การเกิดขึ้นของโซเชียลมีเดีย ส่งผลให้ทุกประเทศที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เกิดสภาวะการไหลของข้อมูลจำนวนมหาศาล
ท่ามกลางข้อมูลที่ไหลผ่านราวกับสายน้ำที่กำลังเชี่ยวกราก หนึ่งในนั้น มีสิ่งที่เรียกว่า ข่าวปลอม หรือเฟกนิวส์ (Fake News) รวมอยู่ด้วย
ประเด็นของข่าวปลอมที่เกิดขึ้นชัดเจนมากที่สุดครั้งหนึ่ง นั่นคือการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในปี 2016 ส่งผลให้โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชนิดที่เรียกว่าหักปากกาเซียนทุกด้าม
เมื่อโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาก็ได้เลือกใช้คำว่า “Fake News” โจมตีสื่อมวลชนหลายสำนักที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับเขาอย่างต่อเนื่อง
ในประเทศไทยก็เผชิญปัญหากับสิ่งที่เรียกว่าข่าวปลอมอย่างไม่น้อยหน้าใคร เริ่มตั้งแต่เครื่องดื่มที่ดื่มเพียงไม่กี่อึกก็รักษาโรคมะเร็งได้แล้ว ข่าวปลอมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สูตรพอกหน้าใส ยาวิเศษรักษาได้สารพัดโรค และอีกสารพัดข่าวปลอมที่ถูกเสกสรรปั้นแต่ง เต็มไปทั่วโลกออนไลน์
“บรรดาข่าวปลอมที่ว่าก็ส่งต่อกันมาในกรุ๊ปแชต หลายๆ ครั้งผมก็ต้องเอาข้อมูลไปยันว่าที่แชร์ส่งต่อกันมาในกรุ๊ปมันเป็นข่าวปลอม ข่าวลวง ข่าวที่ชี้นำผิดทาง” ปฏิพัทธ์ สุสำเภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอเพ่นดรีม จำกัด เผยจุดเริ่มต้นก่อนเป็นเกม 606 Fake News Game “จากสารตั้งต้นเหล่านั้น จึงทำให้เกิดแนวคิดที่อยากจะพัฒนาเกมที่ให้ความรู้ สร้างภูมิต้านทานเกี่ยวกับข่าวปลอมหรือ Fake News จนออกมาเป็นเกมที่มีชื่อว่า 606 Fake News Game ในที่สุด”
กว่าจะเป็นเกม 606 Fake News Game
ก่อนหน้าที่จะพัฒนาเกม 606 Fake News Game ชื่อของโอเพ่นดรีมก็เคยถูกพูดถึงมาบ้าง โดยเฉพาะการพัฒนาแพลตฟอร์มที่มีชื่อว่า Vote62 ซึ่งเป็นช่องทางในการสังเกตการณ์บรรยากาศการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
ปฏิพัทธ์ เล่าว่า โอเพ่นดรีมเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ ที่มีความตั้งใจจะผลักดันวาระทางสังคม เพื่อสร้างการรับรู้ การตระหนัก และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
ขณะที่การพัฒนาเกม อยู่ในขอบเขตความสนใจของปฏิพัทธ์ อยู่ก่อนแล้ว ซึ่งถ้าหากจะพัฒนาเกมขึ้นมาสักเกมหนึ่ง ก็อยากที่จะให้เกมมีทิศทางเดียวกับบริษัท
...
“ผมเริ่มพัฒนาเกมครั้งแรกเมื่อประมาณ 5-6 ปีก่อน ตอนนั้นก็มีเกม Safe Sex ต่อมาก็เป็นเกมภัยพิบัติ แล้วก็เกมคอร์รัปชัน จนมาเป็นเกมล่าสุด นั่นคือ เกม 606 Fake News Game”
สิ่งที่น่าสนใจของเกมจากหลายงานวิจัย ระบุว่า เกมมีประสิทธิภาพที่มากพอที่จะช่วยเหลือการเรียนรู้ในประเด็นที่มีความสลับซับซ้อนได้
“แต่ประเด็นที่ซับซ้อนนั้น มันจะมีความยากอย่างมาก คือการทำให้มันอยู่ในฐานะของเกม ไม่ใช่ในรูปแบบของสื่อการสอน”
ปฏิพัทธ์ อธิบายต่อไปว่า ตัวเกม 606 Fake News Game จะอยู่ในรูปแบบทฤษฎีการเรียนรู้ ซึ่งจะแบ่งการเรียนรู้เป็น 4 ระดับ ได้แก่
ระดับที่ 1: บอกให้ทำตาม เหมือนในห้องเรียน ความคาดหวังของประเภทนี้ คือ บอกแล้วเด็กจะเปลี่ยนแปลง
ระดับที่ 2: ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
ระดับที่ 3: ให้ผู้เรียนได้พบกับผลลัพธ์ในสิ่งที่เขาทำเอง
ระดับที่ 4: เรียนรู้จากเครือข่ายของคนอื่น มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ซึ่งกันและกัน
อย่างไรก็ดี ถ้าหากเราลองมองย้อนกลับไปที่การศึกษาส่วนใหญ่ในประเทศไทย มักจะจบลงที่ระดับที่ 2 นั่นก็คือ การทำให้ดูเป็นตัวอย่าง หรือสอนแบบมีตัวอย่างเท่านั้น
“ผมยกตัวอย่างเช่นเวลาที่เราสอนเด็กๆ เกี่ยวกับเรื่องคอร์รัปชัน มันก็จะจบแค่คำว่า ‘โตไปไม่โกง’ สอนเรื่องถุงยางอนามัย ก็หยุดอยู่แค่สอนการใช้ถุงยาง สิ่งที่โอเพ่นดรีมคาดหวัง คือพยายามที่จะทำเกมไปแตะที่ระดับที่ 3 ให้ได้ เพราะมันมีประสิทธิภาพมากกว่า ทำให้คนเรียนได้รับผลลัพธ์ด้วยตัวเอง ซึ่งเกมเป็นฟอร์แมตที่เหมาะสม คนสามารถทดลองได้”
ในส่วนตัวเกม 606 Fake News Game ปฏิพัทธ์ เล่าให้ฟังโดยไม่สปอยล์ว่า ตัวเกมจะเปิดมาด้วยมือถือของตัวเอกเกิดสลับสับเปลี่ยนกับผู้หญิงคนหนึ่ง ทำให้ภารกิจของตัวเอกจะต้องตามหาว่า ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร ก่อนที่จะพบว่า เราต้องพัวพันกับกรุ๊ปแชตที่เต็มไปด้วยข่าวลวง ซึ่งหน้าที่ของเราจะต้องใช้สารพัดเครื่องมือเพื่อพิสูจน์ว่าอันไหนเป็นข่าวปลอม ข่าวจริง ข่าวลวง
ทั้งนี้ ตัวเกมถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ โดยช่วงต้นจะเป็นแบบทดสอบ (Pre-test) เพื่อดูว่าผู้เล่นมีความเข้าใจในเฟกนิวส์มากน้อยแค่ไหน
ช่วงกลางจะเป็นเนื้อเรื่องของเกม ที่ผู้เล่นต้องไขปริศนาให้ได้ และสุดท้ายจะเป็นโพสต์เทสต์ (Post-test) เพื่อทดสอบว่ามีความเข้าใจในเรื่องเฟกนิวส์จากก่อนเริ่มเล่นเกมหรือไม่
ความท้าทายระหว่างทางพัฒนา 606 Fake News Game
การพัฒนาเกม 606 Fake News Game ใช้เวลาในการพัฒนาประมาณ 1 ปี ซึ่งตลอดช่วงปีที่ผ่านมานั้น ปฏิพัทธ์ ยอมรับว่า มีปัญหาเกิดขึ้นค่อนข้างเยอะ แน่นอนว่าประเด็นสำคัญ นั่นคือ เหตุการณ์กราดยิงที่โคราช ตามด้วยการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
“ตอนนั้นก็กังวลเหมือนกันว่า เหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้น จะทำให้เกมที่กำลังพัฒนาอยู่ ไม่ทันต่อกระแสแล้วรึเปล่า แต่สุดท้ายก็พัฒนาเกมต่อจนเสร็จ”
ความท้าทายต่อมาของเกมนี้ ปฏิพัทธ์ กล่าวว่า ตัวเกมค่อนข้างยาว จึงไม่แน่ใจว่า คนที่เล่นเกมนี้ จะมีโฟกัสจดจ่อกับเกมจนจบหรือไม่
...
“แต่ผมยังมองในแง่ดีว่า คนในยุคนี้อ่านฟิกชันจากจอยลดา (Joylada) เยอะมาก ก็น่าจะยังเชื่อได้ว่าคนเล่นน่าจะโฟกัสกับเกมนี้ได้ ส่วนเป้าดาวน์โหลดของเกมนี้ ผมก็มองไว้สูงพอสมควร ประมาณหลักแสนคน”
ขณะที่การพัฒนาตัวเกมนี้ ปฏิพัทธ์ อธิบายว่า ในแง่ของการเขียนโค้ดไม่ได้ยุ่งยากอะไรมาก แต่ความยากจริงๆ ของการทำเกม เป็นส่วนงานโปรดักชันมากกว่า
“กรณีนี้ต้องบอกว่า เกมที่โอเพ่นดรีมเคยทำก่อนหน้านี้ เราไม่ได้ใช้คนจริงๆ แต่ใช้เป็นรูปวาด เมื่อต้องใช้คนจริงๆ ต้องคิดมากขึ้น มีการวางบท ต้องทำอย่างไรให้บทดี ดึงดูดคนเล่น และมีปริศนามากพอที่จะทำให้อยากไขปริศนา นั่นคือความยากของเกมนี้”
คำว่า “เกม” กับทัศนคติของผู้ใหญ่ในประเทศ
เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างหนึ่งที่อุตสาหกรรมเกมยังไม่ได้เป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทย ด้วยเหตุผลนานัปการ ไม่ว่าจะเป็นมายาคติในแง่ลบที่มีต่อเกม ไม่ได้มองเกมว่าเป็นส่วนหนึ่งในความบันเทิง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ในสหรัฐอเมริกา อุตสาหกรรมเกมเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่กว่าอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูดมานานแล้ว
ด้วยความที่มันกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้แบบจับต้องได้ หนึ่งในประเทศที่ผลักดันอุตสาหกรรมเกมอย่างตั้งใจในช่วง 5 ปีหลังสุด นั่นคือ รัฐบาลของประเทศโปแลนด์
รายงานของ Polish Agency for Enterprise Development เปิดเผยว่า ในปี 2020 ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเกมในประเทศโปแลนด์ มีการขยายตัวมากที่สุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2017-2020 โดยมีอัตราการขยายตัวที่ร้อยละ 28 มีมูลค่าตลาดราว 556 ล้านยูโร คิดเป็นเงินไทยราว 2 หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกัน การเปิดบริษัทพัฒนาเกมในโปแลนด์มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยในปี 2019 มีสตูดิโอเกมเปิดใหม่ราว 160 แห่ง เกิดการจ้างงานประมาณ 1 หมื่นตำแหน่ง ซึ่งอุตสาหกรรมเกมเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจแบบสร้างสรรค์ของรัฐบาลโปแลนด์ ที่เคยประกาศในแผนยุทธศาสตร์ Smart Growth Operational Programme เมื่อปี 2014 พร้อมกันนี้ รัฐบาลได้มีการจัดต้ังกองทุน GameINN funding เพื่อให้การสนับสนุนด้านการเงินอีกด้วย
...
สำหรับสตูดิโอเกมจากประเทศโปแลนด์ที่ดังที่สุดในเวลานี้ คือ CD Projekt ซึ่งมีเกมชูโรงอย่างแฟรนไชส์ The Witcher ที่มีด้วยกัน 3 ภาค (ส่วนในเกม Cyberpunk 2077 เป็นจุดด่างพร้อยของสตูดิโอนี้)
ทั้งหมดนั้นคือประเทศโปแลนด์
“ในมุมมองของผม ภาพรวมอุตสาหกรรมเกมเป็นเรื่องที่พูดยากเหมือนกัน เพราะโอเพ่นดรีม เป็นผู้ผลิตเกมที่ค่อนข้างใต้ดินไม่ได้อยู่กระแสหลักเท่าไร” ปฏิพัทธ์ เกริ่น “อย่างไรก็ดี ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับเด็กรุ่นใหม่ๆ เขาก็อยากทำเกมเยอะ ซึ่งก็พบว่างานไม่พอคน”
ปฏิพัทธ์ กล่าวต่อไปว่า ถ้าหากยังมีมายาคติ ไม่เปิดใจรับ ก็อาจเป็นเรื่องยากที่เกมจะกลายเป็นอุตสาหกรรมในประเทศไทย แต่ถ้าอยากลุยแบบสุดทางก็คงต้องลุยด้วยตัวเอง
“ในสหรัฐอเมริกา ก็มีตัวอย่างเกมที่พัฒนาด้วยตัวคนเดียว เช่นเกม Stardew Valley ซึ่งข้อดีอย่างหนึ่งของเกม มันเป็นอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างพอที่จะพัฒนาเกมได้ด้วยตัวเองคนเดียว ไม่เหมือนกับความบันเทิงอื่นๆ ที่ต้องใช้อุปกรณ์และคนเป็นจำนวนมาก อย่างซีรีส์หรือภาพยนตร์”
สุดท้าย ปฏิพัทธ์ เชื่อว่า ความสามารถของคนไทยที่จะไปอยู่ในระดับสูงของวงการเกมมันเป็นไปได้แน่ๆ เพราะอย่างที่บอกไป คนไทยที่อยากพัฒนาเกมให้ไปสู่ระดับโลกมีอยู่เยอะมาก
“ผมไม่อยากใช้คำว่า คนไทยก็ทำได้ แต่ความสามารถของเราไม่ได้แย่ เมื่อเทียบกับระดับโลก เหลือแค่ว่าจะทำยังไงให้มีคุณภาพสูง ซึ่งมันย้อนกลับไปว่า จะทำยังไงให้เกิดคนที่มีความเชี่ยวชาญ อยากทำเกมขึ้นมาในประเทศ อยากอยู่อุตสาหกรรมนี้ มันก็วนกลับมาเป็นคำถามโลกแตกไก่กับไข่”
“อย่างน้อยๆ ถ้าภาครัฐให้การสนับสนุนมากกว่านี้ ก็น่าจะปลดล็อกไปได้เยอะ” ปฏิพัทธ์ ปิดท้าย
สำหรับเกม 606 Fake News Game เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีแล้ว ในระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
ผู้เขียน: Wiwat Rungsaensuksakul
...