เสียวหมี่เปิดตัว Xiaomi 15 Series อย่างเป็นทางการในไทย โดยมุ่งเน้นที่การถ่ายภาพเป็นหัวใจหลัก มีด้วยกัน 2 โมเดลได้แก่ Xiaomi 15 และ Xiaomi 15 Ultra โดยตัวท็อปอย่างรุ่นอัลตราอัดแน่นด้วยฟีเจอร์การถ่ายภาพจาก Leica Summilux
Xiaomi 15 Ultra มีขนาดหน้าจอ 6.73 นิ้ว WQHD+ AMOLED ความละเอียด 3200 x 1440 พิกเซล ค่าความสว่างสูงสุด 3200 nits นอกจากนี้ยังมี 1Hz Always-Active Display ที่แสดงข้อมูลสำคัญอย่างเวลาและแจ้งเตือนแบบต่อเนื่อง แต่ไม่กินแบตเตอรี่มากเกินไป

...
จุดขายหลักของ Xiaomi 15 Ultra อยู่ที่การถ่ายภาพ โดยมีเซนเซอร์หลัก Sony LYT-900 ขนาด 1 นิ้ว ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล กับเลนส์ Leica Summilux รูรับแสงกว้าง ƒ/1.63 โดยเลนส์หลัก 23 มม. ซึ่งจุดเด่นอยู่ตรงที่การดึงรายละเอียดแสงและเก็บรายละเอียดชิ้นงานได้เยอะ แม้ถ่ายในที่มืดหรือกลางคืน นอกจากกล้องหลักก็ยังมีเลนส์เทเลโฟโต 70 มม. ซึ่งออกแบบให้ระยะโฟกัสลอยตัว ถ่ายบุคคลหรือมาโครได้ดี และการถ่ายซูมระยะไกลก็มีเลนส์เทเลโฟโต 100 มม. ความละเอียด 200 ล้านพิกเซล ช่วยให้ซูมได้ไกลถึง 200 มม. ผ่านเทคโนโลยีซูมในเซ็นเซอร์ และเลนส์อัลตราไวด์ 14 มม.
ตัวเครื่องของ Xiaomi 15 Ultra มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีขาว และสีเงิน Silver Chrome ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซน์กล้องสมัยก่อน มองเผินๆ คล้ายกับกล้องคอมแพค และรุ่นสี Silver Chrome ได้ผสานวัสดุไฟเบอร์กลาสระดับอากาศยานเข้ากับหนัง PU แบบพรีเมียม

ขณะที่ Xiaomi 15 รุ่นรองของซีรีส์นี้ มีกล้องหลังด้วยกัน 3 ตัว ใช้เลนส์ Leica Summilux เหมือนกัน เพียงแต่ลดจำนวนชิ้นเลนส์เป็นแบบ 7P และมี Light Fusion 900 ช่วยขยายไดนามิกและเก็บแสงได้ดี กล้องเทเลโฟโตลอยตัว Leica 60 มม. ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ก็ถ่ายมาโครได้สุดที่ 10 ซม. ส่วนอัลตราไวด์ 14 มม. ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง ƒ/2.2 ช่วยจับภาพมุมกว้าง
จุดเด่นของการถ่ายภาพอยู่ที่โหมด Fastshot ที่โฟกัสและกดชัตเตอร์ได้ใน 0.6 วินาที ซึ่งออกแบบมาให้ถ่ายภาพสตรีท
Xiaomi 15 มีขนาดหน้าจอ 6.36 นิ้ว ความละเอียด 2670×1200 (460 ppi) ค่าความสว่างสูงสุด 3200 nits ทั้งนี้ Xiaomi 15 มีด้วยกัน 4 สี ได้แก่ สีดำ, สีขาว, สีเขียว และสีเงิน Liquid Silver

Xiaomi 15 Series ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite นอกจากนี้ยังมี Xiaomi IceLoop ระบบระบายความร้อนที่ออกแบบให้รองรับโหลดหนักอย่างถ่ายวิดีโอ 4K หรือ AI แบบเรียลไทม์ โดยไม่กระตุก
...
อินเตอร์เฟซเป็น Xiaomi HyperOS 2 ที่ใส่เทคโนโลยีหลักสามส่วนคือ HyperCore, HyperConnect และ HyperAI ตอบโจทย์ตั้งแต่ความลื่นไหล, ระบบความปลอดภัย, ไปจนถึงฟีเจอร์ AI Writing หรือ AI Speech Recognition ช่วยสร้างคอนเทนต์หรือทำงานได้คล่องขึ้น ส่วน AI Creativity Assistant ก็เสริมการถ่ายภาพ/วิดีโอให้โปรขึ้นด้วย AI Image Enhancement, AI Eraser Pro
พร้อมกันนี้ ผู้ใช้งานที่ใช้ Google Gemini สามารถเชื่อมต่อเข้ากับแอปพลิเคชันของ Xiaomi อย่าง Notes, Calendar และ Clock ได้อีกด้วย
สำหรับราคาของ Xiaomi 15 Series มีดังนี้

- Xiaomi 15 Ultra (16GB + 1TB) สีเงิน Silver Chrome ราคา 46,990 บาท
- Xiaomi 15 Ultra (16GB + 512GB) สีเงิน Silver Chrome, สีดำ และสีขาว ในราคา 42,990 บาท
- Xiaomi 15 (12GB + 512GB) สีเขียว, สีดำ, สีขาว และสีเงิน Liquid Silver (ขายที่ mi.com) ราคา 29,990 บาท
- Xiaomi 15 (12GB + 256GB) สีเขียว, สีดำ และสีขาว Green ราคา 26,990 บาท
