สำหรับนักอ่านตัวยงหรือหนอนหนังสือ ที่คร่ำหวอดในแวดวงการอ่าน การเขียน มานาน คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์ สำนักพิมพ์คนไทยที่อยู่เคียงข้างคอยเสริมอาหารสมองให้เด็กไทยมายาวนานถึง 25 ปี

นานมีบุ๊คส์ (Nanmeebooks) ไม่ได้เป็นแค่สำนักพิมพ์อีกต่อไป แต่ยังปรับตัว ต่อยอดไปสู่ธุรกิจด้านอื่นๆ ที่ทันสมัย อย่างการเป็น ‘ผู้ให้บริการด้านการเรียนรู้’ ภายใต้การบริหารของสาวสวย คิม จงสถิตย์วัฒนา ทายาทของคุณสุวดี จงสถิตย์วัฒนา ที่ได้ก้าวเข้ามาเป็นกรรมการผู้จัดการนานมีบุ๊คส์อย่างเต็มตัวแล้ว

ในวันสบายๆ ท่ามกลางบรรยากาศสดใสที่เขาใหญ่ ไทยรัฐออนไลน์ เดินทางมาพูดคุยกับทายาทคนโตแห่งอาณาจักรนานมีบุ๊คส์คนนี้ เพื่ออัพเดตชีวิตและการทำงานของเธอให้เราได้ทราบ การเข้ามารับช่วงธุรกิจต่อจากคุณแม่ ซึ่งสามารถทำได้ดีขนาดนี้ เธอมีเคล็ดลับการทำงานอย่างไร และมีไลฟ์สไตล์สุดคูลอย่างไรบ้าง มาดูกัน!

เริ่มต้นจาก DNA ‘คนทำหนังสือ’
คิมบอกว่าตอนนี้ทางบริษัทได้ต่อยอดธุรกิจใหม่ หันมาลงทุนที่พักโรงแรมในสไตล์ที่เหมาะกับหนอนหนังสือ แต่ก่อนจะไปถึงรายละเอียดตรงนั้น เธอเริ่มเท้าความให้เราฟังถึงที่มาที่ไปว่า

...

“ความจริงปีนี้นานมีบุ๊คส์ของเราครบรอบ 25 ปีแล้ว จากที่คุณแม่ สุวดี จงสถิตย์วัฒนา ออกมาเปิดบริษัทของตัวเองคือ นานมีบุ๊คส์ ตอนนั้นก็มีความตั้งใจว่าอยากทำหนังสือที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสังคม” คิมเล่า ปัจจุบันที่นี่ถือว่าเป็นสำนักพิมพ์ที่ทำหนังสือวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กและเยาวชนจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย  ต่อมามีการพัฒนาไปสู่หนังสืออ่านเสริม การจัดอบรมครูเพื่อใช้หนังสืออ่านเสริม จนมี Know How เป็นของตัวเอง

จากธุรกิจสำนักพิมพ์ สู่ผู้ให้บริการด้านการเรียนรู้
ปัจจุบันเธอพัฒนาต่อยอดสำนักพิมพ์แห่งนี้ไม่หยุด จนนานมีบุ๊คส์ได้ก้าวสู่การเป็น 'ผู้ให้บริการด้านการเรียนรู้' ซึ่งมีผลงานหลักๆ ได้แก่ สถาบันนานมีบุ๊คส์อินโนเวชั่น มีหลักสูตรห้องเรียนทดลองวิทย์ ที่ช่วยให้ครูสอนวิทย์แบบ Hands-On ได้ มีโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย และยังลงทุนในระบบติวเตอร์ออนไลน์คณิตศาสตร์ ชื่อ Maths-Whizz

อีกทั้งขยายไปสู่การให้บริการจัดค่ายการเรียนรู้สำหรับเด็ก และค่ายอบรมสำหรับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เช่น ค่ายตะลุยผจญภัย ค่ายสิ่งแวดล้อม ค่ายฝึกครู สำหรับเป็น Leading ship ค่ายสุนทรียสันทนา ค่ายการฝึกสติในที่ทำงาน เป็นต้น ซึ่งก็มีการก่อสร้างสถานที่สำหรับรองรับผู้เข้าร่วมค่ายในพื้นที่โซนเอและโซนบี ซึ่งถูกเรียกว่า Go Genius Learning Center

เล่าถึง Rain Tree Residence สักนิด
ล่าสุด เธอได้แนะนำเราให้รู้จักกับ Rain Tree Residence สถานที่พักผ่อนแห่งใหม่ในเขาใหญ่ ที่มีสไตล์การตกแต่งที่เอาใจคนรักการอ่าน อาคารแห่งนี้เป็นเฟสใหม่ล่าสุดที่ทางนานมีบุ๊คส์จัดทำขึ้น เพื่อรองรับลูกค้าในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มานอนพักผ่อนในเขาใหญ่ มีบริการทั้งหมด 27 ห้อง มีพื้นที่ชิลๆ สำหรับอ่านหนังสือ พักผ่อน ทั้งอินดอร์และเอาต์ดอร์ รวมถึงมีพื้นที่ห้องสมุดไว้บริการอีกด้วย

...

เรื่องราวของสาวสวยที่ชื่อ ‘คิม’
มาถึงเรื่องราวส่วนตัวและไลฟ์สไตล์ของเธอคนนี้กันบ้าง เชื่อว่าหลายคนรู้จักเธอเป็นอย่างดีอยู่แล้ว แต่อยากแนะนำอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่ง สำหรับ คิม จงสถิตย์วัฒนา เธอเป็นบุตรสาวคนโตของคุณพ่อพิชิต จงสถิตย์วัฒนา และคุณแม่สุวดี จงสถิตย์วัฒนา มีน้องสาว 1 คนที่อายุห่างกัน 3 ปีที่สนิทกันมาก คือ เจน จงสถิตย์วัฒนา

เรื่องราวของคุณแม่
สุวดี จงสถิตย์วัฒนา หรือคุณแม่ของคุณคิม เป็นผู้ก่อตั้งบริษัทนานมีบุ๊คส์ จำกัด เมื่อปี พ.ศ. 2535 คิมเล่าให้ฟังว่า สำหรับบางคนอาจจะเคยได้ยินและคุ้นเคยกับ คุณสุวดี อยู่บ้างแล้ว โดยคุณแม่เป็นบุคคลยุค 6 ตุลา เข้าป่าไป 3 ปี ตอนนั้นคุณแม่ไม่มีใบปริญญา สมัครงานที่ไหนก็ไม่ได้ แต่โชคดีได้โอกาสจากมติชน ทำงานเป็นนักข่าวที่นั่นอยู่ช่วงหนึ่ง

หลังจากนั้นก็ไปทำงานที่บริษัทนานมี เป็นบริษัทของอากงที่ขายเครื่องเขียนตราม้า แต่เนื่องจากว่าคุณแม่เป็นลูกสาวคนเล็กสุดในครอบครัวของคนจีน ที่มีพี่น้อง 8 คน ก็ไม่ค่อยได้เติบโตเท่าไหร่ ตอนนั้นคุณแม่ก็เลยตัดสินใจออกมาทำสำนักพิมพ์ของตัวเอง ก่อตั้งเป็นนานมีบุ๊คส์ในที่สุด

...

วิชาวิทยาศาสตร์ สำคัญที่สุด!
คิมบอกว่าตอนเด็กๆ ชอบเรียนวิชาเลข ฟิสิกส์ และศิลปะ โดยเฉพาะ วิทยาศาสตร์ เธอมองว่าวิชาวิทยาศาสตร์เป็นวิชาที่สำคัญ เพราะรู้สึกว่าวิทยาศาสตร์น่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างคนให้รู้จักคิดและรู้จักตั้งคำถาม คนส่วนใหญ่บางครั้งเห็นอะไรที่ผิดปกติ เห็นนะ แต่เฉยๆ ไม่ได้ลงมือแก้ปัญหา

“บางครั้งเห็นสิ่งที่ผิดปกติในสังคม การเมือง หรือเรื่องอื่นๆ เราก็โอเครับรู้ แต่เราเฉยๆ ตรงนี้ทำให้มองว่าวิทยาศาสตร์ และเรื่องการฝึกคิด ฝึกสังเกต เป็นสิ่งสำคัญ อยากให้คนในสังคมรู้จักสังเกตสิ่งที่ผิดปกติ คิดที่จะตั้งคำถาม มีกระบวนการคิดแก้ปัญหา และลงมือทำ เป็นเหตุผลหนึ่งที่ตอนนั้นเราทำหนังสือวิทยาศาสตร์เป็นหลักค่ะ”

...

หลักการทำงานของทายาทคนนี้
เคล็ดลับหลักการทำงาน เธอยอมรับว่าได้เรียนรู้มาจากคุณแม่ล้วนๆ นั่นคือ การเรียนรู้ไปทีละขั้น ไม่มีทางลัด ตั้งแต่พื้นฐานที่สุดไปจนถึงการบริหารสูงสุด เพื่อให้เข้าใจงานในทุกมิติ ในช่วงแรกเธอได้รับผิดชอบงานตั้งแต่การเป็นเด็กส่งหนังสือ ทำงานในแผนกคลังสินค้า งานฝ่ายขาย งานแผนกขายตรง ดูแลยอดขาย จนขยับมาเป็นผู้ช่วยกรรมการฯ และก้าวสู่กรรมการผู้จัดการของนานมีบุ๊คส์ในที่สุด

“ยุคแรกๆ ตอนที่นานมีบุ๊คส์เปิดบริษัทเมื่อ 25 ปีที่แล้ว เราทำนิตยสารที่ชื่อว่า Go Genius เป็นหนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ตอนแรกก็เจ๊งไปรอบหนึ่งแล้ว แต่พอเราได้รับลิขสิทธิ์ในการแปลและพิมพ์จำหน่ายแฮร์รี่พอตเตอร์ ทำให้เราเติบโตขึ้นมาอีกครั้ง ก็เลยทำหนังสือนิตยสารเล่มนี้ต่ออีก แม้ว่ายอดสมาชิกยังน้อยอยู่เหมือนเดิม (หัวเราะ) แต่ก็พยายามประคองไว้ให้ได้ดีที่สุด ตอนนี้เราก็มีรายได้หล่อเลี้ยงจากการ์ตูนชุดครอบครัวตึ๋งหนืดมาช่วยได้เยอะค่ะ”

ทีมงานดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
คิมเล่าอีกว่า การจะทำโปรเจกต์ใดโปรเจกต์หนึ่งให้สำเร็จได้ ไม่ใช่แค่มีไอเดียดีๆ เท่านั้น แต่ต้องมีทีมงานที่มีฝีมือและพร้อมจะลุยไปด้วยกัน

“เนื่องจากเราเป็นคนทำหนังสือ เลยอยากให้ห้องพักในโซน Rain Tree Residence มีกิมมิกเกี่ยวข้องกับหนังสือ หรือเกี่ยวกับนักเขียนคนสำคัญต่างๆ ก็เลยเรียกประชุมกองบรรณาธิการมาช่วยกันเลือกว่า เรามี 27 ห้อง เราจะเอานักเขียนคนไหนบ้าง เราก็เลือกมาทั้งนักเขียนชายและนักเขียนหญิง มีทั้งนักเขียนวรรณกรรม และนักเขียนเกี่ยวกับสารคดี ซึ่งจัดทำรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับนักเขียนคนนั้นมาติดไว้ในห้องด้วย รวมถึงมีคำคม ภาษิต จากหนังสือ มาประดับตกแต่งในห้องพักด้วย ซึ่งเป็นความร่วมมือร่วมใจกันของทีม”

ไอเดียใหม่ๆ ได้จากการเดินทางใกล้ตัว
การหาไอเดียการทำงานใดๆ ก็ตาม อาจจะได้มาจากการเดินทางเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ให้ชีวิต หรือการพักผ่อนในสถานที่ใหม่ๆ คิมเล่าว่าไอเดียการต่อยอดธุรกิจเหล่านี้ไม่ได้มาจากเรื่องไกลตัว แต่กลับเป็นสิ่งใกล้ๆ ตัว อย่างเช่นการทำสถานที่จัดค่ายอบรม จนต่อยอดมาถึงโรงแรมแห่งนี้ ก็เกิดขึ้นมาจากเรื่องใกล้ตัวเช่นกัน

“มีช่วงหนึ่ง เผอิญคุณแม่กับคุณพ่อกำลังหาที่ที่เขาใหญ่ เพื่อที่จะสร้างบ้านเตรียมเกษียณ ก็เลยมาเจอที่ตรงนี้ ก็ชอบและตกลงสร้างบ้านขึ้นมาหลังหนึ่ง ตั้งชื่อว่า ‘บ้านทรัพย์ทอง’ เพราะว่าอยู่หมู่บ้านทรัพย์ใต้ แล้วคำว่า ทอง มาจากชื่ออากงชื่อทองเกษม  เลยเป็นที่มาของชื่อบ้านทรัพย์ทอง

พอเราสร้างบ้านเสร็จปุ๊บก็รู้สึกว่าชอบบรรยากาศที่นี่มากเลย เราน่าจะขยายเป็นศูนย์ฝึกอบรมให้พนักงานนานมีบุ๊คส์ เหมือนเป็นสวัสดิการให้มาเที่ยวพักผ่อนที่นี่ ก็เลยทำส่วนต่อขยาย สร้างอาคารพักผ่อนที่รองรับได้ 80 คน เราเรียกว่าโซนเอ ต่อมาเมื่อคนเริ่มรู้จักเยอะขึ้น โซนเอก็ไม่เพียงพอ เลยต่อเติมโซนบีเพิ่มขึ้นมาอีก โซนนี้ก็นอนได้ 200 คน จนในที่สุดก็มีลูกค้ากลุ่มอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาอีก จนสามารถขยายเพิ่มมาเป็น Rain Tree Residence ในที่สุด”

ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวการเติบโตของธุรกิจ และมุมมองส่วนตัวของนักบริหารสาวคนนี้ เชื่อว่าคงเป็นแรงบันดาลใจที่ดีในการทำงานให้ประสบความสำเร็จ สำหรับสาวไทยอีกหลายๆ คนเลยทีเดียว.