เพ็ญพักตร์ ศิริกุล นักแสดงหญิงชื่อดังวัย 62 ปี ที่ขึ้นชื่อว่ากาลเวลาก็ทำอะไรเธอไม่ได้ เคล็ดลับความงามสวยสมวัยของเธอคือสิ่งที่สาวๆ หลายคนอยากรู้และเดินรอยตาม นอกจากนี้การปรับตัวให้เข้ายุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงคือเสน่ห์ที่ทำให้คนรุ่นใหม่ชื่นชมเธอ
เพ็ญพักตร์ ศิริกุล หรือ พี่ต่าย นักแสดงสาวรุ่นใหญ่มากความสามารถ ที่นอกจากฝีมือการแสดงที่โดดเด่นไม่เป็นรองใครจนสามารถคว้ารางวัลมาได้มากมายหลายเวทีแล้ว เรื่องไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของ “พี่ต่าย” ก็เป็นที่สนใจและติดตามของเหล่าแฟนๆ หลายช่วงวัยด้วยเช่นกัน
ดูดีจากภายในเริ่มต้นจากการดูแลตัวเอง
แม้ว่า ต่าย เพ็ญพักตร์ จะมีอายุเข้าสู่วัย 60 ปีแล้ว แต่รูปลักษ์การแต่งกายไปจนถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตยังสดชื่น สดใส กระฉับกระเฉงกว่าคนวัยเดียวกัน จนทำให้หลายคนสนใจและอยากรู้เคล็ดลับของเธอว่าต้องทำอย่างไรถึงจะสวยสมบูรณ์แบบในวัย 60 ได้แบบนี้บ้าง
“ถ้าเราอยากดูดี อยากใส่อะไรก็ใส่ได้ ต้องเริ่มต้นจากการดูแลตัวเองก่อน นี่เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับพี่เลย ผู้หญิงหลายคนอยากจะแต่งตัวสวยๆ แต่ไม่ดูแลตัวเอง ปล่อยให้ตัวเองอ้วน ปล่อยให้ตัวเองหน้าโทรม เมื่อรูปร่างไม่ดี ผิวพรรณไม่ดี ก็ทำให้เราไม่มีความมั่นใจแล้ว แนะนำว่าให้รักตัวเองก่อน ดูแลสุขภาพตัวเองแล้วทำให้เป็นนิสัย”
สิ่งที่พี่ต่ายทำเป็นประจำคือการออกกำลังกายอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน เช่น จันทร์ พุธ ศุกร์ วันละ 30 นาที สำหรับวัยนี้เธอเน้นการออกกำลังกายแบบเบาๆ เช่น คาร์ดิโอ ซิตอัพ วิ่งจ๊อกกิ้งเบาๆ รวมทั้งควบคุมอาหารไปควบคู่กัน โดยเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักนึ่ง ปลานึ่ง ไก่นึ่ง ส่วนเนื้อวัวที่เธอชอบกินมากๆ ก็ตั้งเป้าลดลงเหลือกินอาทิตย์ละวัน เพราะย่อยได้ยาก เธอแนะนำว่าควรทำสิ่งเหล่านี้จนเป็นวินัยให้เป็นนิสัยแล้วจะมีรูปร่างที่ดูดีสมวัยและทำให้มั่นใจขึ้น
...
ในส่วนของเรื่องการดูแลผิวพรรณ พี่ต่าย บอกว่าการล้างหน้าให้สะอาดคือสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะออกไปทำงานข้างนอกมาเหนื่อยแค่ไหน สิ่งที่พี่ต่ายทำเป็นอันดับแรกคือการล้างหน้าให้สะอาด จากนั้นค่อยทาสกินแคร์บำรุงผิวพรรณ เพราะการหมักหมมเครื่องสำอางและฝุ่นควันมลพิษต่างๆ ที่ไปเผชิญมาจากข้างนอกอาจทำให้ผิวพรรณเสียหายได้
นอกจากนี้การไปหาหมอเข้าคลินิกเพื่อทำหัตถการ เช่น ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ ทำอัลเทอร์ร่า ฯลฯ ก็เป็นส่วนหนึ่งที่พี่ต่ายเลือกใช้บริการเพื่อดูแลผิวพรรณของตนเองด้วยเช่นกัน แต่เลือกทำในปริมาณที่พอดี ไม่มากจนเกินไป เพราะการมีริ้วรอยบ้างคือเสน่ห์แห่งวัย
“การดูแลผิวพรรณส่วนตัวก็มีไปหาหมอให้ดูแลบ้างแต่ทำแค่พอประมาณ พี่ไม่ได้แอนตี้เรื่องการทำศัลยกรรม เพราะเมื่อถึงวัยหนึ่งที่มีความหย่อนคล้อย ใครๆ ก็อยากไปทำ แต่อย่าถึงขั้นเจ้ากรรมนายเวรจำหน้าเราไม่ได้ (หัวเราะ) ทำแบบนิดๆ หน่อยๆ พอให้ดูมีริ้วรอยแห่งวัยอยู่บ้าง เพราะอายุ 40-50 ไปแล้วการมีริ้วรอยเป็นเรื่องปกติ และเป็นเสน่ห์ของผู้หญิง ไม่ใช่ว่าอายุ 60 แล้วยังหน้าตึงจนตาเหิน จำหน้าตัวเองไม่ได้”
ออกนอกกรอบ เติมความสนุกให้ชีวิต
เมื่อถามถึงเคล็ดลับการแต่งตัวของพี่ต่ายที่ยังดูทันสมัยแต่ก็ดูดีสมวัยแบบไม่ขัดสายตา พี่ต่ายเผยว่าเรื่องการแต่งตัวนั้นมาจากความมั่นใจภายใน เมื่อเรามีรูปร่างทีดีแล้วก็ทำให้เรามั่นใจขึ้น และอยากแต่งแบบไหนที่ชอบก็แต่งไปเลย สามารถตามแฟชั่นที่กำลังฮิตได้ แต่ไม่จำเป็นต้องเอามาทั้งหมด โดยเลือก Mix & Match บางส่วนมาผสมผสานกันให้สมกับวัยและเหมาะกับตนเองที่สุด
...
เธอมองว่าการตามแฟชั่นไม่ใช่เรื่องผิด แต่เลือกแบบที่เหมาะสมกับวัยและสไตล์ของตัวเองด้วย ซึ่งพี่ต่ายเป็นคนชอบแต่งตัวหลายสไตล์ แต่สิ่งที่เป็นภาพจำของคนทั่วไปมากที่สุดคือเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงยีนส์ แต่ช่วงหลังนี้เธอชอบการแต่งตัวแนวสตรีทแฟชั่น โดยเลือกบางส่วนมาจับนิดผสมหน่อยให้เหมาะกับสไตล์และวัยของเธอเอง สิ่งสำคัญสุดที่เธอแนะนำคือขอแค่มีความมั่นใจในตัวเอง อยากใส่อะไรก็ใส่ไป อย่าไปยึดติดกับวัยว่าอายุเท่านี้แล้วห้ามใส่แบบนี้ ลองออกนอกกรอบดูบ้าง
“พี่ว่าอยากแต่งอะไรก็แต่งไปเถอะถ้าเรามีความสุข อย่าไปจำกัดตัวเองว่าอายุเท่านี้แล้วเราต้องเกล้ามวยนะ ต้องใส่ผ้าลูกไม้นะ หยุด เพราะถ้าแต่งแบบนั้นจะทำให้เราดูแก่ลงไปเรื่อยๆ เราแต่งแบบนั้นได้ตอนเราไปงานบวชหรืองานอะไรที่เป็นวัฒนธรรมหรือขนบประเพณี แบบนั้นเราแต่งได้ แต่ถ้าป็นชีวิตประจำวัน อยากแต่งอะไรก็แต่งไปเถอะ แบบที่เรามีความสุข อย่าไปจำกัดตัวเอง ต้องออกนอกกรอบบ้าง พี่เข้าใจว่าคนทำงานออฟฟิศบางคนก็อยู่ในกรอบ ก็ไม่กล้าออก แต่ถ้าเรากล้าที่จะแต่งก็ออกนอกกรอบได้”
...
นอกจากสไตล์การแต่งตัวของพี่ต่ายที่ดูโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์แล้ว เรื่องทรงผมของพี่ต่ายเองก็เป็นคนหนึ่งที่สะท้อนความออกนอกรอบของตนเองได้เป็นอย่างดี เพราะการได้เปลี่ยนทรงผมใหม่ๆ ก็ทำให้เกิดความสนุก กระชุ่มกระชวย พร้อมแนะนำว่าเราควรปล่อยให้ตัวเองได้มีความสนุกบ้าง อย่าไปอยู่ในกรอบเพียงอย่างเดียว
เปิดใจรับฟังและเรียนรู้ไปกับคนรุ่นใหม่
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้พี่ต่ายเป็นที่ชื่นชอบของคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตาหรือสไตล์การแต่งตัว แต่ยังรวมถึงทัศนคติในการมองโลกที่ผ่านมาทุกยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเธอมองว่าการมีประสบการณ์เป็นสิ่งที่ดี แต่ขณะเดียวกันก็ควรปรับตัวและเปิดรับความคิดให้เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปด้วย
“เนื่องจากวัยเราผ่านอะไรมาเยอะ เรามีประสบการณ์มามากก็เป็นกำไรมากกว่าคนรุ่นใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์มากเท่าเรา แต่ถ้าไปคุยกันก็มีการถกเถียงกันบ้าง ไม่เป็นไร เพราะด้วยรุ่นของเขาเราก็ต้องยอมรับ ฟัง และเรียนรู้ตามเขาไปด้วย เพราะเทรนด์มันเปลี่ยนไปแล้ว และวัยเราก็ห่างจากเขาเยอะ และต้องศึกษาจากเขาด้วย บางทีการที่เราได้คุยกับคนรุ่นใหม่ก็มีอะไรที่มาสอนเราเหมือนกัน พี่ว่าไม่ใช่เรื่องห่างไกลหรือน่าหวาดกลัว พี่กลับชอบที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากน้องๆ มากกว่า เราต้องเปิดรับ อย่าไปยึดติดว่าเราเคยผ่านมาก่อน แบบนี้ไม่ได้ เพราะยุคเขาก็เจออะไรที่ต่างไป บางครั้งเขามีอะไรมาปรึกษาเรา เราก็แนะแนวไปนิดหน่อยแบบกว้างๆ พี่สามารถอยู่ได้กับคนรุ่นใหม่ไม่มีปัญหาเลย”
...
ภาพ: IG @penpakss