซับซ้อนของมนุษย์ได้อย่างแท้จริง หากเราสามารถผสานการบริการที่ใส่ใจเข้ากับเทคโนโลยีได้อย่างลงตัว จะสร้างประสบการณ์ที่เหนือกว่าการใช้ AI เพียงอย่างเดียว

...

“High Touch จะชนะ High Tech เสมอ ผมเชื่อว่าไม่มีระบบอัตโนมัติใดจะมาแทนที่ความรักและความใส่ใจที่มนุษย์มีให้กันได้ ความเข้าอกเข้าใจ (Empathy) ที่เรามีต่อลูกค้าคือสิ่งที่ AI ไม่มี” อมฤตกล่าว

ข้อเสนอแนะถึงภาครัฐ

กลุ่มอุตสาหกรรมดิจิทัล ส.อ.ท. ได้เสนอแนะให้ภาครัฐเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนการปรับตัวของภาคธุรกิจ ดังนี้

  • สร้างกรณีศึกษา - เผยแพร่ตัวอย่างความสำเร็จของ SME ที่นำ AI ไปใช้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ
  • จัดกิจกรรมให้ความรู้ - จัดโรดโชว์ทั่วประเทศเพื่อให้ธุรกิจตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลง
  • สนับสนุนเงินทุนและเครื่องมือ - จัดหาแหล่งทุนและสร้างมาร์เก็ตเพลสให้ภาคธุรกิจเข้าถึง AI ได้ง่าย
  • สร้างเวทีหารือ - จัดการประชุมระหว่างผู้นำธุรกิจเพื่อร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์รับมือผลกระทบของ AI ในแต่ละอุตสาหกรรม