“แพม ภาณุมาศ จิราธิวัฒน์” ภรรยาคนเก่งของ “กิ๊ด ธีระเกียรติ จิราธิวัฒน์” มาอัปเดตชีวิตในช่วงนี้ กับทีมไทยรัฐออนไลน์ ที่เห็นภาพชัดว่าลงตัว และแฮปปี้สุดๆ หลังจากผ่านความเป็นแม่แบบพะวงห่วงลูกทุกอย่าง มาจนถึงการชนะความกลัวด้วยความกล้าอย่างเต็มที่

ผู้หญิงเก่งมากความสามารถในการบริหารจัดการทั้งงานในบ้านและนอกบ้าน เวลานี้ต้องยกให้ “แพม ภาณุมาศ จิราธิวัฒน์” ซึ่งนับตั้งแต่แต่งงานกับ “กิ๊ด ธีระเกียรติ จิราธิวัฒน์” คุณแพมให้ความสำคัญกับเรื่องครอบครัวมาตลอด แม้ช่วงแรกยังทำงานประจำด้านการโรงแรมตามที่เรียนมา แต่หลังจากคลอดลูกสาวคนแรก “เฟน อติภา จิราธิวัฒน์” ก็มุ่งมั่นทำหน้าที่คุณแม่ให้ดีที่สุดด้วยการเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง รวมไปถึงการดูแลลูกชายคนที่ 2 “ฟรองซ์ อิทธิวัฒน์” และลูกสาวคนเล็ก “เฟบ สุพิชชา” 

การทำหน้าที่คุณแม่ ไม่ใช่แค่รับ-ส่งไปโรงเรียน ไปเรียนพิเศษ หรือเล่นกีฬา งานอดิเรกต่างๆ แต่ยังร่วมทำกิจกรรมกับลูกอย่างสม่ำเสมอ และเมื่อลูกๆ เริ่มโตจึงกลับมาทำในสิ่งที่รักคือ การเป็นดีไซเนอร์แบรนด์เสื้อผ้าภายใต้ชื่อ “Panumas” (ภาณุมาศ) โดยไม่ทิ้งบทบาทความเป็นแม่และภรรยาที่ต้องคอยดูแลครอบครัว ดูแลลูกและสามี คู่ขนานไปกับการทำงานที่ตัวเองรัก

ครอบครัวอบอุ่น กิ๊ด ธีระเกียรติ - แพม ภาณุมาศ จิราธิวัฒน์  พร้อมลูกๆ ทั้งสามคน
ครอบครัวอบอุ่น กิ๊ด ธีระเกียรติ - แพม ภาณุมาศ จิราธิวัฒน์ พร้อมลูกๆ ทั้งสามคน

...

คุณแพม ได้มาอัปเดตชีวิตในช่วงนี้ กับทีมไทยรัฐออนไลน์ว่า ได้บาลานซ์ครอบครัวกับงานด้วยการแบ่งเวลาให้ลงตัวที่สุด ทั้งดูแลลูกๆ และสามี เรื่องการเลี้ยงลูกวางแผนไว้แล้วว่าลูกต้องมีความเป็นไทย เป็นเด็กมีมารยาทงาม มีกิริยามารยาทเรียบร้อย จึงให้เริ่มเรียนในโรงเรียนไทย จากนั้นย้ายไปโรงเรียนอินเตอร์ ต่อด้วยไปอยู่โรงเรียนประจำที่เมืองนอกก่อนเข้ามหาวิทยาลัย 

พอเข้ามหาวิทยาลัย ลูกอยู่ในโลกที่ไม่ได้อยู่ในแคมปัสแล้ว ทุกอย่างวางแผนให้ลูกค่อยๆ ปรับตัว ในตอนนี้ลูกสาวคนโตเรียนอินทีเรียดีไซน์ (ตกแต่งออกแบบภายใน) ที่ Falmouth University (มหาวิทยาลัยฟัลเมาท์) อังกฤษ ส่วนลูกชายเรียน Babson college (วิทยาลัย แบ็บสัน) ที่สหรัฐอเมริกา ขณะที่ลูกสาวคนเล็กเพิ่งสอบเข้าเรียนที่ Babson college ได้เช่นกัน โดยจะไปเริ่มเรียนในปีหน้า ซึ่งวิทยาลัยแบ็บสัน มีความโดดเด่นในการสอนการเป็นนักธุรกิจของผู้ประกอบการ

แม้ทุกอย่างจะเพียบพร้อม แต่กว่าจะถึงจุดนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคุณแพม โดยเฉพาะกว่าจะผ่านอาการหนักในความเป็นมนุษย์แม่ที่ห่วงพะวงลูกตลอดเวลา

คุณแพม ภาณุมาศ กับ “เฟน อติภา” บุตรสาวคนโต
คุณแพม ภาณุมาศ กับ “เฟน อติภา” บุตรสาวคนโต

อาการหนักแบบเฮลิคอปเตอร์ มัม กว่าจะผ่านมาได้ ไม่ง่าย

ช่วงที่ตัดสินใจให้ลูกสาวคนโตไปเรียนไฮสกูลที่ประเทศอังกฤษ ตอนเดินทางไปใหม่ๆ รู้สึกเป็นห่วงมาก คุณแพมบรรยายให้เห็นภาพว่า ทำตัวเป็นเหมือน “เฮลิคอปเตอร์ มัม” วนอยู่กับลูกตลอดเวลา 

ยกตัวอย่างเหตุการณ์วันหนึ่งลูกโทร. มาบอกว่าไม่สบายใจ คุยกันตอนเช้า พอเย็นเดินทางไปหาเลย เพราะตอนที่ลูกไปอายุ 15 ปี ถือว่าไม่เล็ก ไม่โตมาก จริงๆ ไม่อยากให้ไปเพราะอยากเก็บลูกไว้กับตัวให้นานที่สุด แต่ด้วยความที่เป็นลูกคนโตก็อยากให้ออกจาก คอมฟอร์ต โซน พื้นที่คุ้นชินไปใช้ชีวิต เพื่อให้ต่อไปช่วยเหลือดูแลตัวเองและดูแลน้องๆ ได้ 

“แม้ส่งไปอยู่ประจำแต่ก็เป็นห่วงมาก ช่วงที่ลูกปรับตัวเราก็ปรับตัวด้วย พอมีอะไรที่ไม่สบายใจมาบอก เราก็ไม่สบายใจไปด้วย อาจดูเป็นแม่ที่เยอะไป แต่ด้วยความเป็นแม่ก็คิดต่างๆ นานา ลูกชั้นเป็นอะไรเหรอ ต้องไปโรงเรียน ต้องไปคุยกับครูมีอะไรหรือเปล่า” 

ผ่านมา 5 ปีแล้ว คุณแพมบอกว่าตอนนี้ผ่อนคลายขึ้น เพราะรู้แล้วว่าลูกสามารถดูแลตัวเองได้ มีความเชื่อใจกันและกัน สิ่งที่ย้ำกับลูกคือ “ลูกจะทำอะไรที่ไหนแม่ไม่ว่าเลย ขอให้ปลอดภัย ลูกจะไปเที่ยวที่ไหน แม่ห่วงเรื่องความปลอดภัยเท่านั้น” 

ความเป็นห่วงจนล้น และถูกเข้าใจว่าไม่วางใจ จึงทำให้ในบางเวลาความสัมพันธ์ระหว่างกันไม่ดีนัก

“ตอนแรกลูกต่อต้านเหมือนกัน คิดว่าแม่จะมาจับผิด บอกกับเขาไปตรงๆ ว่าไม่เลยนะ ไม่ได้มาจับผิด พร้อมกับพยายามทำตัวเป็น คูล มัม (Cool mom) เขาจะไว้ใจเราว่าแม่คอยซัพพอร์ตเขานะ ไม่ได้ห้ามไปทุกเรื่อง เราพยายามเบลนด์กับเขาว่าเราเป็นเพื่อนเขา แม่อยู่เพื่อซัพพอร์ตลูก ไม่ใช่ว่าจะห้ามทำโน่นทำนี่ พอเขาไว้ใจเรา ก็มีมาบอกว่า แม่ช่วยฟอลโลว์เพื่อนฝรั่งเขาหน่อย เพราะเขาเห็นว่าแม่เป็นคูล มัม”

...

จากคุณแม่ที่เป็น เฮลิปคอปเตอร์ มัม มาโดยตลอด ต้องใช้เวลา 3 ปี ปรับตัวมาเป็น คูล มัม เพราะตอนไปเยี่ยมลูกที่เมืองนอก ก็รู้แล้วว่าลูกสามารถดูแลตัวเองได้ เชื่อใจลูก ลูกเชื่อใจเรา จนตอนนี้ลูกรู้สึกว่าแม่เป็นเพื่อนเขา  

การเรียนดำน้ำ และเตรียมพร้อมของ แพม ภาณุมาศ เพื่อให้รู้จริงและเลิกกลัว
การเรียนดำน้ำ และเตรียมพร้อมของ แพม ภาณุมาศ เพื่อให้รู้จริงและเลิกกลัว

ชนะความกลัวด้วยความกล้า เรียนรู้พร้อมกับลูก

ความเป็นแม่ไม่ใช่แค่บอกว่าห่วง แต่ต้องทุ่มเทเวลาให้อย่างเต็มที่ ทำอะไรทำด้วยกัน ย้อนเวลาไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ช่วงนั้นลูกสาวอายุ 18-19 ปี ส่วนคุณแพมอายุ 50 ปี อยู่ๆ ลูกสาวมาบอกว่าอยากดำน้ำ แม้ว่าตัวเองเป็นคนขี้กลัวมาก เพราะคุณย่า (ลำยงค์ บุณยรัตพันธุ์) ผู้ก่อตั้งห้องเสื้อระพี เลี้ยงมาเหมือนไข่ในหิน ทำให้กลัวไปหมด เมื่อลูกมาบอกว่าอยากดำน้ำ ก็บอกลูกเลยว่า แม่ไปเรียนด้วย ลูกอยากฟรีไดร์ฟแม่ก็ไปเรียนด้วย เมื่อลูกมาบอกว่าอยากเรียนที่ไหน คุณแพมรู้จักก็ติดต่อให้ 

“ไปเรียนด้วย พอสนิทแล้วก็ไปออกทริปด้วยกัน แม้ลูกเป็นคนหาครู แต่เราก็ไปแอปปรู๊ฟด้วยว่าโอเคไหม คือ ทุกอย่างต้องผ่านแม่หมด ก็ทำให้รู้ข้อมูล และมั่นใจมากขึ้น” (หัวเราะด้วยความสุข)

ถ้าพูดถึงความกลัวนั้น คุณแพมเล่าถึงความรู้สึกเมื่อไปดำน้ำว่า มีความกลัวแน่นอน แต่ทุกอย่างมีวิธีก้าวข้ามความกลัวได้

“กลัวมาก แต่กลัวก็ต้องทำ เวลาไปดำน้ำได้นอนบนเรือ 4-5 วัน ได้อยู่กับลูก ถือเป็นช่วงที่มีคุณภาพ จริงๆ เป็นคนกลัวแอดเวนเจอร์ กลัวไม่ปลอดภัย แต่พอเราได้ไป ก็ เป็นการเปิดโลก เราลงไปดำน้ำ ได้รู้ว่าดำน้ำอย่างไรให้ปลอดภัย หลังได้ออกทริปดำน้ำ ได้จัดการทุกอย่าง ดูตั้งแต่การหาเรือ ความปลอดภัยระหว่างอยู่บนเรือ เวลาลงดำน้ำต้องทำอย่างไร ระวังอะไรบ้าง แต่ละครั้งต้องมีการแก้ปัญหา และมีแบ็กอัพแพลนเตรียมไว้ตลอด ถือเป็นการก้าวข้ามความกล้วด้วยการมีการจัดการวางแผนที่ดี”

การชนะความกลัว ด้วยการวางแผนอย่างดี จนทำให้เกิดความสุข ในแบบที่คุณแพมบอกว่า จากเมื่อก่อนไม่ค่อยชอบไปกับแม่และเพื่อนแม่ ตอนนี้เฮฮาสนุกสนานกันมาก เวลาไปดำน้ำจะเป็นช่วงที่ลูกกลับจากอังกฤษช่วงซัมเมอร์ ซึ่งเราก็จะไปกับลูกทุกครั้ง แต่ก็มีบ้างที่ช่วงหลังๆ ไปกับเพื่อน บางครั้งก็ไปกับเพื่อนแม่ จากวันที่ดำน้ำครั้งแรก มาถึงตอนนี้ประมาณ 3 ปีแล้ว คุณแพมก็ยังคงไปดำน้ำและฟรีไดรฟ์กับลูกสาวบ่อยครั้ง

...

ส่วนกิจกรรมกับลูกชายก็ไม่เคยขาด เมื่อลูกชายอยากไปตีกอล์ฟ คุณแพมซึ่งกลัวการออกแดดมาตลอด ก็ต้องออกไปตีกอล์ฟพร้อมลูกชาย 

เมื่อลูกชายไปตีกอล์ฟ คุณแพม ในฐานะที่เป็นคุณแม่ก็ต้องไปเรียนรู้ด้วย
เมื่อลูกชายไปตีกอล์ฟ คุณแพม ในฐานะที่เป็นคุณแม่ก็ต้องไปเรียนรู้ด้วย

“ไม่เคยตีกอล์ฟเลย ตอนที่สามีตีกอล์ฟ ก็คิดในใจว่าตีทำไม เสียเวลา อย่างตีเทนนิสแค่ 1 ชั่วโมงก็เสร็จแล้ว แต่ตีกอล์ฟเสียเวลาไปทั้งวัน และตอนนั้นลูกเล็กด้วย เอาเวลามาอยู่กับลูกดีกว่า พอลูกชายเริ่มเอาจริงเอาจังกับการตีกอล์ฟ แม่ก็เริ่มไปเรียนพร้อมลูก และเริ่มตีไปกับลูก ส่วนลูกสาวคนเล็กไม่มีกิจกรรมแบบนี้ ชอบตีแบดมินตันก็ชวนแม่ไปตี และมีช่วงหนึ่งเล่นโยคะฟลาย ไม่ได้ทำอะไรแอดเวนเจอร์เหมือนพี่สาว หรือตีกอล์ฟเหมือนพี่ชาย กำลังคิดว่าจะหลอกล่อให้ไปเรียนกอล์ฟหรือดำน้ำ” คุณแพม กล่าวด้วยรอยยิ้ม

แพม ภาณุมาศ คุณแม่คนเก่ง กับภารกิจสร้างสมดุลความสุขในบ้านจิราธิวัฒน์ (ภาพ : ชุติมน เมืองสุวรรณ)
แพม ภาณุมาศ คุณแม่คนเก่ง กับภารกิจสร้างสมดุลความสุขในบ้านจิราธิวัฒน์ (ภาพ : ชุติมน เมืองสุวรรณ)

ปิดท้ายจากคุณแพมที่พร้อมให้คำแนะนำคุณแม่ทั้งหลายที่มีความกลัวในการทำสิ่งต่างๆ ว่า “เราต้องเดินเข้าไปหา ไปชน มองย้อนว่าเราจะได้อะไรจากตรงนี้ เป็นการคิดบวกเข้าไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไรที่โลดโผนหรืออันตราย หากเป็นแบบนั้น ก็ไม่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง เท่านี้ ก็จะทำให้เรากล้าทำสิ่งต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย”