ผู้สูงอายุกู้เงินได้ไหม เป็นคำถามในใจของผู้สูงวัยหลายคนที่เกษียณแล้ว แต่ยังมีไฟในการทำงาน มีร่างกายแข็งแรง ยังอยากจะทำงาน หรือมีธุรกิจเป็นของตนเอง แต่ไม่อยากเอาเงินเก็บมาใช้เป็นทุนประกอบอาชีพ ทางเลือกที่ทำได้คงเป็นการกู้ยืมเงินมาใช้ แต่หลายคนก็อยากรู้ว่าเป็นผู้สูงอายุแล้วอยากกู้เงินนั้นจะทำได้ไหม ที่ไหนให้กู้บ้าง เพราะหากจะต้องกู้กับธนาคาร ส่วนใหญ่กำหนดอายุไว้ไม่เกิน 60 ปี หากเป็นเช่นนี้แล้วผู้สูงอายุจะทำอย่างไรดี

ในความเป็นจริงนั้น ผู้สูงอายุที่มีอายุมากกว่า 60 ปี สามารถกู้เงินกับทางธนาคารได้ มีธนาคาร และสถาบันการเงินหลายแห่งมีสินเชื่อสำหรับผู้สูงอายุ เพียงแต่ผู้กู้อาจจะต้องมีคุณสมบัติ หรือเงื่อนไขบางอย่างที่ทางธนาคารกำหนดไว้ ส่วนผู้สูงอายุที่อยากกู้เงิน มีที่ไหนให้กู้บ้างนั้น วันนี้เราได้รวบรวมเอาไว้ให้แล้ว

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

แหล่งกู้เงินสำหรับผู้สูงวัยที่อายุเกิน 60 ปี

...

ผู้สูงอายุที่มีความต้องการอยากกู้เงิน เพื่อนำมาประกอบอาชีพ หรือนำเงินมาใช้จ่ายตามความจำเป็นนั้น มีธนาคารหลายแห่งปล่อยกู้เงินให้ผู้เกษียณที่มีอายุมากกว่า 60 ปี โดยเฉพาะธนาคารของรัฐบาล รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ

1. กองทุนผู้สูงอายุ กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

เปิดให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ วงเงินไม่เกินคนละ 30,000 บาท หรือหากรวมกลุ่มตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป สามารถกู้เงินได้ถึง 100,000 บาท โดยไม่มีดอกเบี้ย แต่จะต้องมีผู้ค้ำประกัน การกู้ยืมทุกประเภทต้องชำระคืนเป็นรายงวด ภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี โดยต้องมีสถานที่ประกอบอาชีพอยู่จังหวัดเดียวกันกับที่ยื่นขอกู้ยืม และไม่เป็นผู้ค้างชำระเงินกองทุนผู้สูงอายุ

ส่วนคุณสมบัติของผู้ค้ำประกัน คือ มีอายุไม่เกิน 59 ปีบริบูรณ์ เป็นผู้มีรายได้ หรือเงินเดือนประจำ มีภูมิลำเนาตามทะเบียนราษฎรอยู่จังหวัดเดียวกันกับผู้กู้ยืม ไม่อยู่ระหว่างเป็นผู้กู้ยืม ไม่อยู่ระหว่างเป็นผู้ค้ำประกันให้กับบุคคลอื่นที่ขอกู้ยืม

สำหรับผู้สูงอายุที่สนใจเงินกู้นี้ สามารถกู้ยืมเงินผ่านช่องทางออนไลน์ เว็บไซต์กองทุนผู้สูงอายุ หรือสามารถสอบถามได้ที่ กองทุนผู้สูงอายุ (กรมกิจการผู้สูงอายุ) ส่วนต่างจังหวัด ติดต่อที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทุกจังหวัด

2. ธนาคารออมสิน

มีสินเชื่อสวัสดิการสำหรับข้าราชการบำนาญ และลูกจ้างประจำ โดยใช้บำเหน็จตกทอดเป็นหลักประกัน เฉพาะข้าราชการ หรือลูกจ้างประจำ ที่ได้รับหนังสือรับรองสิทธิ์บำเหน็จตกทอด ดอกเบี้ย 4.85% ต่อปี (MRR-1.995%) วงเงินสูงสุด 100% ของเงินบำเหน็จตกทอด ผ่อนนานสูงสุด 30 ปี

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

ผู้สูงอายุสามารถกู้เงินประเภทนี้มาเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ ใช้เพื่อชำระหนี้สินเชื่ออื่นๆ เป็นเงินทุน หรือเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพได้ตามความต้องการ

3. ธนาคารกรุงเทพ

มีสินเชื่อข้าราชการบำนาญ สำหรับข้าราชการผู้รับบำนาญ สามารถยื่นกู้เพื่อนำไปใช้จ่ายอุปโภคบริโภค ท่องเที่ยว หรือซื้อสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ วงเงินกู้สูงสุดไม่เกินยอดบำเหน็จตกทอดคงเหลือ ไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน เพียงใช้หนังสือรับรองสิทธิในบำเหน็จตกทอดมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เลือกจ่ายได้เฉพาะดอกเบี้ย หรือชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย ผ่อนนานสูงสุด 30 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.5% (MRR-2.8%) ต่อปี สำหรับลูกค้ารายใหม่ ดอกเบี้ย 6.3% (MRR-1.0%) ต่อปี สำหรับลูกค้ารายเดิม ผู้กู้มีอายุ รวมกับระยะเวลาผ่อนชำระแล้วไม่เกิน 90 ปี เป็นข้าราชการผู้รับบำนาญ หรือลูกจ้างผู้รับบำเหน็จรายเดือน

4. ธนาคารกรุงไทย

...

มีสินเชื่ออเนกประสงค์สำหรับผู้รับบำนาญ บำเหน็จรายเดือน และผู้รับบำเหน็จพิเศษรายเดือน อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 4.55% (MRR-3.02%) ต่อปี ตลอดอายุสัญญา และอัตราดอกเบี้ยปกติ 6.225% (MRR-1.345%) ตลอดอายุสัญญา สามารถผ่อนได้นานถึง 30 ปี และไม่จำกัดอายุผู้กู้

5. ธนาคารกสิกรไทย

มีสินเชื่อ SME อเนกประสงค์ ให้กับผู้ที่ทำธุรกิจมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี สามารถกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท ผ่อนชำระได้นานสูงสุด 15 ปี โดยให้ผู้สูงอายุกู้เงินนี้ได้ด้วยถึงอายุ 70 ปี แต่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งอาจจะเป็นที่ดินเปล่า หรือที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างก็ได้

6. ผู้ให้บริการสินเชื่อทางการเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน

ในกลุ่มนี้มีหลายแห่งที่ให้ผู้สูงอายุกู้เงินได้ โดยกำหนดอายุผู้กู้เงินไว้ถึง 70 ปี เพียงแต่ผู้สูงอายุที่จะกู้เงินได้ อาจจะต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำประกัน อาทิ ที่ดินเปล่า บ้านพร้อมที่ดิน รถยนต์ หรือเครื่องจักร กรมธรรม์ประกันชีวิต เป็นต้น ซึ่งผู้ให้บริการดังกล่าวมีหลากหลายบริษัท อัตราดอกเบี้ย และวงเงินกู้ที่ให้ก็แตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่อัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าการกู้เงินกับธนาคาร

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...

ทั้งหมดนี้ก็เป็นคำตอบว่า ผู้สูงอายุอยากกู้เงินทำได้ไหม ที่ไหนให้กู้บ้าง ซึ่งพอจะเป็นแนวทางให้กับผู้สูงอายุหลายคนที่อยากจะนำเงินไปสร้างธุรกิจตามที่ฝันไว้ หรืออาจจะนำมาใช้จ่ายยามจำเป็น มีเรื่องฉุกเฉินต้องใช้ แต่อย่างไรก็ตามควรจะศึกษารายละเอียดให้รอบคอบ หากไม่เข้าใจในรายละเอียด หรือไปคุยกับเจ้าหน้าที่แล้วยังไม่เข้าใจ ควรมีบุตรหลานหรือคนที่ไว้ใจได้ไปร่วมรับฟังด้วย รวมถึงไม่ควรกู้เงินมามากเกินความจำเป็น และควรประเมินศักยภาพของตนเองว่าจะสามารถชำระเงินคืนได้อย่างแท้จริงด้วย ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาตามมาภายหลังได้อีก.

ข้อมูลอ้างอิง : กรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, ธนาคารออมสิน, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารกรุงไทย

ภาพจาก : iStock

ติดตามบทความสาระดีๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของวัยกลางคนและผู้สูงวัยได้ที่ Lifestyle 45+