ออปโป้ (OPPO) พาสื่อมวลชนชมศูนย์ปฏิบัติการที่เมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน สัมผัสเบื้องหลังการพัฒนานวัตกรรมล้ำสมัย ด้วยการนำ AI และหุ่นยนต์มาใช้เพื่อยกระดับการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพิ่มขีดความสามารถให้กับสมาร์ทโฟน รวมถึงอุปกรณ์แก็ดเจ็ตที่ช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกและง่ายดายยิ่งขึ้น
ทุกวันนี้เราสามารถพบเห็นการใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นในที่ทำงาน ในล็อบบี้ของโรงแรม ไปจนถึงหุ่นยนต์อัจฉริยะที่ส่งอาหารในร้านอาหาร ซึ่งพบเห็นได้อย่างแพร่หลายมากขึ้น แต่นอกเหนือจากการบริการแล้ว หุ่นยนต์และ AI เหล่านี้ยังอยู่เบื้องหลังการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของออปโป้ (OPPO) ที่นำทั้งสองอย่างนี้มาเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการพัฒนาสินค้าและบริการของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน, เทคโนโลยีภาพถ่าย, เทคโนโลยี Extended Reality (XR), สุขภาพอัจฉริยะ และอื่นๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ ออปโป้ (OPPO) ยังได้นำแขนหุ่นยนต์อัจฉริยะมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมถึงการทดสอบประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อทำงานที่ต้องการความแม่นยำและความสม่ำเสมอสูงสุดได้ดีกว่ามนุษย์ รวมทั้งยังสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ ซึ่งช่วยเพิ่มผลผลิตได้เป็นจำนวนมาก
OPPO Intelligent Imaging Lab : การพัฒนามาตรฐานสำหรับการทดสอบกล้องในสมาร์ทโฟน
...
สมาร์ทโฟน OPPO แต่ละเครื่องผ่านการทดสอบกล้องหลายร้อยครั้งในระหว่างขั้นตอนการพัฒนา ใน Intelligent Imaging Lab ที่ศูนย์พัฒนาของ OPPO ในเมืองตงก่วน ด้วยการสร้างแบบจำลองของฉากต่างๆ สำหรับการทดสอบการถ่ายภาพและการถ่ายวิดีโอ ซึ่งจำลองสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ เช่น ร้านอาหาร บาร์ ห้องคาราโอเกะ และห้างสรรพสินค้า เพื่อทำการทดสอบถ่ายภาพในแสงสีที่ต่างกันเพื่อให้ได้ภาพที่สวยคมชัดในทุกสภาพแสง โดยปล่อยให้หุ่นยนต์เดินไปรอบๆ ฉากเพื่อถ่ายภาพด้วยตัวเอง ซึ่งการทดสอบด้วยวิธีนี้ช่วยลดระยะเวลาจากที่เคยต้องใช้เวลาหลายวัน เหลือเพียงแค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น
OPPO Communication Lab : ทดสอบการเชื่อมต่อได้ในทุกสถานการณ์
ปัจจุบันเราใช้สมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานต่างๆ ในชีวิตประจำวันมากมาย ตั้งแต่การค้นหาข้อมูลไปจนถึงการถ่ายภาพและเล่นเกม OPPO Communication Lab คือห้องปฏิบัติการที่มีการพัฒนาและทดสอบเพื่อให้การเชื่อมต่อสื่อสารได้อย่างไม่มีสะดุด โดยใน Communication Lab สามารถจำลองสภาพแวดล้อมเครือข่ายที่แตกต่างกัน เช่น รถไฟความเร็วสูงและสถานที่ที่มีผู้คนหนาแน่น เพื่อพัฒนาโซลูชันเพื่อรองรับสภาพเครือข่ายที่ท้าทาย นอกจากนี้ยังสามารถจำลองเครือข่ายของผู้ให้บริการระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วโลกสามารถเชื่อมต่อการสื่อสารได้อย่างราบรื่น
OPPO NFC Lab : ทดสอบการใช้ NFC ที่แม่นยำ
ใน OPPO NFC Lab สมาร์ทโฟนแต่ละเครื่องผ่านการทดสอบหลายหมื่นรอบ เพื่อให้แน่ใจว่าการอ่านและเขียนบนเทอร์มินัล NFC ประเภทต่างๆ มีความแม่นยำ โดยติดตั้งแขนหุ่นยนต์อัจฉริยะในห้องปฏิบัติการ เพื่อให้เกิดกระบวนการทดสอบอัตโนมัติที่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ปัจจุบัน NFC อนุญาตให้ผู้ใช้ในต่างประเทศใช้งานผ่าน Google Pay และการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตส่วนใหญ่ได้ ใน OPPO Find N3 Flip ได้เพิ่มฟังก์ชันการ์ด NFC และฟังก์ชันปลดล็อกประตู NFC เพื่อรองรับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น
OPPO XR Lab : ยกระดับประสบการณ์ เทคโนโลยี Extended Reality (XR)
ห้องปฏิบัติการ XR ของ OPPO ใช้แขนหุ่นยนต์ในการจำลองตำแหน่งและมุมต่างๆ ของอุปกรณ์ที่สวมศีรษะ ซึ่งช่วยให้ทีมงานสามารถปรับเทียบจอแสดงผล กล้องฟิชอาย และกล้อง VST ตามภาพที่ถ่ายและแสดงได้ การใช้เทคโนโลยีนี้ช่วยให้แน่ใจว่าวัตถุในพื้นที่เสมือนสอดคล้องกับสิ่งที่ตามนุษย์มองเห็นในโลกแห่งความเป็นจริง ทำให้เกิดความรู้สึกเสมือนจริง เทคโนโลยีอัตโนมัติของหุ่นยนต์ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพ ให้ OPPO สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดียิ่งขึ้น
...
OPPO Health Lab : ทำให้การจัดการสุขภาพเชิงป้องกันกลายเป็นความจริงในชีวิตประจำวัน
OPPO Health Lab ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในปี 2021 โดยจัดตั้งห้องปฏิบัติการทางกายภาพหลักสามแห่งในด้านการวิจัย ด้านฟิตเนส คลินิก และการนอนหลับ เพื่อมุ่งเน้นความพยายามในการวิจัยในด้านต่างๆ เช่น สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด การออกกำลังกาย สุขภาพการนอนหลับ สุขภาพจิต และการดูแลทางการแพทย์ทางไกล ในปัจจุบัน OPPO Health Lab ได้รับสิทธิบัตรการประดิษฐ์มากกว่า 100 ฉบับ
...
ล่าสุด OPPO เปิดตัว Watch 4 Pro ใหม่ ด้วยการใช้อัลกอริทึมการประเมินหัวใจและหลอดเลือดที่พัฒนาโดย OPPO นาฬิกาอัจฉริยะ สามารถตรวจจับความยืดหยุ่นของหลอดเลือด ช่วยให้ผู้ใช้ระบุความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดตีบได้ทันเวลา นอกจากนี้ สมาร์ทวอตช์ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการจดจำรูปแบบการวิ่งใหม่ ซึ่งสามารถตรวจจับความสมดุลของเท้าซ้ายและขวาของนักวิ่ง ความถี่ก้าว ความยาวก้าว และตัวชี้วัดอื่นๆ ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ อัลกอริทึม และวิทยาศาสตร์ข้อมูล เพื่อให้การจัดการสุขภาพในแต่ละวันเป็นจริง โดยข้อมูลและการวิเคราะห์ที่อยู่เบื้องหลังโซลูชันด้านสุขภาพขั้นสูงเหล่านี้ มาจากห้องปฏิบัติการด้านสุขภาพของ OPPO เอง ซึ่งใช้อุปกรณ์กีฬาและการตรวจสอบต่างๆ เพื่อรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลด้านสุขภาพที่หลากหลาย
...
OPPO AndesBrain (Binhaiwan Bay) IDC : ขับเคลื่อนประสบการณ์การใช้อินเทอร์เน็ต
เพื่อตอบสนองต่อความต้องการการจัดเก็บข้อมูล AI และการประมวลผลประสิทธิภาพสูงที่เพิ่มขึ้น OPPO จึงเริ่มสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่แห่งแรก OPPO AndesBrain (Binhaiwan Bay) IDC ในเดือนมกราคม 2020
ขณะนี้ OPPO มีผู้ใช้งาน ColorOS หลายร้อยล้านรายต่อเดือนทั่วโลก ศูนย์ข้อมูลมีพลังการประมวลผลและแบนด์วิธ เพื่ออำนวยความสะดวกในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ และสนับสนุนวิศวกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ OPPO ด้วยการลงทุนที่เพิ่มขึ้นของ OPPO ใน AI ศูนย์ข้อมูลยังมอบพลังการประมวลผลที่แข็งแกร่งเพื่อดำเนินงาน AI และพัฒนาโซลูชัน AI
OPPO AndesBrain (Binhaiwan Bay) IDC บูรณาการโครงสร้างพื้นฐานและนวัตกรรมทางธุรกิจเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ศูนย์ข้อมูลใช้ระบบเก็บน้ำฝนเพื่อหมุนเวียนความเย็น นอกจากนี้ยังใช้การระบายความร้อนแบบจุ่มแทนการระบายความร้อนด้วยอากาศสำหรับคลัสเตอร์เซิร์ฟเวอร์ GPU ประสิทธิภาพสูง ซึ่งนำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างน่าประทับใจ
นอกจากได้เปิดประสบการณ์ชมเบื้องหลังศูนย์ปฏิบัติการเทคโนโลยีล้ำสมัยของ OPPO แล้ว ยังได้ไปเยือน OPPO’s Intelligent Manufacturing Center ที่เมืองตงก่วน เพื่อชมสายการผลิตและการทดสอบสำหรับสมาร์ทโฟนจอพับรุ่น OPPO Find N3 ซึ่งประกอบด้วยกระบวนการที่แตกต่างกันมากกว่า 100 กระบวนการ ภายใต้สามขั้นตอนหลัก คือ การประมวลผลเบื้องต้น การประกอบ และการทดสอบ
ซึ่งกระบวนการผลิตสมาร์ทโฟนจอพับมีความซับซ้อนกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป จึงจำเป็นต้องมีขั้นตอนเพิ่มเติมสำหรับสิ่งต่างๆ เช่น การประกอบบานพับ การประมวลผล และการทดสอบหน้าจอแบบพับได้ เพื่อให้เข้าใจถึงสิ่งต่างๆ ซึ่ง Find N3 ใช้เวลาประมาณสองเท่าของในการประกอบ Find X6 Pro เพื่อความพิถีพิกันในการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงสุด