กูเกิลเพิ่มความสามารถใหม่ๆ ให้กับแอปพลิเคชัน Gemini ในเวลาเดียวกันได้เปิดตัว Gemini 2.0 Pro โมเดลที่ทรงพลังที่สุดของบริษัท

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา กูเกิลประกาศเปิดตัว Gemini 2.0 Flash Thinking Experimental ซึ่งเป็นโมเดลที่เน้นการให้เหตุผล โดยเปิดให้ใช้งานทั้งบนเดสก์ท็อปและมือถือ นอกจากนี้ บริษัทยังเปิดตัว Gemini 2.0 Pro, ขยายการเข้าถึง Gemini 2.0 Flash ใน AI Studio และ Vertex AI รวมถึงแนะนำโมเดลต้นทุนต่ำที่เรียกว่า Flash-Lite

แน่นอนว่ากูเกิลจำเป็นต้องเร่งขยายขีดความสามารถของเอไออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการมาของ DeepSeek R1 เมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือนในวงการเอไอเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถแข่งขันกับโมเดลชั้นนำได้ แม้มีต้นทุนการพัฒนาที่ต่ำกว่าอย่างมากก็ตาม

ในช่วงที่ผ่านมา กูเกิลได้ลงทุนในเอไออย่างหนัก โดยเพิ่มงบประมาณด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านเอไอจากเดิม 32,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปเป็น 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

Gemini 2.0 Flash Thinking ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในเดือนธันวาคม เพื่อใช้แข่งขันกับโมเดล o1 และ o3-mini ของโอเพนเอไอ โดยมีความสามารถในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนและสามารถอธิบายกระบวนการคิดได้ เดิมทีโมเดลนี้มีให้ใช้งานเฉพาะใน AI Studio แต่ขณะนี้สามารถทดลองใช้ได้ผ่านแอปพลิเคชัน Gemini 

นอกจากนี้ กูเกิลยังเพิ่มเวอร์ชันที่สามารถทำงานร่วมกับ YouTube, Google Maps และ Google Search ซึ่งช่วยให้โมเดลสามารถค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตได้ เช่น หากถามว่า เดินไปจีนจะใช้เวลากี่วัน? 

ทั้งนี้ โมเดลเวอร์ชันปกติจะใช้ข้อมูลจากฐานความรู้ของตัวเองเพื่อตอบ แต่ในเวอร์ชันที่เชื่อมกับ Google Maps โมเดลจะใช้บริการแผนที่เพื่อให้คำตอบโดยตรง

สำหรับการเปิดตัว Gemini 2.0 Pro ถือเป็นการพัฒนาเชิงเทคนิคที่สำคัญที่สุด โดยกูเกิลระบุว่านี่คือโมเดลที่ทรงพลังที่สุดของบริษัท เหมาะสำหรับงานเขียนโค้ดและการจัดการงานที่ซับซ้อน 

...

ขณะที่ Gemini 2.0 Flash-Lite มาพร้อมกับ context window ขนาด 1 ล้านโทเค็น รองรับอินพุตแบบมัลติโหมด และทำงานที่ความเร็วและราคาสูงสุดเทียบเท่ากับ 1.5 Flash แม้จะเป็นโมเดลขนาดเล็ก แต่ก็ให้ประสิทธิภาพที่คุ้มค่า ปัจจุบันสามารถทดลองใช้งานได้ใน AI Studio และ Vertex AI

ที่มา: 9to5Google