รวมแอปพลิเคชันต้องมี! พิชิตการเดินทางหลังสงกรานต์

หลังวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ อาจมาพร้อมความท้าทายเล็กน้อย โดยเฉพาะเรื่องการเดินทางและการใช้ชีวิตประจำวัน แต่ด้วยพลังของเทคโนโลยีในปัจจุบัน คุณสามารถรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

แอปนำทางอัจฉริยะและการจราจรเรียลไทม์

การจราจรหลังเทศกาลอาจคาดเดาได้ยาก แอปพลิเคชันนำทางจึงเป็นเครื่องมือชิ้นเอกที่ทุกคนรู้จักกันดีอย่าง Google Maps ถือเป็นแอปสามัญประจำเครื่อง ด้วยฐานข้อมูลแผนที่ละเอียดและการแสดงสภาพจราจรแบบเรียลไทม์ผ่านแถบสีที่เข้าใจง่าย เทคโนโลยีอย่าง Street View ช่วยให้เห็นภาพถนนจริงก่อนเดินทาง และฟีเจอร์ดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ก็มีประโยชน์มากในพื้นที่อับสัญญาณหรือเมื่อต้องการประหยัดอินเทอร์เน็ต การตั้งค่าเลี่ยงค่าผ่านทาง หรือการเพิ่มจุดแวะพักหลายจุด ก็เป็นฟังก์ชันทางเทคนิคที่ช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้น

อีกแอปที่โดดเด่นคือ Waze ซึ่งใช้พลังของเทคโนโลยี Crowdsourcing รายงานข้อมูลจากผู้ใช้ด้วยกันเองแบบเรียลไทม์ ทำให้ทราบถึงอุบัติเหตุ หรือสิ่งกีดขวางต่างๆ ได้รวดเร็วเป็นพิเศษ การแจ้งเตือนเหล่านี้ช่วยให้ Waze สามารถแนะนำเส้นทางเลี่ยงที่อัปเดตและมีประสิทธิภาพ

สำหรับข้อมูลจราจรและอุบัติเหตุที่คนไทยรู้จักกันดีอย่าง JS100 Application เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเชื่อมโยงกับเครือข่ายวิทยุ จส.100

จุดเด่นคือการรายงานเหตุการณ์พร้อมข้อมูลเชิงลึก และที่สำคัญคือเทคโนโลยี "SOS" ที่ให้ผู้ใช้กดขอความช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนได้โดยตรง ถือเป็นเครือข่ายความปลอดภัยดิจิทัลที่พึ่งพาได้ยามคับขัน

นอกจากนี้ ยังมีแอปเฉพาะทางอย่าง Highway Traffic ที่เน้นแสดงภาพจากกล้องจราจรบนทางหลวง หรือ TSquare Traffic ที่ใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์บนรถแท็กซี่ ซึ่งอาจให้ข้อมูลที่แม่นยำเป็นพิเศษในบางเส้นทาง

แอปแจ้งเตือนภัยและขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน

ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญเสมอ แอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT คือเครื่องมือหลักที่ทุกคนควรมีติดเครื่อง พัฒนาโดยภาครัฐเพื่อแจ้งเตือนภัยพิบัติอย่างเป็นทางการ เทคโนโลยีของแอปนี้สามารถส่งการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ตามตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้ หากเปิด Location หรือตามจังหวัดที่ตั้งค่าไว้ได้ นอกจากนี้ยังรวบรวมเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินที่สำคัญไว้อีกด้วย

เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนท้องถนน ฟีเจอร์ SOS ในแอป JS100 ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น คือเทคโนโลยีช่วยชีวิตที่สำคัญยิ่งสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนในไทย เพียงกดปุ่มระบบจะเชื่อมต่อคุณกับศูนย์ช่วยเหลือของ จส.100 โดยตรงเพื่อขอความช่วยเหลือได้ทันท่วงที

นอกจากนี้ยังมีแอปป่อเต็กตึ๊ง 1418 เป็นอีกช่องทางเทคโนโลยีในการขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน โดยเฉพาะด้านการแพทย์และอุบัติเหตุ ซึ่งเชื่อมต่อโดยตรงกับหน่วยกู้ภัย การมีแอปแจ้งเตือนภัยทั่วไปควบคู่ไปกับแอปขอความช่วยเหลือเฉพาะทางเป็นการสร้างเครือข่ายความปลอดภัยดิจิทัลที่ครอบคลุมยิ่งขึ้น

จัดการแบตเตอรี่และอินเทอร์เน็ต

การใช้แอปนำทาง เรียกรถ หรือสตรีมมิงต่างๆ ต่อเนื่อง ย่อมส่งผลต่อแบตเตอรี่และปริมาณอินเทอร์เน็ตมือถือ การจัดการทรัพยากรเหล่านี้จึงเป็นทักษะทางเทคนิคที่จำเป็น เทคนิคการประหยัดแบตเตอรี่ทำได้ง่ายๆ ผ่านการตั้งค่าบนสมาร์ทโฟน เช่น ลดความสว่างหน้าจอ, เปิดโหมดประหยัดพลังงาน, ปิดการเชื่อมต่อที่ไม่ใช้ เช่น Wi-Fi, Bluetooth เมื่อไม่จำเป็น, หรือจำกัดการทำงานเบื้องหลังของแอปที่ไม่สำคัญ

สำหรับการประหยัดอินเทอร์เน็ต การเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่น่าเชื่อถือเป็นทางเลือกแรกเสมอ เปิดใช้งานโหมดประหยัดข้อมูล (Data Saver/Low Data Mode) ในการตั้งค่ามือถือ และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีออฟไลน์ เช่น ดาวน์โหลดแผนที่ Google Maps ล่วงหน้า หรือดาวน์โหลดเพลง/วิดีโอมาเก็บไว้ การหมั่นตรวจสอบว่าแอปใดใช้ข้อมูลมากที่สุด และจำกัดการใช้ข้อมูลเบื้องหลังของแอปที่ไม่จำเป็น ก็ช่วยได้มากเช่นกัน การจัดการทรัพยากรเหล่านี้อย่างชาญฉลาดจะช่วยให้คุณใช้ประโยชน์จากแอปต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ตลอดวัน

ติดตามสถานการณ์ผ่านช่องทางดิจิทัล

การรับทราบข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสภาพการจราจร หรือประกาศสำคัญต่างๆ เป็นสิ่งจำเป็น ช่องทางดิจิทัลที่น่าเชื่อถือสำหรับข้อมูลจราจรและอุบัติเหตุแบบเรียลไทม์ในไทย ได้แก่ แอป/วิทยุ JS100, FM91 Trafficpro, และเว็บไซต์/แอป Longdo Traffic ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งและแสดงผลบนแผนที่

สำหรับประกาศอย่างเป็นทางการ ควรติดตามจากช่องทางดิจิทัลของหน่วยงานโดยตรง เช่น เว็บไซต์และโซเชียลมีเดียของสำนักงานประชาสัมพันธ์ กทม. หรือกองบังคับการตำรวจจราจร และตำรวจทางหลวง การพึ่งพาแหล่งข้อมูลดิจิทัลเฉพาะทางเหล่านี้ จะให้ข้อมูลที่ถูกต้องและอัปเดตกว่าการติดตามข่าวสารทั่วไปเพียงอย่างเดียว

เตรียมแอปธนาคารให้พร้อมใช้

แอปพลิเคชันธนาคารบนมือถือ (Mobile Banking) กลายเป็นเครื่องมือทำธุรกรรมที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน สิ่งสำคัญอย่างยิ่งคือการดูแลด้านเทคนิคให้แอปพร้อมใช้งานเสมอ ซึ่งสิ่งที่ต้องทำมีดังนี้

• การอัปเดตแอปพลิเคชัน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแอปธนาคารของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ
• การอัปเดตระบบปฏิบัติการ (OS): ต้องอัปเดต iOS หรือ Android บนสมาร์ทโฟนให้เป็นเวอร์ชันขั้นต่ำตามที่แต่ละธนาคารกำหนด หาก OS ต่ำกว่าเกณฑ์ อาจส่งผลให้ไม่สามารถเข้าใช้งานแอปได้
• การปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัย: โดยเฉพาะข้อกำหนดล่าสุดที่ชื่อเจ้าของบัญชีโมบายแบงก์กิ้งต้องตรงกับชื่อผู้ลงทะเบียนซิมการ์ด หากไม่ตรงกัน ผู้ใช้จำเป็นต้องติดต่อผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือเพื่อแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนด มิฉะนั้น อาจถูกระงับการใช้งานแอปชั่วคราวตามมาตรการของธนาคารและหน่วยงานกำกับดูแล

การตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดทางเทคนิคเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถใช้บริการธนาคารบนมือถือได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย