หลายคนบอกว่าดูภายนอกเข้าถึงยาก ลุคดูเป็นไฮโซ แต่จริงๆ แล้ว “รองกลาง ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บอกถึงความเป็นตัวตนของตัวเองว่า เป็นคนง่ายๆ สบายๆ แต่มีมุมมองที่ชัดเจนทั้งในเรื่องการทำงานและการใช้ชีวิตส่วนตัวเท่านั้นเอง
“ฐาปนีย์” หรือที่รู้จักกันดีว่า “รองกลาง” ชื่อเรียกขานตามชื่อเล่น และตามตำแหน่งรองผู้ว่า ททท. เพิ่งได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ ททท. มีผลในวันที่ 1 กันยายน 2566 ต่อจาก ยุทธศักดิ์ สุภศร ผู้ว่าการ ททท. ที่จะหมดวาระลงในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ ทำให้จากเดิมเป็นที่รู้จักอย่างดีในแวดวงธุรกิจ และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอยู่แล้ว ล่าสุดหลายคนอยากรู้จัก ผู้ว่าการ ททท. คนใหม่มากขึ้นอีก ทั้งในเรื่องของหลักการทำงาน ชีวิตครอบครัว และไลฟ์สไตล์ส่วนตัว
ความลงตัวของงาน และครอบครัวของ ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์
ในฐานะผู้บริหารสูงสุดขององค์กรสำคัญระดับประเทศ อย่าง ททท. แต่ละวัน ฐาปนีย์ ต้องเจอกับเรื่องใหม่ๆ และท้าทายตลอดเวลา แต่ใช่ว่าชีวิตจะจริงจัง และเคร่งขรึมตลอดเวลา
“กลางเป็นคนสบายๆ มาก ดูเหมือนไฮโซ แต่ตัวจริงไม่ไฮโซเลย ติดดินมาก กลางมีพี่น้อง 4 คน กลางเป็นข้าราชการ มีน้องสาวฝาแฝด เป็นนักธุรกิจมีไลฟ์สไตล์แตกต่างกัน แต่ว่าสนิทกันเจอกันตลอด ส่วนพี่ชายเป็นนักธุรกิจ และน้องชายเป็นตำรวจ
...
กลางเป็นสไตล์สบายๆ ลุยๆ เป็นสายทำงาน สายกิจกรรม มีความมั่นใจในตัวเองนิดนึง ไม่ใช่ว่ามั่นใจในทางที่ไม่ดีนะ” ฐาปนีย์ บอกกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์อย่างเป็นกันเอง และยังเล่าถึงการทุ่มเทเพื่องานอย่างเต็มที่ เข้าข่ายบ้างาน (workaholic) แต่ยังบริหารเวลามาดูแลครอบครัวได้เต็มที่ โดยมีคุณพ่อเป็นแบบอย่าง
“คุณพ่อกลางเป็นคนทำงานหนัก ตอนเย็นกลับมาทานข้าวเย็น กลับมาเจอกันที่บ้าน กลางก็เป็นสไตล์นั้น เช่น ไปต่างประเทศเสร็จงานก็รีบกลับ หรือไปต่างจังหวัดก็พยายามไม่ค้าง แม้จะกลับบ้านดึกแค่ไหนก็ตาม เพราะยังได้เจอลูก เจอสามี การได้กลับบ้านทำให้ได้ใช้เวลาร่วมกัน”
การได้ใช้เวลาด้วยกันในครอบครัว พ่อแม่ลูก เป็นวิธีสำคัญในการดูแลลูกสาวคนเดียว ที่ตอนนี้เติบโตเป็นวัยรุ่นแล้ว ในฐานะบทบาทของแม่ จะต้องเป็นเหมือนเพื่อนและเป็นได้ทุกอย่าง คุยกับลูกเหมือนเป็นเพื่อน
ความลงตัวในการใช้เวลาร่วมกันที่บ้าน เพราะเด็กช่วงวัยนี้ ก็ไม่ได้อยากไปเที่ยวทุกที่ตลอดเวลา มีสังคมออนไลน์ มีสื่อโซเชียล มีความสุขในการคุยกับเพื่อนๆ เพราะตอนนี้คุยเห็นหน้ากันได้ และในฐานะแม่ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของเพื่อนๆ เขาได้
ความเข้าใจซึ่งกันและกันในครอบครัว ทำให้หาเวลาอยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว
“ช่วงไหนที่แม่ไม่ต้องทำงาน หรือวันหยุด ก็ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันบ้าง ตามเทศกาลก็ไปบ้าง แต่น้อยมาก เพราะส่วนใหญ่ ททท. มีงานช่วงเทศกาล แต่เขาจะมีความสุขกับการอยู่บ้าน อยู่กับคุณตาคุณยาย อยู่กับคุณพ่อ ยิ่งตอนนี้เขาเริ่มโตขึ้นเริ่มมีกิจกรรมที่ชอบ สนใจเรียนแอเรียล ไอซ์สเกต เหมือนเป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งที่เขาอยากทำได้ดี ช่วงนี้ก็ใช้เวลาทำกิจกรรม ต่อไปก็ต้องเน้นเรื่องการเรียนแล้ว”
ความผูกพันในครอบครัว ไม่ใช่เพียงแค่แม่มีต่อลูกเท่านั้น แต่ข้าวหอม ในฐานะลูกของผู้บริหารหญิงแกร่ง ก็ห่วงใยในความรู้สึกของพ่อแม่ด้วย
"ตอนไปแข่ง แอเรียล ไอซ์สเกต ทั้งที่เพิ่งเรียนได้แค่ 7-8 เดือน ข้าวหอม ก็กลัวมากว่าคุณพ่อคุณแม่จะเสียหน้า กลัวแข่งแล้วไม่ได้ดี เขาพูดเลยว่า มีความกังวล เพราะกลัวไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่เสียใจถ้าเขาทำได้ไม่ดี คุณพ่อก็ต้องแอบขึ้นไปดูข้างบน พอดีกลางอยู่ที่ญี่ปุ่นก็ให้คุณพ่อถ่ายรูปส่งมาให้ดู สุดท้ายเขาก็ทำได้”
ในฐานะพ่อกับแม่ สิ่งที่บอกลูก เพื่อเป็นกำลังใจคือ “ข้าวหอมเต็มที่เลยนะ หนูก็บอกเองว่าหนูไม่ต้องการมาเป็นมืออาชีพ ทำเป็นงานอดิเรก เพราะฉะนั้นคนคนนึ่งที่ทำงานอดิเรกได้ดี ถึงขั้นได้มาแข่งถือว่าดีที่สุดแล้ว”
เคล็ดลับความสุข จากตุ๊กตาโบราณ อาร์ตทอย และผ้าไทย
นอกจากการดูแลครอบครัวแล้ว ความเป็นผู้หญิงในวัยใกล้เลข 5 นี้ ฐาปนีย์ บอกเคล็ดลับการดูแลตัวเองว่า “เราต้องห้ามทำตัวแก่ตลอดเวลา คือเราทำตัวอาวุโสได้ แต่เราต้องมีโมเมนต์ที่เป็นธรรมชาติของเราเอง ด้วยความที่กลางอยู่กับคุณพ่อคุณแม่ เราก็จะคิดว่าเราเป็นเด็กเล็กๆ ตลอดเวลา ถึงแม้เรา 10 ขวบ 20 ขวบ 30 ขวบ 40 ขวบ 50 ขวบ เราก็คุยกับพ่อแม่เหมือนสมัยเด็กๆ แล้วจิตใจเราก็จะไม่รู้สึกว่าเราแก่”
...
นอกจากนี้ ยังมีความสุขกับสิ่งที่ชอบด้วย คือเรื่องของการแต่งกายด้วยชุดผ้าไทย และการสะสมตุ๊กตาโมเดล โมเดิร์นวินเทจสไตล์ ซึ่งชอบมาตั้งแต่ตอนเรียนมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะตุ๊กตาโบราณเซลลูลอยด์ สะสมไว้จำนวนมาก แต่ไม่ได้ออกมาโชว์ ต้องเก็บไว้อย่างดี เพราะตอนลูกอายุ 3-4 ขวบ กลัวตุ๊กตาเก่า
ฐาปนีย์ เล่าถึงตุ๊กตาโบราณตัวโปรดอย่างมีความสุขที่สะสมไว้ เช่น ของเยอรมัน เชอรี่ เทมเปิล (Shirley Temple) ปี 1936 หรือ กวินทูเพร็ท โดย อเล็กซานเดอร์ (Quintuplets by Alexander) ซึ่งเป็นตุ๊กตาโบราณแฝด 5 ที่เก็บรักษาไว้อย่างดี ที่มาที่ชอบตุ๊กตาแนวนี้ เพราะคุณแม่ซื้อตุ๊กตาแนวนี้ให้ตอนเด็ก พอโตขึ้นมากก็ชอบตุ๊กตาแนววินเทจ และตอนนี้มีอาร์ตทอยจากดีไซเนอร์คนไทยอีกด้วยจำนวนมาก ทั้งที่บ้าน และที่ห้องทำงาน
ส่วนที่มาของการชอบสวมใส่ผ้าไทย ก็มาจากที่ทำงานลงชุมชนบ่อย ดังนั้นชุดทำงาน และชุดออกงานต่างๆ ของ ททท. ที่หลายคนคุ้นตาเมื่อเจอรองกลาง คือ มาในชุดผ้าไทย ที่ออกแบบเองหลายสไตล์ และมีที่มาของผ้าหลากหลายพื้นที่
...
“ด้วยความที่เป็นคนชอบแต่งตัว ชอบออกแบบเสื้อผ้าเอง โดยดูตามไอจีบ้าง ดีไซน์เองบ้าง วางลายเอง ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อเสื้อผ้า จะสั่งตัดมากกว่า มองว่าตอนนี้แฟชั่นมาเร็วไปเร็ว ตัดเองดีกว่า และได้ใช้ผ้าที่ซื้อมาด้วย ต้องบอกว่าชุดผ้าไทยมีเยอะมาก"
ผ้าที่ชอบมี ผ้าซิ่นตีนจก ผ้ามัดหมี่ แต่ตอนนี้ที่ชอบมากสุดคือ ผ้าปาเต๊ะ เขียนลายต่างๆ และผ้าแพรวา จ.กาฬสินธุ์ ผ้าขาวม้าลายผ้าไหม ผ้าทิวมุกจกดาว จ.อุบลราชธานี ผ้าลายขอ มีของทุกภาค ผ้าฝ้าย ผ้าย้อมครามแบบที่ลิซ่าใส่ ผ้าหมักโคลนอัคนีก็ชอบใส่สบาย นอกจากนี้ยังชอบผ้า และเครื่องประดับอาข่าอีกด้วย ซึ่งความชอบในผ้าไทยนี้ ยังได้เชื่อมโยงมาเป็นแคมเปญ ททท. แต่งไทยไปเที่ยว จนได้รับความสนใจในกลุ่มนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน
"ทั้งตุ๊กตาและผ้าไทยนี้ สะสมแล้วทำให้ใจฟู อาจไม่ใช่ความสุขอย่างเดียว แต่เวลาที่เราเครียด ก็ช่วยผ่อนคลายได้อย่างดี" ทั้งหมดนี้ ฐาปนีย์ ปิดท้ายด้วยว่า "ความชอบนี้ คือสิ่งที่ดีต่อใจอย่างยิ่ง"
...
ภาพ : ธนัท ชยพัทธฤทธี