บุกโลก Metaverse ไปกับ 5 สุดยอดเกม VR

กระแส Virtual Reality หรือ VR ค่อยๆ เข้าสู่มือผู้บริโภคส่วนใหญ่มานานเป็นเวลานับ 10 ปีแล้วแต่ก็ยังไม่ปังซะที จนกระทั่ง Facebook เข้ามาซื้อบริษัท Oculus และเริ่มเอาจริงเอาจังด้วยการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น "meta" นี่แหละ ที่ทำให้กระแส VR และเกม VR เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โชคดีที่ในช่วงเวลาหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา เรามีทีมพัฒนาเกมเก่งๆ เข้ามาปล่อยของในรูปแบบ VR ให้เล่นกันเยอะพอสมควร ซึ่งบรรดาเกม VR ที่ทำออกมาดีๆ พวกนี้นี่แหละ ที่จะมาช่วยทำให้ผู้บริโภคตามบ้านอย่างเราได้เห็นว่าประสบการณ์ที่ได้ในโลกเสมือนแห่งอนาคตอย่าง Metaverse มันมีศักยภาพมากแค่ไหน ต่อไปนี้คือ 5 เกม VR ระดับขึ้นหิ้งที่เด็ดที่สุดเท่าที่จะหาได้ในตอนนี้ หากคุณอยากรู้ว่าโลก VR ตอนนี้มันล้ำแค่ไหน ต้องลองหาเกมเหล่านี้มาเล่นกันให้ได้!

Half-Life: Alyx เกม VR ระดับบล็อกบัสเตอร์ที่สนุกจนหยุดไม่ได้

เมื่อใดที่มีคนมาถามว่าเกม VR ที่ควรเล่นจริงๆ คือเกมอะไร? พนันได้เลยว่า Half-Life: Alyx จะเป็นชื่อที่หลุดออกมาเป็นชื่อแรกๆ เพราะมันไม่ได้เป็นเกมที่สนุกเพียงเพราะว่าอยู่ในฟอร์แมตของ VR แต่มันคือภาคต่อของเกม FPS ในตำนานที่ชื่อว่า "Half-Life" แบบตัวจริงเสียงจริง เล่นสนุกจริง และทุ่มทุนจริงแบบไม่ตกมาตรฐานซีรีส์ โลกในเกมที่มนุษย์ถูกปกครองด้วยเผ่าเอเลี่ยน และมหานคร City-17 ที่เราต้องผจญภัยต่างเต็มไปด้วยรายละเอียดเล็กน้อยที่ทำให้มันรู้สึกสมจริงซะเหลือเกิน ทั้งโมเดลของศัตรูที่มีอนิเมชันการเคลื่อนไหวเนียนซะน่ากลัว ตึกรามบ้านช่องก็เต็มไปด้วยซากปรักหักพังและสิ่งก่อสร้างรูปร่างประหลาดของเอเลี่ยน และที่สำคัญคือยังมีสิ่งของชิ้นเล็กชิ้นน้อยประกอบอยู่ในฉากมากมายซึ่งผู้เล่นสามารถหยิบฉวยมาเล่นได้แทบทั้งหมด ทำให้คุณไม่รู้สึกว่ามันเป็นแค่การเล่นเกม แต่เหมือนกับเราได้สัมผัสประสบการณ์การผจญภัยในต่างแดนจริงๆ

นอกจากนี้ ด่านในเกมยังได้รับการออกแบบมาให้เล่นสนุกอย่างต่อเนื่องไม่มีเบื่อ ผู้เล่นไม่ได้แค่เดินยิงไปวันๆ ให้มันผ่านไป แต่จะมีช่วงพักแก้ปริศนาบ้าง ช่วงยืนดูเหตุการณ์สำคัญของเรื่องบ้าง หรือช่วงเจอกับศัตรูหน้าใหม่บ้าง ฉากเหล่านี้ได้รับการเรียงร้อยเข้าด้วยกันอย่างประณีต ผลลัพธ์คือการที่เกมนี้ได้เข้ามาช่วยยกระดับวงการเกมแนวเดินหน้ายิงขึ้นไปอีกขั้น เนื่องจากการได้ยิงสู้กับศัตรูในโลก VR ที่สวยงามสมจริงนั้นช่างเหนือกว่าการคลิกเมาส์บนหน้าจอแบนๆ ราวฟ้ากับเหวเลยทีเดียว

Resident Evil 4 VR การรีเมกเกมเก่าคลาสสิกในแบบ VR ที่ไม่ได้ด้อยค่าความสนุก (แต่ดันสนุกกว่าเดิม)

ถึงนี่จะป็นเกม VR ที่รีเมกมาจากเกมคลาสสิกอายุเกือบ 20 ปี แต่ความสนุกของมันไม่ได้ถดถอยไปตามกาลเวลาแม้แต่น้อย เอาจริงๆ ถ้าวัดกันในแง่ความสนุกของการเล่นโหมดเนื้อเรื่อง RE4 VR อาจจะประชันกับเกมอย่าง Half-Life: Alyx ได้เลยด้วยซ้ำ การที่เกมแนวเอาชีวิตรอดจากผีชีวะอย่าง RE4 ผันตัวเป็นเกม VR อย่างสมบูรณ์ ทำให้ความเงอะงะจากการบังคับตัวละครในเวอร์ชันดั้งเดิมหายวับไปกับตา เหลือแค่จังหวะการยิงต่อสู้กับผีซอมบี้ที่รวดเร็วขึ้น เป๊ะขึ้น และเพลิดเพลินขึ้น และถึงแม้การยิงศัตรูจะทำได้ง่ายขึ้น แต่ผู้เล่นก็ต้องมาฝึกเล็งอาวุธและเติมกระสุนปืนให้คล่องด้วยมือตัวเองแทน องค์ประกอบจาก VR ที่เพิ่มเข้ามานั้นดันเข้ากับจุดเด่นเดิมของเกม RE4 (โทนเรื่องหนังสยองขวัญเกรดบี ระบบจัดการช่องเก็บของและอัปเกรดปืน ฉากแอ็กชันที่หลากหลาย ฯลฯ) อย่างเป็นเนื้อเดียว เลยทำให้การเล่นเกมนี้อีกรอบในเวอร์ชัน VR ไม่ได้รู้สึกเหมือนเล่นเกมซ้ำ แต่เหมือนได้เล่นเวอร์ชันที่สนุกที่สุดของเกมแทน

นอกจากระบบการเล่นกับอาวุธจะช่วยเพิ่มความสลับซับซ้อนให้เกมท้าทายขึ้น มันยังช่วยยกระดับความสนุกไปพร้อมกันด้วย เนื่องจากวิธีการใช้ปืนแต่ละชนิดนั้นค่อนข้างต่างกันอย่างสิ้นเชิง ปืนพกสามารถเปลี่ยนแม็กกาซีนเพื่อยิงต่อเนื่องได้อย่างรวดเร็ว แต่อาจไม่แรงนัก ปืนลูกซองแม้จะแรงโหดในระยะประชิด แต่ก็ต้องขึ้นลำทุกครั้งหลังยิง (เชื่อว่าเกมเมอร์ทุกคนอยากทำมานานแล้ว) ในขณะที่ปืนไรเฟิลซุ่มยิงก็ต้องใช้ความใจเย็นหน่อย ผู้เล่นอาจจะต้องเล็งผ่านกล้องให้ถูกวิธีแล้วค่อยๆ เหนี่ยวไก เกิดพลาดเป้าขึ้นมาต้องเสียเวลาชักลูกเลื่อนกันใหม่ รายละเอียดพวกนี้มันทำให้ประสบการณ์ยิงผียิ่งเล่นยิ่งอินกว่าการเล่นบนจอแบนหลายเท่า ที่สำคัญเกมยังอัดแน่นในแง่คอนเทนต์ โดยมีโหมดเนื้อเรื่องยาว 10 ชั่วโมง ที่ผู้เล่นสามารถเล่นอีกรอบเพื่อกระทืบซอมบี้ด้วยอาวุธเดิมแบบอัปเกรดขั้นสุดได้ แถมเกมยังมีโหมด Mercenaries ที่ให้คุณต่อกรกับศัตรูฝูงแล้วฝูงเล่าเพื่อปั่นคะแนนให้ได้สูงสุดอีกด้วยได้ เรียกได้ว่าซื้อ RE4 VR เกมนี้เกมเดียวคงได้ยิงผีกันจนเบื่อไปเลย

Beat Saber เกม VR สำหรับทุกเพศทุกวัยที่ผสานเพลงป๊อปและการออกกำลังเข้าด้วยกัน

นี่คือเกม VR ที่เล่นง่ายเล่นเพลินที่สุดแล้วในขณะนี้ ดูผิวเผินมันก็คือเกมแนวดนตรีที่ให้คุณใช้กระบี่แสงในมือซ้ายและมือขวาฟันกล่องตามจังหวะเพลงไปเรื่อยๆ แต่คอนเซปต์ง่ายๆ แบบนี้แหละที่ทำให้เกมนี้เล่นสนุก เหมาะกับทุกเพศทุกวัยยิ่งนัก ไม่ว่าคุณจะเคยเล่นเกม VR มาก่อนหรือไม่ก็สามารถเล่นเกมนี้ได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะส่วนใหญ่คุณแค่ต้องขยับมือสลับกับเอี้ยวตัวหรือย่อเข่าบ้างเท่านั้น บล็อกที่คุณต้องฟังตามจังหวะเพลงจะเป็นฝ่ายพุ่งเข้ามาหาตัวคุณเอง ทำให้ผู้เล่นเกมนี้ไม่ค่อยมีอาการเมาแว่น VR ส่วนเพลงแต่ละเพลงในเกมก็จะมีระดับความยากง่ายในการเล่น ที่ไล่ตั้งแต่เด็กน้อยเล่นฟันดาบไปจนถึงปรมาจารย์เจไดเลยทีเดียว โดยจำนวนเพลงฮิตที่มีให้เล่นก็มีเยอะเป็นภูเขา ถ้าคุณยอมจ่ายตังค์เพิ่มก็สามารถเข้าไปเล่น Beat Saber ในด่านที่ใช้เพลงดังจาก Lady Gaga หรือ Billie Eilish ได้สบาย นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถเลือกเติมเพลงฟรีที่เกมเมอร์คนอื่นเค้าทำไว้ให้เล่นได้ซะด้วย

นอกจากใช้เล่นเอาสนุก Beat Saber ยังเป็นเกมที่เหมาะใช้เล่นเพื่อออกกำลังมากๆ เพราะเวลาที่คุณเล่นเกมนี้โดยเลือกเพลงเร็ว จังหวะตื๊ดๆ ติดกันรัวๆ นี่รับรองว่าได้เหงื่อชุ่มร่างจากท่าสะบัดแขนและสควอชติดกันแบบไม่หยุดแน่นอน เรียกได้ว่านี่คือเกม VR ที่ครบเครื่องจริงๆ เพราะมันทั้งเหมาะกับทุกเพศทุกวัย เล่นง่ายแต่เก่งยาก มีคอนเทนต์ให้เล่นเป็นกองพะเนิน แถมเวลาญาติมาด่าว่าติดเกมยังใช้อ้างว่าเรากำลังออกกำลังได้อีก

Boneworks งานเดโมที่มาโชว์ให้เห็นว่าประสบการณ์ VR มันไปได้ไกลถึงขั้นไหน

นี่คือเกม VR ที่ออกมาแสดงให้โลกรู้ว่าเกม VR สามารถทำให้สมจริงที่สุดได้ขนาดไหนกันนะ ซึ่งผลที่ได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย เพราะ Boneworks ได้ผลักมาตรฐานของวงการเกม VR ให้ไปสุดลิ่มทิ่มประตูแบบไม่สนว่าผู้เล่นจะเวียนหัวคลื่นไส้แต่อย่างใด จุดเด่นที่สุดของ Boneworks ก็คือการที่เกมทำให้ผู้เล่นมีร่างกายเสมือนในโลกเกมจริงๆ และวัตถุแทบทุกชิ้นในเกม (ซึ่งรวมถึงบอดี้ของตัวละครของคุณ) ต่างก็รองรับระบบฟิสิกส์ทั้งหมด ทำให้ทุกอย่างในเกมนี้มีน้ำหนักและสามารถปฏิสัมพันธ์กันได้เกือบหมด เช่น หากคุณต้องการกระโดดข้ามหลุมกว้างๆ คุณก็ต้องกะระยะวิ่งเพื่อสร้างแรงส่งให้บอดี้ของคุณซะก่อน เวลาปืนในมือคุณกระสุนหมด คุณก็สามารถนำด้ามมาฟาดหน้าศัตรูไปก่อนได้ หรือในระหว่างที่ศัตรูกระโดดเข้าใส่หน้าคุณ คุณก็สามารถยื่นมือออกไปหยุดมันไว้กลางอากาศก็ได้

อย่างไรก็ตาม ข้อเสียหลักของเกมนี้ก็คือคนที่เมาแว่น VR ง่ายอาจจะรู้สึกหน้ามืดตาลายคล้ายจะเป็นลมได้อย่างรวดเร็ว เหตุก็เพราะความละเอียดของโลก VR แบบอัดแน่นจัดเต็มในเกมนี้นั่นแหละ นอกจากนี้ Boneworks ก็ไม่ใช่เกม VR ที่มีเนื้อเรื่องสุดอินหรือมีโปรดักชั่นที่สูงลิบลิ่ว แต่มันคือสนามเด็กเล่น VR ที่ดีที่สุดในตอนนี้ และให้เกมเมอร์ได้ทดลองว่าเราสามารถทำอะไรในโลกเสมือนนี้ได้บ้าง ซึ่งแค่นั้นก็ทำให้มันควรค่าแก่การลองเข้าไปลองสักครั้งแล้ว

Star Wars: Squadrons ที่สุดของประสบการณ์ความบันเทิงแบบอินขั้นสุดเพื่อแฟนสตาร์วอร์ส

เราเชื่อว่าคงมีแฟนสตาร์วอร์สไม่น้อยที่ชอบดูฉากยานอวกาศบินต่อสู้กันในจักรวาลอันไกลโพ้น และก็เชื่อว่าหลายคนคงอยากสัมผัสประสบการณ์การนั่งอยู่ในค็อกพิตยาน X-Wing แบบเดียวกับ Luke Skywalker แน่ๆ ซึ่งเกม Star Wars: Squadrons ก็ออกแบบมาเพื่อสนองความฝันที่ว่าของแฟนๆ ชนิดที่เอาให้ฟินกันไปข้าง ซึ่งอันที่จริงเกมนี้ก็เป็นเกมธรรมดาที่เล่นได้ทั้งบนเครื่องพีซีหรือเกมคอนโซลนั่นแหละ เพียงแต่มันมีโหมด VR หนีบมาให้ด้วย แถมยังทำออกมาได้ดีกว่าเกม VR ของจริงหลายๆ เกมอีกต่างหาก ผู้เล่นจะสามารถเก็บรายละเอียดทุกปุ่ม หน้าปัด ทุกรอยถลอกบนแผงคอนโซลในห้องคนขับยานสตาร์วอร์สได้ทั้งหมด ซึ่งยานแต่ละลำก็มีรายละเอียดของแผงคอนโซลนักบินที่ต่างกันออกไปอีก โดยในระหว่างการบังคับยาน คุณจะรู้สึกได้ถึงความเร็วและน้ำหนักของยวดยานเหล่านี้แบบเดียวกับที่คุณจินตนาการเอาไว้ไม่มีผิด นอกจากนี้คุณยังสามารถเอี้ยวหัวดูตำแหน่งของยานข้าศึกนอกหน้าต่างแบบเดียวกับที่เราเห็นในหนัง TOP GUN ได้ด้วย

นอกจากเกมจะมีโหมดเนื้อเรื่องที่สนุกและเต็มไปด้วยฉากอลังการ มันยังมีโหมดหลายผู้เล่นที่ทั้งสนุกทั้งท้าทายจนน่าจะเรียกได้ว่าเป็นโหมดไฮไลต์ของเกมนี้เลย เพราะถึงแม้การด็อกไฟต์สู้กับบอต AI ในเกมจะสนุกดี แต่คงไม่มีอะไรตื่นเต้นไปกว่าการได้บินดวลกับผู้เล่นระดับ Ace คนอื่นในยานอวกาศอีกลำแล้วล่ะ รับรองว่าประสบการณ์ที่คุณได้จากการบินชิงไหวชิงพริบและความฟินจากการได้เด็ดปีกยาน Tie-Fighter นั้นยอดเยี่ยมไม่แพ้การเล่นเกม FPS ชั้นนำเกมไหนๆ หากคุณเป็นแฟนสตาร์วอร์สและเป็นเกมเมอร์ที่ต้องการประสบการณ์การเล่นมัลติเพลเยอร์ VR อันแปลกใหม่ จงอย่าพลาดการเอายานขึ้นบินใน Squadrons ด้วยประการทั้งปวงครับ.

ที่มาภาพ: steamcommunity.com, beatsaber.com, origin.com