ซัมซุงเปิดตัว Galaxy S25 Edge สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่ชูจุดเด่นด้านความบางเฉียบเพียง 5.8 มิลลิเมตร พร้อมสเปกระดับเรือธง

Galaxy S25 Edge เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว หลังจากมีการเกริ่นนำว่าจะมีอีกหนึ่งรุ่นในซีรีส์ Galaxy S25  โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้จะเริ่มวางจำหน่ายในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,099 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 39,900 บาท)

Galaxy S25 Edge ซึ่งเป็นรุ่นที่แตกต่างจากอุปกรณ์ตระกูล Edge ในอดีตของซัมซุง โดยวางตำแหน่งให้เป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นความบางเป็นพิเศษ แม้จะมาพร้อมกับสเปกภายในระดับเดียวกับซีรีส์ Galaxy S25 รุ่นอื่นๆ แต่มีความหนาของตัวเครื่องเพียง 5.8 มิลลิเมตร ซึ่งบางกว่า Galaxy S25 Ultra ประมาณ 30%

ถึงแม้ตัวเครื่องจะบางลง แต่คุณสมบัติหลักยังคงความเป็นเรือธงอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ QHD+ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว อัตรารีเฟรช 120Hz พร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบอัลตราโซนิก หน่วยความจำขนาด 12GB และมีตัวเลือกหน่วยความจำภายใน 256GB หรือ 512GB ขับเคลื่อนด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 8 Elite

ในด้านกล้องถ่ายภาพมีด้วย 3 ตัว ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นเซนเซอร์เดียวกับที่ใช้ใน Galaxy S25 Ultra, กล้องอัลตราไวด์ 12 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าสำหรับถ่ายเซลฟี่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้จะไม่มีเลนส์เทเลโฟโต้

วัสดุที่ใช้ในการผลิต Galaxy S25 Edge เป็นวัสดุระดับพรีเมียมเช่นเดียวกับรุ่นเรือธงอื่นๆ โดยมีกรอบตัวเครื่องทำจากไทเทเนียม ด้านหลังใช้กระจก Gorilla Glass Victus 2 และด้านหน้าเป็น Gorilla Glass Ceramic 2 นอกจากนี้ยังมาพร้อมคุณสมบัติการกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 และมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Jetblack, Icyblue และ Silver

...

Galaxy S25 Edge สี Jetblack
Galaxy S25 Edge สี Jetblack

Galaxy S25 Edge สี Icyblue
Galaxy S25 Edge สี Icyblue

Galaxy S25 Edge สี Silver
Galaxy S25 Edge สี Silver

จุดเด่นที่น่าสนใจอีกประการคือ น้ำหนักของตัวเครื่องที่เบาเพียง 163 กรัม ซึ่งเบากว่า Galaxy S25 Ultra ถึง 25% และหนักกว่า Galaxy S25 รุ่นพื้นฐานที่มีขนาดหน้าจอเล็กกว่าเพียง 1 กรัมเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่อาจต้องพิจารณาเป็นพิเศษคือเรื่องของแบตเตอรี่ โดยมีความจุอยู่ที่ 3,900 mAh ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับมาตรฐานสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน 

ด้านซอฟต์แวร์ Galaxy S25 Edge จะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 15 และอินเตอร์เฟส One UI 7 ตั้งแต่แกะกล่อง พร้อมด้วยฟีเจอร์ AI ต่างๆ จากทั้งซัมซุงและกูเกิล

สำหรับราคาจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา Galaxy S25 Edge รุ่นความจุ 256GB จะเริ่มต้นที่ 1,099 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 39,900 บาท) และรุ่นความจุ 512GB ราคา 1,219 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 44,000 บาท) และจะเริ่มจัดส่งสินค้าในวันที่ 30 พฤษภาคมนี้