ปัญหาโลกแตกที่ผมเชื่อว่าหลายคนต้องเคยพบเจอมาบ้าง นั่นคือ การซื้อสินค้าด้วยเงินสด แต่ถ้าซื้อโดยใช้บัตรเครดิตก็มีโปรโมชันผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งทำให้หลายคนตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกจ่ายเงินแบบไหนดี

ในบทความนี้ ผมจะชวนมาดูข้อดีและข้อเสียของการใช้จ่ายทั้งสองแบบว่าถึงที่สุดแล้ววิธีการจับจ่ายแบบไหนเหมาะสมกับเรามากที่สุด

การซื้อสินค้าด้วยเงินสด

อย่างที่เราทราบกันดี การซื้อด้วยเงินสด เราต้องมีเงินให้พอดีกับจำนวนสินค้าหรือบริการที่เราอยากจะได้ หรือใช้บริการต่างๆ เสียก่อน เช่น สปา ทำฟัน จ้างช่างมาซ่อมบ้าน และเมื่อเราชำระเป็นเงินสด หรือแม้แต่การจ่ายเต็มจำนวนผ่านบัตรเดบิต เราก็จะได้สินค้าหรือบริการนั้นไปทันที ไม่มีพันธสัญญาอะไรต่อคนที่ขายสินค้าหรือให้บริการกับเรา

ในมุมมองของผมข้อดีของการซื้อด้วยเงินสด ก็จะมีในแง่ของการรู้เงินในกระเป๋าทันทีว่าหลังจากที่จ่ายเงินไปแล้ว เราเหลือเงินเท่าไร จะใช้ชีวิตอย่างไร นอกจากนี้ หลายร้านมีโปรโมชันให้กับการจ่ายเงินสด เช่น ถ้าซื้อของด้วยเงินสด ก็จะมีส่วนลดให้ทันที หรือซื้อ 1 แถม 1 เป็นต้น 

ส่วนเหตุผลที่ทำให้ร้านค้าต้องการเงินสด นั่นเป็นเพราะว่าร้านค้านั้นๆ ต้องการนำเงินสดไปหมุน เพื่อให้ธุรกิจดำเนินการต่อไปได้

เงินสดทำให้เราไม่มีพันธะใดๆ กับร้านค้า
เงินสดทำให้เราไม่มีพันธะใดๆ กับร้านค้า

...

อย่างไรก็ดี ข้อเสียของการใช้เงินสดก็มีเช่นกัน เพราะถ้ามีเหตุฉุกเฉินเรามีโอกาสขาดสภาพคล่องทางการเงินทันที เพราะเงินสดหมดไปกับการซื้อสินค้าก่อนหน้านี้แล้ว หรือถ้าเป็นกรณีที่สินค้านั้นมีราคาแพงมากๆ ทำให้เราต้องใช้เวลาในการเก็บเงินนานมาก ซึ่งตรงนี้มีค่าเสียโอกาสอยู่เหมือนกันครับ เช่น กรณีนักดนตรีที่ไม่สามารถซื้อเครื่องดนตรีได้เนื่องจากราคาแพง อาจทำให้เสียโอกาสที่จะสามารถรับงานหลังจากนี้ได้ เป็นต้น นอกจากนี้ บางร้านค้าอาจทำโปรโมชันกับสถาบันการเงิน โดยเฉพาะบัตรเครดิต ทำให้การจ่ายด้วยเงินสดนั้นอาจไม่มีโปรโมชันที่ถูกใจผู้ซื้อ 

การซื้อสินค้าด้วยบัตรเครดิตแบบผ่อนจ่าย

สำหรับการซื้อสินค้าด้วยบัตรเครดิตด้วยการผ่อนจ่าย คือ การที่เราทยอยจ่ายเงินหรือชำระค่าบริการด้วยจำนวนเงินในแต่ละงวด ตามที่ร้านค้าหรือผู้ให้บริการกับเราได้ตกลงกัน เช่น ซื้อโทรศัพท์มือถือราคา 35,900 บาท ผ่อนชำระ 10 งวด ที่อัตราดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์ แต่ในบางครั้งร้านค้าหรือผู้ให้บริการอาจให้สิทธิพิเศษไม่เหมือนกันครับ เราต้องตรวจสอบรายละเอียดตรงนี้อีกที

การที่ร้านค้าหรือผู้ให้บริการมีโปรโมชันให้เราจ่ายเงินด้วยการผ่อนได้นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าถ้าหากใช้เงินสดแล้วสินค้าหรือบริการอาจต้องเก็บเงินโดยใช้เวลานาน และเสียโอกาสของร้านค้า ทำให้เกิดวิธีการผ่อนจ่ายขึ้นมา ซึ่งเป็นผลดีกับร้านค้าและผู้ซื้อครับ

บัตรเครดิตทำให้ยังมีเงินสดในมือ
บัตรเครดิตทำให้ยังมีเงินสดในมือ

ข้อดีของการใช้บัตรเครดิตแบบผ่อนจ่าย มีดังนี้

  • มีความปลอดภัยสูง ไม่ต้องพกเงินสดจำนวนมาก

  • ใช้จ่ายในการซื้อสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางออนไลน์สะดวก

  • บัตรเครดิตมีระยะปลอดดอกเบี้ยประมาณ 45 วัน

  • สินค้าหรือบริการที่มีราคาแพง แต่จำเป็นต้องใช้ในเวลานั้น ทำให้เรามีของ ใช้งานได้ทันที 

  • โปรโมชันของบัตรเครดิตที่มีการแข่งขันตลอดเวลา เนื่องจากสถาบันการเงินมีการอัดโปรโมชัน ซึ่งมาจากรายได้ของดอกเบี้ยที่เก็บจากลูกค้า โดยโปรโมชันมีตั้งแต่ผ่อน 0 เปอร์เซ็นต์ นาน 10 เดือน บางแห่งก็รวมของแถมไปอีกต่างหากครับ หรือถ้าเป็นบัตรเครดิตของกิจการนั้นๆ ก็อาจมีส่วนลดเพิ่มครับ

  • ผ่อนจ่ายขั้นต่ำได้

เมื่อมีข้อดีแล้วก็ต้องมีข้อเสียของการใช้บัตรเครดิตแบบผ่อนจ่ายเช่นกันครับ 

  • การผ่อนจ่ายมีโอกาสทำให้เราเสียวินัยทางการเงินได้ โดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการซื้อสินค้าบ่อยๆ

  • มีระยะเวลาในการผ่อนจ่าย ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าและบริการ เช่น 3 งวด 6 งวด 10 งวด

  • ผ่อนจ่ายขั้นต่ำได้ก็จริง แต่ก็มีสิ่งที่ตามมาและทำให้หลายๆ คนต้องเป็นหนี้นั่นก็คือ “ดอกเบี้ย”

  • มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามมาพร้อมกับดอกเบี้ย ถ้าหากเราผิดนัดชำระหนี้ เช่น ค่าทวงหนี้ ค่าออกเอกสาร ฯลฯ

  • บัตรเครดิตอาจโดนขโมยได้ ทำให้เราเสียเวลาในการต้องอายัดบัตร และออกบัตรใหม่ ซึ่งบางแห่งมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วยครับ

อย่างไรก็ดี หลังจากที่ผมได้แยกแยะส่วนของการใช้เงินสดหรือผ่อนจ่ายนั้น ท้ายที่สุดแล้ว ผมไม่อาจบอกได้ว่าการจ่ายเงินสดดีกว่าการจ่ายผ่อนจ่าย หรือแม้แต่การจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตครับ สิ่งที่ผมอยากจะชี้ให้เห็นคือยังมีหลายคนคิดว่าการใช้บัตรเครดิตอาจทำให้ก่อหนี้ได้ หรือไม่ก็มองว่าคนที่ใช้เงินสดนั้นเป็นคนโง่ เพราะไม่รู้จักใช้ประโยชน์ของบัตรเครดิต แต่พอถึงเวลาจริงแล้วมันไม่มีอะไรผิด ไม่มีอะไรถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะสิ่งสำคัญที่เราจะต้องพิจารณาว่าจะใช้เงินสดหรือผ่อนจ่ายด้วยบัตรเครดิตนั้นประกอบไปด้วยปัจจัยเหล่านี้เป็นสำคัญครับ

...

การจับจ่ายด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต ต่างมีข้อดีข้อเสีย
การจับจ่ายด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต ต่างมีข้อดีข้อเสีย

1. เหลือเงินสดอยู่เพียงพอ ณ ตอนนั้นหรือไม่ การจะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการอะไรก็แล้วแต่ ต้องวกกลับมาดูที่เรื่องของเงินสดหรือเงินเก็บของเราถ้าหากเราจ่ายเงินไปแล้วจะเหลือเงินให้เราพอใช้ หรือว่ามีเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา เรามีเงินพอใช้หรือไม่ครับ

2. โปรโมชันเหมาะสมกับวิธีจ่ายเงินในรูปแบบใด ถ้าหากสิ่งของเดียวกัน แต่โปรโมชันสำหรับวิธีการจ่ายเงินต่างกัน เราอาจต้องมาแยกแยะว่าโปรโมชันไหนเหมาะสมกับเราที่สุดครับ หรือถ้าหากสูสีกันแล้วก็ควรวกกลับไปในข้อที่ 1 ครับ

3. อย่าเสียวินัยทางการเงิน ไม่ว่าจะจ่ายเงินในรูปแบบใด ผมเน้นย้ำว่าอย่าเสียวินัยทางการเงินครับ มีรายได้มากกว่ารายจ่ายคือดีที่สุด และถ้าหากใช้บัตรเครดิตในการผ่อนจ่ายก็ควรจะต้องชำระหนี้ให้ตรงเวลาด้วย เพราะการเป็นหนี้บัตรเครดิตเป็นเรื่องที่ไม่สนุกเลยครับ

...

ยกตัวอย่างนะครับ สมมติว่าโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งราคา 35,900 บาท โปรโมชันสำหรับเงินสดลดให้เลย 2,500 บาท แต่ถ้าหากเป็นโปรโมชันผ่อนบัตรเครดิตได้ 0 เปอร์เซ็นต์ เป็นเวลา 10 งวด มีของแถมเป็นแบตเตอรี่สำรอง 650 บาท ถ้าหากเราเงินเหลือแบบสบายๆ เราอาจเลือกที่จะจ่ายเงินสดครับ แต่ถ้าเงินมีอยู่ประมาณหนึ่งแต่ไม่ถึง 33,400 บาท และคิดว่าเราผ่อนจ่ายได้ไหวแน่นอน เราอาจใช้วิธีผ่อนจ่าย 0 เปอร์เซ็นต์แทนได้ครับ

สุดท้ายนี้หวังว่าแต่ละคนจะเลือกวิธีการซื้อของให้เหมาะสมกับตัวเองได้มากที่สุดครับ

ที่มา: